ออดี้ปรับทัพส่ง 15 รุ่นลุยตลาด บริษัทแม่ไฟเขียว ขึ้นไลน์ผลิตปลั๊ก-อินในประเทศ

“ออดี้” จัดทัพรถใหม่ เสริมไลน์รถราคาต่ำ 3 ล้านลุยตลาด หลังบริษัทแม่ไฟเขียวพรึ่บอีก 15 รุ่นย่อย เร่งกวาดลูกค้าชอบของแรงส่ง “อาร์เอส” ทำตลาด เผยโรงงานผลิตปลั๊ก-อิน ไฮบริด คืบหน้ากว่า 50%


นายกฤษฎา ล่ำซำ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร อาวดี้ ประเทศไทย เปิดเผยถึงนโยบายการดำเนินธุรกิจของรถยนต์ออดี้ จากนี้ไป บริษัทจะเน้นการทำตลาดและนำเสนอรถยนต์ออดี้ ที่มีระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทเพิ่มมากขึ้น หลังจากตลอดระยะเวลา 3 ปีที่บริษัทได้เข้ามาดูแลตรงนี้มีรถในกลุ่มนี้คิดเป็น 10% หรือ 2 รุ่นของพอร์ตรถที่บริษัทจำหน่ายเท่านั้น คือ ออดี้ เอ1 และ เอ3 จากรถยนต์ที่มีทำตลาดอยู่ 24 รุ่นย่อยในปัจจุบัน

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าจะนำเสนอรถยนต์ออดี้ ราคาต่ำกว่า 3 ล้าน ให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 10% ในปัจจุบันเป็น 30% ในปีหน้า เนื่องจากบริษัทต้องให้แบรนด์ออดี้เป็นรถยนต์ที่สามารถจับต้องได้ง่ายขึ้น โดยในปี 2563 จะมีการส่งรถรุ่นย่อยออกสู่ตลาดอีกไม่น้อยกว่า 15 รุ่น ในจำนวนนี้จะมีราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ถึง 5 รุ่นย่อยด้วยและเชื่อว่าจะผลักดันให้ยอดขายออดี้ในประเทศไทย พร้อมตั้งเป้ายอดการจำหน่ายในปีหน้าเพิ่มขึ้นอีก 10% จากปีนี้ ที่คาดว่าจะมียอดขายใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 1,000 คัน หลังจาก 10 เดือนที่ผ่านมามียอดจองเข้ามาแล้ว 700-800 คัน

แต่เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา บริษัทประสบกับความล่าช้าของการส่งรถจากบริษัทแม่ เนื่องจากที่เยอรมนีมีการปรับเปลี่ยนการจัดเก็บภาษีตามค่าไอเสียใหม่ ซึ่งส่งผลให้แผนงานของบริษัทต้องมีการปรับเล็กน้อย และคาดว่ารถทั้งหมดของปีนี้จะสามารถส่งมอบได้หมดภายในครึ่งปีแรกของปี 2563

โดยตลอดช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาหลังจากบริษัทได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ออดี้ในประเทศไทยนั้น พบว่าแบรนด์มีเสถียรภาพเพิ่มมากขึ้น จากจุดเริ่มต้นของการนำสินค้าออกสู่ตลาดถึง 13 รุ่น ในช่วงที่ผ่านมา ก่อนที่จะเป็น 24 รุ่นในปีนี้ ส่งผลให้บริษัทมีความเชื่อมั่นและพอใจกับผลการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเป็นอย่างยิ่งและภายในปีหน้า บริษัทจะพยายามนำรถออดี้ ตัวแข่งอย่างรุ่นอาร์เอสเข้ามาทำตลาด เพื่อเจาะกลุ่มไฮเพอร์ฟอร์แมนซ์ด้วย

ด้านความคืบหน้าของการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุน ภายใต้โครงการรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด PHEV ของบริษัทไปยังสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินงานเพื่อเจรจาความพร้อมกับบริษัทแม่ ออดี้ เอจี ซึ่งถือว่ามีความชัดเจนแล้ว 50% และยังต้องใช้เวลาในการทำงานอีกระยะ

โดยเฉพาะเรื่องความชัดเจนในการตั้งโรงงานผลิต หรือประกอบรถยนต์ออดี้เอง หรือจะเป็นการจ้างโรงงานประกอบ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการหารือระหว่างกัน

ส่วนการตอบรับของรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง ออดี้ อีตรอน ที่บริษัทได้เปิดตัวออกสู่ตลาดประเทศไทยไปเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ขณะนี้ได้เริ่มทยอยส่งมอบลอตให้กับลูกค้าซึ่งเป็นพันธมิตรอย่าง แสนสิริ ไปแล้วจำนวนเกือบ 10 คัน จากยอดสั่งซื้อทั้งสิ้น 30 คัน และมียอดที่จะสามารถส่งมอบได้อีก 80 คันในปีหน้า จากยอดจองที่ให้ความสนใจและลงทะเบียนเข้ามามากถึง 120 คัน

“สำหรับรถยนต์อีวีนั้น การแข่งขันในตลาดถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในตอนเริ่มต้นกับตลาดเฉพาะกลุ่มก่อน จากนั้นเมื่อความพร้อมในทุก ๆ ด้านทั้งโครงสร้างพื้นฐานระบบสาธารณูปโภคที่เข้ามารองรับ ทั้งภาครัฐและเอกชนที่ต้องพัฒนาร่วมกัน ก็เชื่อว่าจะผลักดันให้รถยนต์ประเภทนี้มีความนิยมมากขึ้น” นายกฤษดากล่าว

นอกจากนี้ บริษัทแม่ ออดี้ เอจี ยังให้การซัพพอร์ตอย่างเต็มที่ในการนำรถยนต์ไฟฟ้า อีตรอน เข้ามาทำตลาด รวมทั้งการทำตลาดของบริษัทในการ แนะนำรถยนต์ออดี้รุ่นต่าง ๆ ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทแม่ได้ให้ความช่วยเหลือและซัพพอร์ตเป็นอย่างดี

ส่วนปีนี้คาดว่าตลาดรถหรูจะอยู่ในภาวะทรงตัว และปีหน้าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2-3% มีความต้องการอยู่ที่ระดับ 30,000 คัน