“เอ็มจี” เมิน โควิด-19 ดันธุรกิจ GO ON ตามแผน

ในช่วงเวลา 5-6 ปีในอุตสาหกรรมยานยนต์บ้านเรา ค่าย “เอ็มจี” ถือเป็นน้องใหม่ที่เติบโตได้รวดเร็ว มีโปรดักต์ใหม่ ๆ ออกมาตอบสนองความต้องการของลูกค้าชาวไทยได้อย่างต่อเนื่องและหลากหลาย มีศักยภาพแบบโตวันโตคืน


“ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสอัพเดตสถานการณ์และการปรับตัวกับ “พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์” รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัดในช่วงวิกฤตโควิด-19 เขามีแนวคิดและรูปแบบการรับมือเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้าต่อไปอย่างไร

Q : ประเมินสถานการณ์หลังโควิด

ก่อนอื่น ผมอยากจะให้มองตัวอย่างของจีน ซึ่งเราจะเห็นว่า วิธีการปิดประเทศของเขาทำทันที และทำให้ทุกอย่างตกฮวบเป็น V shape และเมื่อเขาเปิดประเทศมา ก็จะทำให้ทุกอย่างฟื้นตัว เป็นในลักษณะเดียวกัน ส่วนบ้านเรานั้น สถานการณ์ คือ การค่อย ๆ ปิดประเทศ ค่อย ๆ เพิ่มความเข้มข้นนั้น ลักษณะของเศรษฐกิจจึงตกในลักษณะของ U shape ซึ่งเหมือนกัน เมื่อไทยเปิดประเทศ ทุกอย่างก็จะค่อยฟื้นกลับมา แต่ลักษณะการตกท้องช้างแบบ U shape นั้น ไม่ได้ตกลงไปมากนัก ทั้งนี้ เป็นผลมาจากประเทศไทยมีความสมดุลของทรัพยากร และเศรษฐกิจ เนื่องจากไทยมีอุตสาหกรรมการบริการ การผลิต และการเกษตร แต่ที่จะกระทบหนัก คือ ภาคการท่องเที่ยว ที่อาจจะฟื้นตัวช้า

ส่วนการผลิตนั้นก็คงต้องรอดูว่า ตลาดส่งออกจะกลับมาเมื่อไหร่ เช่นเดียวกันกับอุตสาหกรรมยานยนต์ก็เป็นไปในลักษณะเช่นเดียวกัน

Q : อุตสาหกรรมยานยนต์จะกลับมาแบบ U Shape

แน่นอน โดยเฉพาะในส่วนของการผลิต เราคงต้องมาดูว่าเมื่อกลับมาผลิตได้แล้ว จะผลิตเพื่อส่งออก และผลิตเพื่อรองรับความต้องการในประเทศได้ในปริมาณเท่าไร จากการประเมินล่าสุดของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่ออกมาประเมินยอดผลิตรถยนต์ปีนี้ที่ 1 ล้านคันนั้น ก็เป็นตัวเลขใกล้เคียงกับที่ผมมองไว้ แต่ทีนี้คงต้องดูว่าจะเป็นการผลิตเพื่อส่งออกเท่าใด 300,000 คัน ภายในประเทศ 700,000 คัน หรือส่งออก 400,000 คัน ภายในประเทศ 600,000 คัน ซึ่งตรงนี้คงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด

Q : ปรับเป้าขายอย่างไร

ถามว่าเอ็มจีเราปรับเป้าหมายหรือไม่นั้นคงบอกว่า เป้าหมายเราตั้งไว้ที่ 40,000 คัน สถานการณ์วันนี้อาจจะยาก แต่เอ็มจีเราก็อยากจะไปให้ถึง ผ่านมา 3 เดือนมียอดขายไป 6,120 คัน ลดลง 1% ซึ่งถือเป็นตัวเลขลดลงน้อยที่สุดในตลาด ส่วนเดือนเมษายนนี้ เรายังรอการรายงานยอดการส่งมอบจากตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศอยู่ ขณะที่ยอดขายปีที่ผ่านมาทำได้กว่า 26,500 คัน

Q : ไม่ปิดไลน์ผลิตเหมือนค่ายอื่นหรือไม่

ช่วงที่ผ่านมา เราไม่ได้มีการปิดไลน์ผลิตรถยนต์ เนื่องจากก่อนหน้านี้ บริษัทตัดสินใจเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ เอ็มจี แซดเอส ออกสู่ตลาด ซึ่งเราต้องผลิตรถให้สอดคล้องกับแผนการตลาดที่วางไว้ ซึ่งเรายังมียอดที่จะต้องผลิต ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าทุกค่ายเหมือนกันหมด ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโดยรวม และโควิด-19 ทำให้ยอดขายหยุดชะงัก เหมือนการติดเบรก จน ABS ทำงาน ซึ่งผลกระทบค่อนข้างแรง และเอ็มจีเองได้รับผลไม่ต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น ๆ แต่เราหวังว่าทุกอย่างจะคลี่คลายและกลับมาเดินหน้าได้ในเร็ววัน และทุกธุรกิจต้องปรับตัวและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์

Q : ต้องปรับแผนธุรกิจอย่างไรบ้าง

แรกเริ่มเลย เอ็มจีเราปรับตัวด้วยการตัดสินใจเปิดตัวรถยนต์เอ็มจี แซดเอส ทางออนไลน์แทน ซึ่งทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์

อย่างการเตรียมเปิดตัวรุ่นใหม่ ๆ ที่เตรียมไว้ ทุกอย่างก็ยังคงเดินหน้า ทุกอย่าง go on ตามแผนเดิม เช่นเดียวกับแผนการขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่ปัจจุบันมีอยู่ 125 แห่ง ปีนี้บริษัทยืนยันว่าจะขยายเป็น 150 แห่งทั่วประเทศ ตามแผนงานเดิมเพื่อรองรับการบริการลูกค้าได้ครอบคลุมทั่วประเทศไทย