ออดี้ชูกลยุทธ์บริการหลังการขาย เน้นเซอร์วิสขายรถคันต่อไปให้ลูกค้า ตั้งเป้าเพิ่มจ็อบงานเซอร์วิสโต 7 เท่า หลังบริษัทแม่ ออดี้ เอจี ไฟเขียวพร้อมซัพพอร์ตเต็มที่
นายกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด หรืออาวดี้ ประเทศไทย เปิดเผยแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทหลังจากบริษัทมีนโยบายในการเขย่าพอร์ตรถยนต์ที่นำเข้ามาจัดจำหน่าย โดยจะมีรถราคาต่ำกว่า2 ล้านบาทเพิ่มมากขึ้นแล้ว ปีนี้บริษัทยังเดินหน้าสานต่อความสำเร็จของงานบริการหลังการขายเพิ่ม ผลักดันให้งานเซอร์วิสสามารถเป็นกุญแจสำคัญในการขายรถยนต์คันใหม่ให้กับอาวดี้ ไทยแลนด์
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- “พลังงานไฮโดรเจน” ถูกกว่าน้ำมัน 60% ไทยเริ่มศึกษาแต่ เยอรมัน กำลังจะเลิกใช้
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
โดยตลอดระยะ 3 ปีที่บริษัทเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย นโยบายสำคัญคือการสร้างรากฐานทางธุรกิจ สร้างแบรนด์และบริการหลังการขายของรถยนต์ออดี้ให้มีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ ปัจจุบันบริษัทมีรายได้จากการจำหน่ายรถยนต์ใหม่ 90% และรายได้จากงานบริการหลังการขายอีก 10% และในอนาคตคาดว่าสัดส่วนของงานบริการหลังการขายจะปรับเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ออดี้มียอดจำหน่ายสะสมในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาราว 3,000 คัน และหากนับจำนวนประชากรรถยนต์ออดี้ที่บริษัทต้องดูแลมีทั้งสิ้นกว่า 4,000 คัน ซึ่งอีก 1,000 คันที่เพิ่มเข้ามานั้นเป็นรถยนต์ออดี้ที่มาจากการจำหน่ายของตัวแทนจำหน่ายรายเดิมและกลุ่มลูกค้าที่ซื้อรถออดี้จากผู้ประกอบการเกรย์มาร์เก็ตก่อนปี 2018 ซึ่งเข้ามาให้บริษัทดูแลในส่วนของบริการหลังการขาย ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมียอดงานซ่อมอยู่ราว 1,300 ใบงานในปีแรก และปีที่ผ่านมามี 7,000 ใบงานและคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 24% ในปีนี้
ส่วนปีนี้ตั้งเป้าเพิ่ม 7 เท่าตัวหรือ 24% เป็น 8,700 ใบงานและยอดจำหน่ายอะไหล่มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องจาก 15 ล้านบาทในปีแรก คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 130 ล้านบาทในปีนี้
นอกจากนี้บริษัทยังเน้นนโยบายในเรื่องของการสต๊อกอะไหล่ โดยมีการประสานงานและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างศูนย์กระจายอะไหล่ทั้งในประเทศและคลังอะไหล่ที่มาเลเซียและเยอรมนี เพื่อความพร้อมในการให้บริการและสต๊อกอะไหล่ที่เพียงพอ
ปัจจุบันอาวดี้ ประเทศไทย มีสต๊อกอะไหล่มีมูลค่า 80 ล้านบาท เพื่อสำรองไว้บริการลูกค้า และยังมี 3 บริการให้เลือกใช้รูปแบบการจัดส่งอะไหล่ได้ตามความต้องการใน 3 รูปแบบคือการจัดส่งแบบธรรมดา แบบด่วน (ส่งทางอากาศ) และด่วนพิเศษ (courier) ซึ่งหากเลือกสั่งอะไหล่ Audi แบบด่วนพิเศษ car down กำหนดระยะเวลาไว้ที่ 2-3 วัน สำหรับอะไหล่ Audi ที่มาจากมาเลเซีย และกำหนดไว้ 5-7 วันทำการ หากสั่งจากเยอรมนี โดยราคาจำหน่ายอะไหล่ยังเป็นราคาเดิมตามมาตรฐาน แต่สิ่งที่ลูกค้าจะต้องจ่ายเพิ่มคือในส่วนของค่าขนส่งที่เลือกตามความต้องการของลูกค้านั่นเอง
“นโยบายของเราคือยังคงยึดหลักเซลส์ขายรถคันแรก ส่วนเซอร์วิสจะขายรถออดี้คันต่อไป และวันนี้เราทำได้จริงซึ่งเริ่มเห็นผลกับสิ่งที่เราพยายามสร้างมาตลอด 3 ปี คือลูกค้ามีการบอกต่อ แนะนำ และกลับมาซื้อซ้ำด้วย”
นายกฤษณะกรกล่าวต่อไปว่า บริษัทยังคงเน้นกลยุทธ์สร้างความมั่นใจให้ลูกค้าและทำธุรกิจอย่างจริงใจ เช่น การผ่อนดอกเบี้ย 0% ไม่มีบอลลูน ราคาสมเหตุสมผล เป็นเจ้าของได้ง่าย ขณะที่บริการหลังการขายที่ดี จะเป็นส่วนสำคัญในการต่อยอดให้คนมาซื้อรถคันใหม่ ควบคู่ไปกับการเน้นสร้างความพึงพอใจ บริการหลังการขาย ด้วยการเพิ่มทีมช่างเทคนิคจาก 10 คนในปีแรก เป็น 73 คนในปีนี้ รวมทั้งพยายามทำอัตราค่าบริการและอะไหล่ของอาวดี้ ประเทศไทย ให้สามารถจับต้องได้ โดยที่ยังสามารถแข่งขันในตลาด และการรับประกันคุณภาพรถใหม่ที่มีความโปร่งใส ตรงไปตรงมา ทำให้ลูกค้ามีความสบายใจ รถใหม่ทุกคันจะได้รับการประกันตรงจากโรงงาน AUDI AG ให้การรับประกัน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
สำหรับผลประกอบการในช่วง 8 เดือนออดี้มีอัตราเติบโตที่ 1-2% แม้จะเจอโควิดส่วนปีนี้คาดว่าขายได้ใกล้เคียงปีก่อนที่ 1,000 คัน และในปีนี้บริษัทจะขยายเพิ่มโชว์รูมและศูนย์บริการที่ราชพฤกษ์ กรุงเทพฯและต้นปีหน้าที่อุดรธานี
