3 เคแบตเตอรี่ ปรับทัพบุกตลาดโออีเอ็มเต็มสูบ หลังกลุ่ม “ฮิตาชิ” ถือหุ้นใหญ่ เดินหน้ายกระดับสินค้าเติมเต็มอาร์แอนด์ดีหวังฟันส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 30%โหมเดินเครื่องลุยตลาดส่งออกเพิ่มมั่นใจติดท็อปทรีตลาดอาเซียน เมินทำแบตเตอรี่ไฮบริด- อีวี วอลุ่มน้อยเกินไป
นายโทชิโน โอสุมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสโตเรจ แบตเตอรี่ จำกัด และบริษัท ผลิตภัณฑ์ 3เค จำกัด เปิดเผยถึงแผนธุรกิจหลังกลุ่ม “ฮิตาชิ เคมิคอล” จากประเทศญี่ปุ่นเข้าถือหุ้นใหญ่ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีสัดส่วนถือหุ้น 86.9% ส่วนที่เหลือ 13.1% เป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
นายโอสุมิกล่าวว่า การปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญ ที่ทั้ง 2 บริษัท คือกลุ่มฮิตาชิ และกลุ่ม 3เค จะนำจุดแข็งของแต่ละฝ่ายมาผสานกันเพื่อให้เกิดความแข็งแกร่ง ทั้งด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การถ่ายทอดเทคโนโลยี การทำตลาด โดยเบื้องต้นบริษัทตั้งเป้าขึ้นเป็นบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแบตเตอรี่ 1 ใน 3 ของเอเชียในระยะเวลาอันใกล้ หรือมียอดขายเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า จากปัจจุบันที่มียอดขายที่ระดับ 3 ล้านลูกต่อปี ส่วนในประเทศไทยตั้งเป้าว่าจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจาก 23% ขึ้นเป็น 30% ให้เร็วที่สุด
รวมทั้งการขยายสัดส่วนการส่งออก ที่ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการจำหน่ายในประเทศ 45% ส่งออก 55% ในปีหน้าคาดว่าจะมีการปรับเพิ่มสัดส่วนการผลิตเพื่อจำหน่ายไปยังตลาดต่างประเทศเป็น 70% และตลาดในประเทศ 30% จากปัจจุบันส่งออกไปกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และมีกำลังผลิต 5-6 ล้านลูกต่อปี
“การเข้ามาครั้งนี้ของกลุ่มฮิตาชิ เราต้องการ นำส่วนที่แข็งแกร่งของทั้ง 2 ฝ่ายมาพัฒนาร่วมกัน ซึ่งที่ผ่านมาการตลาดและเครือข่ายการจัดจำหน่ายของ 3 เค ทำไว้ดีอยู่แล้ว เพียงแต่เราจะนำเรื่องของอาร์แอนด์ดีเข้ามาเติมเต็ม ต่อยอดเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไปในอนาคต”
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะเจาะตลาดเข้าไปยังกลุ่มแบตเตอรี่สำหรับตลาดโออีเอ็มเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันมีลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตรถยนต์เพียงรายเดียวที่นิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ โดยบริษัทจะเพิ่มน้ำหนักและมองหาลูกค้าที่เป็นค่ายรถยนต์ จักรยานยนต์เพิ่มขึ้นด้วย
โดยการเพิ่มโอกาสเข้าตลาดโออีเอ็มนั้น ถือว่าเป็นโอกาสที่สำคัญของบริษัท เพราะนั่นหมายถึงการนำสุดยอดเทคโนโลยีของบริษัทเข้าไปแนะนำให้กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ได้ ตัดสินใจเลือกใช้
นายโอสุมิกล่าวถึงสถานการณ์ของตลาดแบตเตอรี่ในช่วงที่ผ่านว่า ตลาดหดตัวลง 7.3% จากความต้องการของตลาดรวมที่ 6 ล้านลูกต่อปี แบ่งเป็นตลาดโออีเอ็ม 2 ล้านลูก และตลาดอาร์อีเอ็ม 4 ล้านลูกต่อปี โดยปีนี้คาดว่าอยู่ในภาวะทรงตัว ทั้งนี้เชื่อว่าในช่วงระยะเวลา 2-3 ปี จากนี้ตลาดแบตเตอรี่โดยรวมจะกลับมามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น อย่างน้อย 4-5%
ส่วนโอกาสและความสนใจในการพัฒนาแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ไฮบริด ว่า ปัจจุบันเป็นตลาดที่มีสัดส่วนความต้องการน้อยมากและบริษัทยังไม่มีแผนหรือให้ความสนใจที่จะเข้าไปในตลาดแบตเตอรี่ประเภทนี้ คงต้องใช้ระยะเวลาอีกพอสมควร
ขณะที่แผนขยายเครือข่ายจัดจำหน่ายนั้นปัจจุบันมีร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอยู่ 3,000 แห่งทั่วประเทศ และร้าน 3เค ช็อป อีก 173 แห่งทั่วประเทศ บริษัทยังไม่มีนโยบายในการขยายเพิ่มแต่ต้องการปรับปรุงประสิทธิภาพ และการพัฒนาร้านค้าให้ได้ตรงตามมาตรฐานที่บริษัทกำหนดมากกว่า
ล่าสุดบริษัทได้ส่งนวัตกรรมใหม่ “3K Advance X-Treme” แบตเตอรี่ชนิดกึ่งแห้งรุ่นใหม่ ที่สะดวกต่อการใช้งานสำหรับผู้ใช้รถยนต์ที่ไม่ค่อยมีเวลาในการดูแลรักษา หมดปัญหาเรื่องเติมน้ำกลั่น สะดวก ดูแลง่าย และทนทาน มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยกำลังไฟที่สูงกว่า พร้อมตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาด Maintenance Free ไว้ 50%” โดยมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 2,000 บาท
