ดัมพ์ราคารถใหม่ชิงลูกค้า ‘เอสยูวี-พีพีวี’เหลือ 8 แสน

ค่ายรถระเบิดศึกงัดกลยุทธ์ราคาถล่มเดือด แตกรุ่นย่อย ใส่ออปชั่นเพิ่ม หวังกระตุ้นกำลังซื้อ จับตาตลาด “ปิกอัพ-เอสยูวี-พีพีวี” ค่ายมะกันเชฟวี่ทุบแคปติวาเหลือ 8 แสน “ฟอร์ด-อีซูซุ” กดราคาทุกรุ่น ระบุขายน้อยลงแต่แชร์ต้องเพิ่มขึ้น คนในวงการชี้อีโคคาร์ปีนี้หืดจับ

ตลาดรถยนต์ที่หดตัวมาตั้งแต่กลางปี 2562 จากผลกระทบเศรษฐกิจโลกซบ สงครามการค้า ค่าเงินบาทแข็ง ภัยแล้ง น้ำท่วม มู้ดจับจ่ายลดกำลังซื้อถดถอย รวมถึงความเข้มงวดของสินเชื่อที่กังวลเรื่องหนี้เสีย ทำให้ยอดขายรถยนต์ปี 2562 ทำได้เพียง 1 ล้านกับ 7 พันคัน หดตัว 4% ซึ่งปี 2563 เจ้าตลาดโตโยต้าและเบอร์หนึ่งปิกอัพอีซูซุ ประเมินปีนี้น่าจะทำได้แค่ 9.3-9.4 แสนคัน หดตัว 7-8%

ทุบแคปติวาเหลือ 8 แสน

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า จากยอดขายที่ทรุดลงต่อเนื่อง ทำให้ทุกแบรนดงัดกลยุทธ์เรียกคืนยอดขายด้วยการดัมพ์ราคา รวมถึงแตกรุ่นให้ถี่ขึ้นเพื่อวางระดับราคาให้ตรงความต้องการของลูกค้า และใส่ออปชั่นหลากหลายเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับตัวรถ ตลาดที่แข่งขันรุนแรงยังเป็นตลาดปิกอัพ เอสยูวี และปิกอัพดัดแปลงหรือพีพีวี โดยเฉพาะปิกอัพ 1 ตัน สัดส่วนการขายเพิ่มขึ้นน่าตกใจ ปีที่แล้วขยายตัวเกือบครึ่งของตลาดรถยนต์ทั้งระบบ

รายงานข่าวจากบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อกระตุ้นตลาดและคืนกำไรให้ลูกค้า บริษัทได้นำเอสยูวีรุ่นใหม เชฟโรเลต แคปติวา ลดราคาพิเศษ 130,000 บาท จากเดิม 999,000 บาท ตกแต่งเป็นรุ่นพิเศษ LS 300 คัน ราคา 869,000 บาท แคมเปญนี้มีถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ กลยุทธ์การตั้งราคาของเชฟโรเลตถือว่าประสบความสำเร็จดี เหมือนแคมเปญก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะรถปิกอัพดัดแปลง เทรลเบลเซอร์ LT ฟีนิกซ์ อิดิชั่น รุ่นพิเศษ ราคาต่ำกว่าล้านบาท

ฟอร์ดแตกเพิ่มรุ่นย่อย

นายวิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาวะที่ตลาดหดตัว ฟอร์ดใช้วิธีเลือกรถให้ตรงความต้องการของลูกค้า ทั้งออปชั่นและระดับราคา ล่าสุดได้ส่งเอเวอเรสต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ไททาเนียม 4×2 Sport ด้วยราคาแนะนำ 1,399,000 บาท จากปกติ 1,469,000 บาท ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Ford Ensure รวมถึงทำกระบะตอนเดียวขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อรองรับเกษตรกรที่ใช้งานจริงบนพื้นที่ซึ่งเป็นภูเขา ต้องการกำลังฉุดลาก ด้วยราคา 5.8 แสนบาท จากเดิมราคา 6.49 แสนบาท

