นายทาคาโอะ คาโตะ ผู้แทนกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า บริษัท ได้ประกาศแผนธุรกิจระยะกลาง 3 ปี (ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2563 – 2565) ภายใต้แนวคิด ‘Small but Beautiful’ ที่มุ่งเน้นการบริหารจัดการทรัพยากรในภูมิภาคอาเซียนและเทคโนโลยีล้ำสมัย
เพื่อลดต้นทุน 20% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2562
“เราเน้นเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพิ่มผลกำไร ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการด้านทรัพยากรในภูมิภาคอาเซียน และเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้มากกว่า 11% เร่งพัฒนาธุรกิจในภูมิภาคแอฟริกา โอเชียเนีย และอเมริกาใต้ เสริมความแข็งแกร่งด้วยการเปิดตัวรถยนต์รุ่น ใหม่ที่ผลิตขึ้นจากความร่วมมือกันในกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้ง รถยนต์ไฟฟ้า ระบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด, ระบบไฮบริด, และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ภายในปีงบประมาณ 2565 พร้อมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ทั้งรถอเนกประสงค์ รถกระบะ และรถเอ็มพีวี ในภูมิภาคอาเซียน ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2565 เป็นต้นไป”
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
ด้านนายโมะริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อให้สอดคล้องกับแผนธุรกิจระยะกลางฯ ของบริษัทแม่ บริษัทได้ดำเนินหนึ่งในแผนงานคือการ เดินหน้าใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี นอกประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งจะสามารถเปิดตัวรถรุ่นนี้ได้ ตามแผนงานที่กำหนดไว้
และ ภายใต้แผนธุรกิจระยะกลาง บริษัทมีแผนที่จะแนะนำรถกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน เจเนอเรชันใหม่ และยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย อีกหลากหลายรุ่น ออกสู่ตลาดประเทศไทย
ทั้งนี้เมื่อต้นปี 2563 ที่ผ่านมา บริษัท ได้จัดพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างโรงพ่นสีแห่งใหม่และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี โดยโรงพ่นสีแห่งใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนมูลค่า 7 พันล้านบาท เพื่อปรับปรุงเทคโนโลยีและยกระดับขีดความสามารถของศูนย์การผลิตรถยนต์ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ยังมีแผนที่จะปรับปรุงพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อการยกระดับศูนย์การผลิตแหลมฉบังในอนาคตด้วย
