สัปดาห์ก่อน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศหยุดไลน์ประกอบรถยนต์ชั่วคราว ของฐานการผลิตรถยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย ทั้ง 2 โรงงานได้แก่ โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้าใน จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.ปราจีนบุรี ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค.-30 เม.ย.นี้เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม หลังผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และแนวโน้มของตลาดรถยนต์ที่อยู่ในช่วงภาวะถดถอย
“ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสพูดคุยกับ “พิทักษ์ พฤทธิสาริกร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด แม่ทัพใหญ่ ถึงสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงสเต็ปต่อไปของการดูแลพนักงาน ลูกค้า คู่ค้าของฮอนด้า จะเป็นอย่างไรไปติดตามกัน
Q : พนักงานยังได้ค่าจ้างตามปกติหรือเปล่า
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
สถานการณ์ตอนนี้เราแบ่งทีมกันทำงานออกเป็น 3 ส่วน เพื่อความชัดเจนดังนี้ 1.พนักงานส่วนของสายการผลิตของโรงงานทั้ง 2 โรงงาน ที่บริษัทตัดสินใจหยุดไลน์ผลิตชั่วคราว 2.กลุ่มพนักงานบางแผนก หรือบางส่วนที่จำเป็นจะต้องมาปฏิบัติงาน และ 3.พนักงานที่ทำงานอยู่ที่บ้าน ซึ่งขณะนี้ฮอนด้ายืนยันว่าจ่ายค่าจ้างให้ตามปกติ และมีการจ่ายเกินกว่ากฎหมายกำหนด และมากกว่า 75% อย่างแน่นอน
ฮอนด้าจ่ายให้กับพนักงานใกล้เคียง หรือเกือบจะ 100% ด้วยซ้ำ เพียงแต่ยังมีข้อแตกต่างบางส่วน เนื่องจากมีพนักงานที่มีความจำเป็นบางส่วนบางแผนกที่จะต้องเดินทางเข้ามาทำงานตามปกติอยู่ ดังนั้น บริษัทจึงต้องจ่ายค่าจ้างให้มีความแตกต่างกันตรงนี้เพื่อความเหมาะสม อย่างพนักงานที่ต้องทำงานอยู่ที่บ้านบริษัทก็มีนโยบายว่า ให้ผู้บังคับบัญชาของส่วนงานนั้น ๆ ติดตาม และแจกจ่ายงานให้กับพนักงานอย่างชัดเจน เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพ
Q : ปิดไลน์ผลิตนอกจากป้องกันโควิดมีปัจจัยอื่น ๆ ด้วยมั้ย
ที่ฮอนด้าตัดสินใจประกาศหยุดไลน์ผลิตของโรงงานทั้ง 2 แห่งนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดในประเทศไทยและทั่วโลก แล้วอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับ คือ ภาวะตลาดรถยนต์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ตลาดโดยรวมมียอดขายลดลงไปค่อนข้างแรงมาก ที่สำคัญ ดีลเลอร์ไม่สามารถรับรถยนต์เข้าไปไว้ในสต๊อกได้ และบริษัทไม่มีนโยบายอัดสต๊อกให้ดีลเลอร์
ดังนั้น ฮอนด้าจึงต้องใช้วิธีการปรับแผนการผลิตให้สอดรับกับตลาดรถยนต์โดยรวม และเราไม่ฝืนตลาดซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะมีค่ายรถยนต์ปิดโรงงานชั่วคราวตามมา
“ฮอนด้าเราทำตามสภาพตลาดไม่ต้องการฝืน ที่สำคัญเราเลือกใช้วิธีการอย่างตรงไปตรงมา”
Q : ไตรมาสแรกตลาดหดตัวเยอะแค่ไหน
จากตัวเลขยอดขายในเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์นั้นลดลงมาเล็กน้อย แต่ในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสหนักขึ้น คนหยุดงาน อัตราการบริโภคลดลง โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม และเชื่อว่าสถานการณ์น่าจะลากยาวต่อเนื่องไปในเดือนเมษายนกว่าจะมีการควบคุมได้ แน่นอนว่าเมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ ฮอนด้าก็ต้องปรับการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดให้กลับมาอยู่ในภาวะสมดุล
Q : ประเมินภาพรวมตลาดรถยนต์ทั้งปีอย่างไร
วันนี้เราคงยังไม่สามารถประเมินได้ แต่ทุกคนต้องจับตาสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิด
Q : ฮอนด้าปรับรูปแบบการขายอย่างไร
สิ่งที่เห็นในวันนี้ ลูกค้าใหม่ค่อนข้าง”ช็อก” แต่ลูกค้าเก่าก็ยังคงเข้าไปใช้บริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการลดจำนวนลงไปบ้าง ฮอนด้าได้ทำงานร่วมกับผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมบริการหลังการขายเพื่อดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจ และปลอดภัยมากที่สุดทั้งการเตรียมน้ำยาทำความสะอาด เจลล้างมือ ฯลฯ ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข
Q : ช่องทางขายรถยนต์ออนไลน์คือทางออกหรือไม่
สำหรับการขายรถยนต์ออนไลน์นั้นปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเทรนด์ขึ้นมาบ้าง โดยเฉพาะช่วงของการแพร่ระบาดไวรัส โดยส่วนตัวยังคิดว่า รถยนต์คือสินค้าที่ยังไม่ถึงเวลาที่จะขายผ่านช่องทางออนไลน์ เพราะต้องการพูดคุยแลกเปลี่ยน
อย่างไรก็ตาม คนซื้อรถยนต์ยังต้องเดินเข้าโชว์รูม ออนไลน์เป็นเครื่องมือในการพูดคุย เพื่ออำนวยความสะดวกได้อยู่ แต่จะให้ขายรถยนต์ทางช่องทางนี้เลยนั้นยังไม่ถึงเวลา
Q : ฮอนด้าต้องปรับเยอะแค่ไหน
ภาพรวม ๆ ในสถานการณ์แบบนี้ทำอะไรไม่ได้เลย เราต้องประคองสถานการณ์ การปิดโรงงานก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น เพื่อเป็นการปรับซัพพลายให้สอดคล้องกับดีมานด์ อย่างไรก็ตาม ฮอนด้ายังคงเดินหน้าเตรียมความพร้อมสูงสุดเพื่อคอยดูแลลูกค้า ทั้งส่วนของสต๊อกอะไหล่ ศูนย์บริการ เพื่อเข้ามาตอบโจทย์และเติมเต็มทุกความต้องการของลูกค้าในทุกสถานการณ์ เราอยากให้ลูกค้าฮอนด้าทุกคนมั่นใจและวางใจ