ค่ายฮอนด้ากำลังจะวางจำหน่าย Honda e รถยนต์ไฟฟ้าในยุโรป เป็นรุ่นกะทัดรัดที่มีไว้สำหรับการขับขี่ในเมือง ราคาจำหน่ายราว ๆ 33,000 ยูโรหรือ 4 หมื่นดอลลาร์คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 1.2 ล้านบาท
คอนเซ็ปต์ของฮอนด้าต้องการให้รถไฟฟ้าแบบ 100% รุ่นนี้เอาไว้ใช้งานในเมืองเป็นหลัก รูปทรงจึงดูเล็กกะทัดรัด ซึ่งตรงกันข้ามกับ Tesla โมเดล 3 ที่ครองตลาดรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงค่ายอื่น ๆ ทั้งออดี้ หรือฮุนได ซึ่งจะเน้นรูปทรงใหญ่ หรือเป็นเอสยูวี แบตเตอรี่ใหญ่เพื่อการขับขี่ที่ยาวนานขึ้น
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
สำหรับรถอีวีต้นทุนใหญ่ คือ แบตเตอรี่ ดังนั้น กลุ่มรถไฟฟ้าส่วนใหญ่จึงเป็นรถยนต์ในระดับพรีเมี่ยม ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายกำลังพัฒนารุ่นอเนกประสงค์ที่ใหญ่กว่า ซึ่งบางรุ่นสามารถขับได้ไกลถึง 570 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
แต่สำหรับ Honda e มีความจุแบตเตอรี่ประมาณครึ่งหนึ่ง โดยขับเพียง 280 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ตรงคอนเซ็ปต์รถใช้ในเมือง
“รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ใช้แบตเตอรี่ความจุสูง แต่บ่อยครั้งที่ความจุส่วนใหญ่ก็เพียงเพื่อการขับขี่ในเมือง” โทโมฟูมิ อิจิโนเสะ หัวหน้าวิศวกรของ Honda e กล่าว
วิศวกรของฮอนด้าตั้งคำถามว่า ยานพาหนะขนาดใหญ่เหมาะสมกับพื้นที่ในเมืองหรือไม่ ซึ่งกำลังหาคำตอบกันอยู่ และเขาเชื่อว่ารถขนาดเล็กน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับการใช้งานในเมือง ด้วยการออกแบบที่ย้อนยุคและกะทัดรัดเป็นพิเศษ ซึ่งทำให้นึกถึงรุ่นฮอนด้า N360 และ N600 คลาสสิกของฮอนด้าในช่วงปี 1960
อิจิโนเสะ ยังกล่าวอีกว่า วิศวกรของฮอนด้าให้ความสำคัญเรื่องการขับขี่ และการบังคับรถที่แม่นยำ เพื่อให้สามารถกลับรถได้ง่ายในถนนแคบ ๆ กระจกมองข้างถูกแทนที่ด้วยจอแสดงผลภายในเพื่อความสะดวก รวมถึงการเข้าจอดในที่แคบ ๆ
ฮอนด้ามีกำหนดวางขายในยุโรปและญี่ปุ่นราว ๆ ปลายเดือนตุลาคม ฮอนด้าคาดว่าจะมียอดขายต่อปีประมาณ 10,000 คันในยุโรป และอีกไม่น้อยกว่า 1,000 คันในญี่ปุ่น ส่วนบ้านเรารัฐบาลกำลังสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจังอีกไม่นานเกินรอ
ผู้ผลิตรถยนต์กล่าวว่า ไม่มีแผนที่จะทำตลาดรถในอเมริกาเหนือหรือจีนซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดที่ SUV ครองอยู่
