เทคโนโลยีฮอนด้า… เทคโนโลยีเชื่อมโลกสู่อนาคต

ฮอนด้าเดินหน้าพัฒนายนตรกรรมเพื่อตอบสนองผู้คนทั่วโลกด้วยการส่งมอบความสุขและเพิ่มศักยภาพในการใช้ชีวิต ตอบรับวิสัยทัศน์ 2030 ที่ประกาศจะผลิตและจำหน่ายรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจำนวน 2 ใน 3 ของจำนวนรถยนต์ทั้งหมด ดังนั้น เทคโนโลยีของฮอนด้าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเชื่อมทุกอย่างสู่โลกแห่งอนาคต

นี่แค่เริ่มต้น บ้านเราก็ได้เห็นเทคโนโลยีการขับเคลื่อนและความปลอดภัยแห่งอนาคตกันไปบ้างแล้ว อาทิ advanced full hybrid ที่มีประสิทธิภาพสูง หรือระบบขับเคลื่อน sport hybrid i-MMD ซึ่งในประเทศไทยได้ติดตั้งในฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด เป็นการทำงานของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง 2 ตัว

พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน เป็นระบบ full hybrid ให้กำลังสูงสุดถึง 215 แรงม้า ประหยัดน้ำมัน 24.4 กิโลเมตร/ลิตร และเป็นและปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 97 กรัม/กิโลเมตร

สำหรับแบตเตอรี่ไฮบริดแบบลิเทียม-ไอออน มีน้ำหนักเบาและกะทัดรัด สามารถชาร์จไฟกลับเข้าไปเก็บในแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็ว และจ่ายไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าแบตเตอรี่ไฮบริดชนิดอื่นในขนาดเท่ากัน จึงให้สมรรถนะสูง สามารถขับขี่ได้ต่อเนื่องยาวนานเมื่ออยู่ในโหมดการขับขี่ด้วยไฟฟ้า อีกทั้งสามารถสกัดลิเทียมออกมา เพื่อทำการรีไซเคิลได้ด้วย

อีกตัวที่ฮอนด้าภาคภูมิใจ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ เริ่มติดตั้งครั้งแรกในฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ที่เปิดตัวในปี พ.ศ. 2559

ตามด้วยรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ในลำดับถัดมาได้แก่ ฮอนด้า ซีวิค ฮอนด้า ซีวิค แฮตช์แบ็ก และล่าสุด ฮอนด้า ซีอาร์-วีเช่น ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ, ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ


นับเป็นที่สุดของเทคโนโลยีแห่งอนาคต