“ฟอร์ด” ฟันธงขายรถสะดุดโควิดต่ำ 9 แสนคัน

ฟอร์ดฟันธงขายรถปีนี้ ต่ำกว่า 9 แสนคันแน่นอน พร้อมปรับแผนรับมือโควิด-19 แย้มอาจปิดโรงงานยาว ยันมีรถในสต๊อกรองรับลูกค้าเพียงพอ

นายวิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดเผยถึงสภาพตลาดรถยนต์ในไตรมาสแรกของปีนี้ว่า มีสถานการณ์ย่ำแย่กว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนมาก ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว ราคาน้ำมันและสถานการณ์การเเพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด

โดยจะเห็นได้จากยอดขายรถยนต์ในช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมา ทำได้แค่ 133,000 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนค่อนข้างมาก ส่วนฟอร์ดเองในเดือน ม.ค. มียอดตกลงไปค่อนข้างมาก โดยขายเพียง 1,000 คัน ส่วนเดือน ก.พ. ยอดขายเพิ่มขึ้นมาที่ 2,863 คัน

ขณะที่เดือน มี.ค.นั้น เป็นช่วงของเดือนสุดท้ายในการปิดปีงบปะมาณของค่ายรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งภาพรวมของตลาด โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือน ตลาดค่อนข้างเงียบมาก ทำให้เชื่อว่ายอดขายในเดือน มี.ค. มีแนวโน้มต่ำกว่าปีก่อนอย่างแน่นอนยอดขายฟอร์ดในปีที่ผ่านมาทำได้ 50,006 คัน และปีนี้คาดว่ายอดขายรถยนต์โดยรวมน่าจะต่ำกว่า 9 แสนคันอย่างเเน่นอน

“ตอนนี้เราต้องจับตา และติดตามสถานการณ์ของตลาดกันแบบเดือนต่อเดือน แม้ว่ายอดขายของเราในเดือนกุมภาพันธ์จะเติบโตได้ดีมาก ๆ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม ฟอร์ดต้องพยายามรักษาอัตราการเติบโตตรงนี้เอาไว้ให้ได้”

และล่าสุดบริษัทแม่ก็ประกาศหยุดไลน์ผลิตรถยนต์ฟอร์ดทั้ง 2 โรงงาน คือ โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ (เอเอที)และโรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอร์ริ่ง (เอฟทีเอ็ม) ตั้งเเต่เมื่อ 27 มี.ค.เป็นการชั่วคราวนั้น จากประเมินล่าสุด หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น มีแนวโน้มค่อนข้างสูงว่าอาจจะต้องเลื่อนการกลับมาเปิดโรงงานออกไปจากกำหนดเดิม ในวันที่ 20 เม.ย.ด้วย

ทั้งนี้บริษัทยังมีรถยนต์ในสต๊อกของดีลเลอร์ และในสต๊อกของบริษัท เพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างเพียงพอ เนื่องจากก่อนหน้านี้ บริษัทได้วางแผนงานและเตรียมการบิลด์สต๊อกล่วงหน้าไว้ถึง 1 เดือน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่ดีลเลอร์และบริษัทต้องวางแผนงานร่วมกันสำหรับการเตรียมความพร้อมของเป้าหมายในเดือนถัดไป

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเดินหน้าทำกิจกรรมการตลาด โดยเฉพาะฟอร์ดเชื่อว่ารูปแบบการทำตลาดจะเปลี่ยนไป และฟอร์ดเป็นผู้นำในการทำตลาดออนไลน์ ดังนั้น บริษัทจึงพยายามมองหาเครื่องมือและนำเสนอวิธีการทำตลาดที่แตกต่างออกไป อย่างก่อนหน้านี้ได้จับมือลาซาด้า เพื่อทำแคมเปญร่วมกัน หรืออย่างล่าสุดการจัดงาน ฟอร์ด มอเตอร์โชว์ ไลฟ์ เพื่อขายรถออนไลน์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และจากนี้ไปบริษัทจะพยายามมองหาพันธมิตรทางออนไลน์ เพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและนำเสนอรูปแบบ แพลตฟอร์มการขายรถยนต์เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น

“เราเชื่อว่าในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส และครั้งนี้โลกเปลี่ยน คนหันมาใช้เครื่องมือดิจิทัลมากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะทำทุกอย่างทางออนไลน์ทั้งหมด ท้ายที่สุดแล้ว ลูกค้าก็ยังต้องเข้ามาที่โชว์รูม และสัมผัสกับรถคันจริง ๆ”


นายวิชิตยังกล่าวว่า ฟอร์ดยังพิจารณาเรื่องของแผนงานเพิ่มโชว์รูมและศูนยบริการในปีนี้อีก 10 แห่ง จาก 180 แห่งในปัจจุบัน จะเพิ่มเป็น 193 แห่งในปีนี้ ซึ่งอาจจะต้องประเมินตามสถานการณ์อีกครั้ง