“เราพยายามปิดช่องว่างตลาด เดิมรถพีพีวีขายในราคา 1 – 1.8 ล้านบาท แต่ตลาดที่ขายกันมากสุดคือ 1.4 ล้านบาทซึ่งฟอร์ดยังมีช่องว่างอยู่ ปีนี้เราเสริมตลาดด้วยรุ่นสปอร์ต ทำให้ฟอร์ดน่าจะขายได้เพิ่มเดือนละ 200 กว่าคัน ปีที่ผ่านมารถปิกอัพ เรนเจอร์ มีส่วนแบ่ง10%, รถพีพีวี เอเวอเรสต์ 4% ปีนี้ฟอร์ดยังเน้น 2 รุ่นนี้เป็นหลัก เรนเจอร์เร็ว ๆ นี้จะมีรุ่นใหม่เข้ามาเสริม เชื่อว่าการส่งรถเอเวอเรสต์ราคา 1.39 ล้านบาท น่าจะทำให้ฟอร์ดโตขึ้นขณะที่ตลาดหดตัว” นายวิชิตกล่าว

อีซูซุเข็นดีแมคซ์ครบไลน์

นายโทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้มากกว่าปีก่อน เชื่อว่าหากเปิดตัวอีซูซุดีแมคซ์ ใหม่ ได้ครบทุกรุ่นจะเพิ่มแชร์ได้อีกมาก ล่าสุดอีซูซุเสริมทัพมิว-เอ็กซ์ ใหม่ “เดอะ นิว ออนิคซ์” เพิ่มความสปอร์ตหรูให้เข้มขึ้น โดยเสริมออปชั่นให้กับรถ และชุดตกแต่งห้องโดยสารใหม่ ทั้งรุ่นเครื่องยนต์ 1.9 และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ราคาขายเท่าเดิมตั้งแต่ 1,364,000-1,421,000 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช่นเดียวกับโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ และมิตซูบิชิ ที่เป็นอีก 2 รุ่นหลักที่มีความแข็งแกร่งในตลาดแม้จะยังไม่มีความเคลื่อนไหว แต่หลายฝ่ายประเมินว่า เร็ว ๆ นี้ อาจมีทีเด็ด นอกจากแคมเปญเดิมที่ปาเจโร สปอร์ต ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี, รับประกันคุณภาพ 5 ปี ค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี รับดาวน์ 0% มิตซูบิชิช่วยผ่อน

ขณะที่ค่ายนิสสันก็ขยับราคาขายเทอร์ร่า เริ่มที่ 1.199 ล้านบาท ฟรีดอกเบี้ย 60 เดือน จากช่วงเปิดตัวนิสสันที่ตั้งราคาเทอร์ร่า รุ่นเริ่มต้น 2.3 V 2WD 7AT ไว้ 1,316,000 บาท สำหรับรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ ปีนี้ประเมินว่าจะมียอดขายลดลงเหลือ 146,560 คัน จากปีก่อนที่ 151,625 คัน

อีโคคาร์หืดจับ

นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า อีกตลาดที่น่าเป็นห่วงคือ ตลาดรถยนต์นั่ง ซึ่งปีนี้ประเมินว่าตลาดจะมีวอลุ่ม 358,500 คันหดตัวจากปีที่แล้วที่ทำได้เกือบ 4 แสนคันหรือหดตัวลง 10% ปัจจัยลบที่น่ากังวลสูงสุดคือ กำลังซื้อ และกำลังซื้อที่ลดลงจะกระทบเซ็กเมนต์อีโคคาร์ คิดว่าปีนี้ไม่น่าจะเติบโต ส่วนปิกอัพจะเป็นตัวขับเคลื่อน จากยอดขายปี 2562 ตลาดรวมปิกอัพมีสัดส่วนสูงเกือบ 60%

“ปัจจัยที่จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อครึ่งปีหลังให้ขับเคลื่อนไปได้ คือ พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ว่าจะเริ่มเบิกจ่ายได้เมื่อไหร่ ซึ่งต้องรอดูความชัดเจนอีกที แต่โตโยต้าจะไม่รอขอเดินหน้าทำตลาดแบบเจาะลึกต่อเนื่อง โดยนำหลัก “ไคเซ็น” มาปรับใช้ทุกส่วนทั้งโปรดักต์ แคมเปญส่งเสริมการขาย บริการหลังการขาย และบริการได้ตรงความต้องการของลูกค้ามากที่สุด”