มาสด้าพลิกเกมขายออนไลน์ ชูเอสยูวีโมเดลทำกำไรพุ่ง 20%

มาสด้าขายรถออนไลน์

“มาสด้า” พลิก 360 องศา หันโฟกัสรถกลุ่มเอสยูวีแทนกลุ่มแมส ย้ำทุกรุ่นคือโปรฟิตโมเดล พร้อมรุกขายออนไลน์เต็มสูบ ปลื้ม CX-30 พุ่งเดือนละเกือบพันคันรับอานิสงส์ ทำทุกอย่างบนเว็บ ทั้งสินเชื่อและส่งมอบรถเร็วขึ้น จัดโปรฯเดือด 0% ทุบราคาปิกอัพ 2 แสนบาท มั่นใจปรับลดค่าใช้จ่ายองค์กร ดันกำไรปีนี้โต 10-20%

นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกรวมทั้งการแพร่ระบาดไวรัสโควิด ยังกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ค่อนข้างมาก ดังนั้นเชื่อว่าครึ่งปีหลังของปีนี้ตลาดรถยนต์คงไม่หวือหวาแม้จะมีสัญญาณดีขึ้น

ส่วนทิศทางของมาสด้าจากนี้จะมุ่งเน้นปรับปรุงการทำงานทุกส่วน ทั้งลดค่าใช้จ่ายภายในองค์กร และเพิ่มประสิทธิภาพงานขายและบริการ โดยเฉพาะการพลิกเกมทำตลาด จากเดิมที่เน้นขายกลุ่มรถยนต์แมสมาเพิ่มความเข้มข้นกับกลุ่มรถเอสยูวี หรือกลุ่มรถยนต์ซีเอ็กซ์-ซีรีส์ ซึ่งทำกำไรได้ดีกว่า ส่งผลให้ยอดขายทั้งปีแม้จะไม่โตไปกว่าปีที่แล้ว แต่ผลกำไรน่าจะเพิ่มขึ้น 10-20%

ลุยขายโปรฟิตโมเดล

นายชาญชัยเชื่อว่า ตลาดรวมครึ่งปีหลังต้องมากกว่าครึ่งปีแรกซึ่งทำยอดได้ 3 แสนกว่าคัน เนื่องจากจะมีอีเวนต์ขายรถใหญ่ ๆ อีก 3 งาน ดังนั้นทั้งปีอุตสาหกรรมรถยนต์น่าจะมียอดขาย 650,000-700,000 คัน ประกอบกับเทรนด์ความต้องการใช้รถกำลังมุ่งไปที่กลุ่มเอสยูวี ซึ่งมาสด้ามีรถกลุ่มนี้ไว้รองรับลูกค้าหลากหลายโมเดล

“ภาพรวมเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ถ้าเทียบเป็นสัดส่วนรถยนต์กลุ่มแมส อาทิ มาสด้า2 มาสด้า3 เราขายได้ประมาณ 50% น้อยกว่าปีที่แล้วซึ่งมีสัดส่วนราว ๆ 80% แต่เราสามารถไปเพิ่มสัดส่วนในกลุ่มรถเอสยูวีได้ถึง 40% โดยเฉพาะ CX-30 ทำได้ถึง 22% ซึ่งรถยนต์กลุ่มนี้ถือเป็นโปรฟิตโมเดลของเรา มีกำไรต่อหน่วยสูงกว่าทำให้มาสด้าเพิ่มเม็ดเงินจากการขายได้มากขึ้น ดังนั้นทิศทางการทำตลาดจากนี้มาสด้าก็คงจะเน้นไปที่ซีเอ็กซ์-ซีรีส์ ซึ่งเรามีมากถึง 5 โมเดล CX-3, CX-5, CX-8 และ CX-30 รวมถึงตลาดปิกอัพซึ่งปีหน้าจะมีโมเดลใหม่มาเสริมทัพ”

