นิสสันลั่นยึดส่วนแบ่งตลาด 7% เขี่ย 7 ดีลเลอร์มีปัญหาออกจากแผนธุรกิจ

นิสสันเสียงแข็ง ย้ำชัด 7 ดีลเลอร์ ที่กระทรวงพาณิชย์บังคับห้ามบอกเลิกสัญญาไม่ได้อยู่ในแผนธุรกิจอีกต่อไปแล้ว ขอสิทธิ์เลือกคู่ค้าเอง ยันไทยยังเป็นฮับผลิต หลังดึง “คิกส์ อี-เพาเวอร์” ผลิตในประเทศ ยอมรับไวรัสกระทบหนัก ขายรถปีนี้เหลือ 6 แสนคัน

นายราเมช นาราสิมัน ดำรงตำแหน่งประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงความคืบหน้า กรณีคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า(กขค.) มีคำสั่งห้ามนิสสันบอกเลิกสัญญากับผู้แทนจำหน่ายรถยนต์นิสสัน จำนวน 7 ราย เพราะถือว่าขัดขวางการประกอบธุรกิจของดีลเลอร์ทั้ง 7 ราย อย่างไม่เป็นธรรมว่า บริษัทอยู่ระหว่างรอฟังการพิจารณาจากศาลปกครอง คาดว่าจะต้องใช้ระยะเวลาอีกพักใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจำหน่ายทั้ง 7 รายนั้นไม่ได้อยู่ในแผนธุรกิจของนิสสันอีกต่อไปแล้ว

นายราเมซกล่าวว่า นโยบายการดำเนินธุรกิจ และการขยายเครือข่ายของนิสสันในประเทศไทย ปัจจุบันมีโชว์รูมและศูนย์บริการกระจายอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศไทยถึง 185 แห่ง ซึ่งถือว่ายังไม่ครอบคลุม ทั้งพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด แต่แผนขยายธุรกิจคงต้องรอดูสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดและภาพรวมเศรษฐกิจ รวมถึงสถานการณ์ของอุตสาหกรรมโดยรวมก่อน

“เป้าหมายของนิสสันปีนี้ คงไม่ได้มองยอดขายหรือผลประกอบการทางธุรกิจ แต่จะมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายการมีส่วนแบ่งตลาดปีนี้ให้ได้ 7% ขณะที่ยอดขายรถยนต์โดยรวม นิสสันประเมินว่าจะลดลงไประดับ 30-35% หรือมียอดขายโดยรวมอยู่ที่ 600,000-610,000 คัน”

ส่วนความคืบหน้าโรงงานประกอบรถยนต์นิสสัน ถนนบางนา-ตราด กม.21 และ 22 ขณะนี้โรงงาน 1 กลับมาผลิตแล้วเกือบ 100% ส่วนโรงงาน 2 กำลังพิจารณาภายในสัปดาห์นี้ว่าจะสามารถกลับมาเปิดไลน์ผลิตได้หรือไม่ เพราะต้องรอดูความพร้อมซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะจากจีนและอินเดีย

นายราเมซกล่าวถึงแผนลงทุนว่า เป็นการลงทุนต่อเนื่องจากที่ประกาศการลงทุนมูลค่า 10,000 ล้านบาท เมื่อปี 2562 สำหรับอีโคคาร์ 2 และโครงการผลิตรถยนต์อี-เพาเวอร์ ที่เพิ่งเปิดตัวนิสสัน คิกส์ อี-เพาเวอร์ ออกสู่ตลาดไปเมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ตอนนี้ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ 2 ที่ผลิตอี-เพาเวอร์ต่อจากประเทศญี่ปุ่น และประเทศไทยยังเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญของนิสสัน

ด้านผลกระทบโควิด ตอนนี้นิสสันได้เปลี่ยนรูปแบบการเปิดตัวและการทำตลาดรูปแบบดิจิทัลออนไลน์มากขึ้น ยอมรับว่าได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก แต่บริษัทยังหวังว่า หลังจากการเปิดตัวรถยนต์ใหม่ 2 รุ่น ทั้งอัลเมร่า และคิกส์ อี-เพาเวอร์ น่าจะช่วยให้นิสสันมียอดขายที่ดีขึ้น