“บุญวิสุทธิ์” เสริมทัพแบรนด์มิตซู เท 20 ล้าน ผุด “เมโทรไลฟ์” กลางเมือง

ภาพจาก BURIN BOONVISUT
ตระกูล “บุญวิสุทธิ์” เดินหน้าลุยขายรถยนต์ต่อเนื่อง หลังเทกว่า 20 ล้าน ผุดโชว์รูมมิตซูบิชิ สไตล์ใหม่ “เมโทรไลฟ์”กลางเมือง เน้นพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจเจาะกลุ่มลูกค้าคนเมือง-รุ่นใหม่


นายบุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิตซูเมโทร จำกัดเปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัท หลังจากได้รับแต่งตั้งจากบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ เมื่อช่วง 5 ปีก่อนกับสาขาแรก มิตซูบิชิ เมโทร สาขาทหัยราษฎร์ โดยได้ใช้งบประมาณในการลงทุนไปกว่า 100 ล้านบาท และถือเป็นโชว์รูมที่ใหญ่สุดในเอเชีย-แปซิฟิก

ล่าสุดบริษัทได้ตัดสินใจลงทุนเปิดโชว์รูมสาขาที่ 2 หลังจากเล็งเห็นถึงโอกาสและศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจ จึงได้ตัดสินใจลงทุนมูลค่า 20 ล้านบาท โดยโชว์รูมแห่งนี้เป็นรูปแบบโชว์รูม 1 เอส โดยให้บริการเฉพาะส่วนของงานขายเท่านั้น

ส่วนงานบริการหลังการขาย อะไหล่ รถมือสอง, ส่วนบำรุงรักษาที่พร้อมด้วยจำนวนช่องบริการและห้องพ่นสี ที่บริษัทจะใช้วิธีการบริหารจัดการ ร่วมกับสาขาหทัยราษฎร์

สำหรับแฟลกชิปโชว์รูม “เมโทรไลฟ์”สาขาศรีอยุธยา เน้นคอนเซ็ปต์ เน้นความแปลกแหวกแนว เพื่อรองรับพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากงานศิลปะและดนตรี โดยจัดสรรพื้นที่ของโชว์รูมขนาด 434 ตร.ม. โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็นชั้น G ส่วนต้อนรับและจัดแสดงรถต้นแบบ หรือรุ่นแต่งพิเศษ ที่บริษัทจะนำมาจัดแสดงหมุนเวียนกันไป โดยประเดิมด้วยมิตซูบิชิ โมเดล เอ รุ่นจำลอง รถยนต์รุ่นแรกที่ผลิตขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2460 และมีพื้นที่ส่วนให้บริการของร้านกาแฟ

บริเวณชั้น 1 เป็นพื้นที่โคเวิร์กกิ้งสเปซ เปิดเป็นพื้นที่ให้บริการภายใต้แนวคิด การดีไซน์และสร้างแรงบันดาลใจ รองรับการจัดกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งงานดนตรี ศิลปะ นิทรรศการ อย่างปัจจุบันจัดเป็นนิทรรศการ Present from the Past นำเสนองานศิลปะด้วยเทคนิคใหม่ที่ผสานภาพวาดเข้ากับเทคโนโลยี AR (augmented reality) โดยศิลปิน พิชญาโอ

ส่วนพื้นที่ของชั้น 2 จะเป็นโชว์รูมขายและจัดแสดงรถรุ่นต่าง ๆ ที่จำหน่ายในปัจจุบัน

“จริง ๆ แล้วเรามีพื้นที่ของอาคารยิบซั่ม ซึ่งถือเป็นเฮดออฟฟิศของเราซึ่งมีพื้นที่ว่าง จึงเกิดแนวคิดที่จะทำโชว์รูมรถยนต์แนวเมโทรไลฟ์ขึ้น เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนเมือง ซึ่งอาจจะเฉพาะแค่ลูกค้าของมิตซูบิชิก็ได้ บุคคลทั่วไปเราก็พร้อมรองรับและให้บริการในการเข้าใช้พื้นที่จัดกิจกรรมต่าง ๆ”

ทั้งนี้ รูปแบบและแนวคิดที่โดยยึดตามความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ยังได้สอดคล้องกับกลยุทธ์ระดับโลกของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส “Drive your Ambition” และในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน บริษัทแม่ได้มีการเปิดโชว์รูมลักษณะนี้ที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยบริษัทตั้งเป้าว่า สาขาใหม่จะมียอดขาย 20-30 คันต่อเดือน หรือ 240 คันต่อปี และไปรวมกับสาขาหทัยราษฎร์ ซึ่งถือเป็นสาขาหลัก จะส่งผลให้บริษัทมียอดขายไม่น้อยกว่า 1,200 คันต่อปี

ในจำนวนนี้แบ่งเป็นการขายฟลีตให้กับลูกค้าหน่วยงานราชการ องค์กรต่าง ๆ 35% และ 60% เป็นกลุ่มลูกค้าทั่วไปส่วนปีหน้า บริษัทตั้งเป้าจะเติบโตอย่างน้อย 10%

“ปีหน้าที่เราได้เตรียมกิจกรรมเพื่อมอบความสุข ความสนุกให้กับลูกค้า และคนทั่วไป ที่เข้ามาเยี่ยมโชว์รูมสาขาศรีอยุธยาของเรามากมาย งานเรื่องศิลปะและดนตรี, ฟู้ดแอนด์ไวน์เทสติ้ง, ของสะสมและแก็ดเจตท่องเที่ยว, กีฬาและสุขภาพ รวมไปถึงเรื่องการศึกษา องค์ความรู้ด้านต่าง ๆ กิจกรรมเวิร์กช็อป มีตลอดทั้งปีอย่างแน่นอน”

ปัจจุบันกลุ่มเมโทร กรุ๊ป ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ถึง 4 แบรนด์ ได้แก่ โตโยต้า,ฮอนด้า, มิตซูบิชิ และเมอร์เซเดส-เบนซ์ ภายใต้การบริหารงานของนายบุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ และนายบดินทร์ บุญวิสุทธิ์ ซึ่งได้มีการแบ่งหน้าที่ในการดูแลชัดเจน

ก่อนหน้านี้ นายบุรินทร์ได้เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการแต่งตั้งจากเบนซ์ ไทยแลนด์ ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอเอ็มจี อีกหนึ่งแบรนด์ ซึ่งบริษัทได้ลงทุนเพิ่มเติมมูลค่า 400 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบฯลงทุนต่อเนื่อง และได้ลงทุนสำหรับงานบริการหลังการขาย อู่สี และในส่วนของโชว์รูมรถยนต์ใช้แล้ว ภายใต้แบรนด์ Mercedes-Benz Certified Pre-Owned Vehicles ที่โชว์รูมสำนักงานใหญ่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ พระราม 2โดยกลุ่มเมโทรตั้งเป้าจะต้องมีการเติบโตของยอดขายไม่น้อยกว่า 15-20% แบ่งเป็น รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ โต 5-10% จากปีก่อนที่มียอดขาย 680 คัน, รถยนต์ฮอนด้าโต 10% จากยอดขายประมาณ 700 คัน, รถยนต์มิตซูบิชิโต 20-30% มียอดขายเฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 100 คัน หรือ 1,200 คัน ในปีที่แล้ว ส่วนรถยนต์โตโยต้า จะมีการเติบโตต่อเนื่อง รวมทั้งปีราว 6 พันคัน