ขายออนไลน์ทะลุเป้า

ประธานบริหารมาสด้ากล่าวอีกว่า เดือนที่แล้วมาสด้าขาย CX-30 ได้ 825 คัน ห่างจากคู่แข่งใหญ่ไม่กี่ร้อยคัน ทั้ง ๆ ที่ตัวแทนจำหน่ายและโชว์รูมต่างกันเยอะมาก ทำให้เห็นว่าการตัดสินใจเลือกใช้ช่องทางการขายด้วยระบบออนไลน์ผ่าน SKY Booking ในเว็บไซต์มาสด้าประสบความสำเร็จมาก สามารถนำข้อมูลเข้าระบบ ทุกส่วนที่อยู่ในกระบวนการขายเห็นข้อมูลทั้งหมด ไฟแนนซ์สามารถอนุมัติได้ภายใน 7 วัน กรณีขาดเอกสารบางตัวสามารถแจ้งกลับได้ทันที ช่วยลดขั้นตอนอื่น ๆ ได้ ทั้งสะดวก ประหยัด และรวดเร็ว

“โมเดล CX-30 เราขายผ่านออนไลน์ 100% ซึ่งทำมาก่อนเกิดโควิดด้วย พอเจอโควิดยิ่งทำให้เราไปได้เร็วกว่าคู่แข่งอื่น ๆ ลูกค้าหาข้อมูลมาจากในเว็บ เลือกโชว์รูมที่จะออกรถ จะคีย์ข้อมูลเอง หรือจะให้เซลส์ช่วยคีย์ก็ทำได้ ไฟแนนซ์ทิสโก้ซึ่งช่วยเราพัฒนาแพลตฟอร์มนี้ก็สามารถอนุมัติได้ทันที ทำงานได้เร็วมาก เหมือนลดคนไปครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว ตัวเลขการขายก็เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ที่สำคัญโปรไฟล์ลูกค้ากลุ่มนี้ดีมาก ผ่านเกือบทั้งหมด”

สำหรับเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อุตสาหกรรมรถยนต์ไทยมียอดขายรวม 69,000 คัน มาสด้าทำยอดขายได้ 3,707 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 5.4% มาสด้า2 จำนวน 1,791 คัน CX-30 จำนวน 825 คัน, CX-3 จำนวน 330 คัน, มาสด้า3 จำนวน 315 คัน, CX-8 จำนวน 200 คัน, CX-5 จำนวน 157 คัน และมาสด้า บีที-50 โปร จำนวน 89 คัน เดือนสิงหาคมถือเป็นตัวเลขที่ดีมาก รถยนต์เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดของมาสด้า ทั้งมาสด้า3 มียอดขายสะสม 4,326 คัน สูงสุดนับตั้งแต่เปิดตัว และมาสด้า CX-30 ทำยอดขายสะสมได้ถึง 3,161 คัน ภายในเวลา 6 เดือน

ดันเซอร์วิสสร้างความพึงพอใจ

นอกจากการนำเสนอรถยนต์เพื่อตอบเทรนด์ความต้องการลูกค้า มาสด้ายังให้ความสำคัญกับดีลเลอร์เน็ตเวิร์กและบริการหลังการขาย ปัจจุบันมี 138 โชว์รูม กทม.และปริมณฑล 37 แห่ง ต่างจังหวัด 101 แห่ง แบ่งเป็นภาคเหนือ 15 แห่ง, ภาคอีสาน 31 แห่ง, ภาคกลาง 11 แห่ง, ภาคตะวันออก 14 แห่ง, ภาคตะวันตกและใต้ตอนบน 12 แห่ง และภาคใต้ตอนล่าง 18 แห่ง ปีนี้จะมีครอบคลุมทุกพื้นที่ถึง 145 แห่ง โดยจะเปิดเพิ่ม 5 แห่ง อารีมิตร มาสด้า กาฬสินธุ์, มาสด้า สมุย, มาสด้า บึงกาฬ, 14 ออโต้ไพร์ม พระประแดง และไฮ-คลาส ออโต้ บายพาสชลบุรี 2 รายหลังมีศูนย์ซ่อมสีและตัวถังร่วมอยู่ด้วย และยังมีบริการเลนด่วนพิเศษ fast track สำหรับเข้ารับบริการตรวจเช็กระยะภายใน 60 นาที

คืนกำไรลูกค้าต่อเนื่อง

และเพื่อเป็นการขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์และช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบโควิด มาสด้ายินดีมอบส่วนลดมากกว่า 2 แสนบาท สำหรับลูกค้าที่ซื้อมาสด้า บีที-50 ทุกรุ่น และยังมีโปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับรุ่นอื่น ๆ อาทิ ดอกเบี้ยต่ำสุด 0% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง ขยายการรับประกันคุณภาพสูงสุดถึง 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ฟรีค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และส่วนลดสูงสุดถึง 100,000 บาท ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ตุลาคม 2563