“เอ็มจี” 6 ปี ผลิตทะลุแสนคัน ปลื้มแชมป์ SUV ชิงธงผู้นำปลั๊ก-อินไฮบริด

พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์

เอ็มจีปลื้ม 6 ปีผลิตแสนคัน จ่อเตรียมส่งรถปลั๊ก-อิน ไฮบริด “MG HS PHEV” ลุยตลาด ปาดหน้าค่ายญี่ปุ่น ดันยอดเอชเอสขายเดือนละ 700 คันมั่นใจรักษาแชมป์เอสยูวี หวังยึดมาร์เก็ตแชร์ 25%

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่าบริษัทตั้งเป้าหลังจากส่งรถเอสยูวี เอ็มจี ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ออกสู่ตลาดจะช่วยเพิ่มยอดขายของรถเอ็มจีเอชเอส จากเดิมที่ขายอยู่เดือนละ 400-500 คัน เป็นขายเดือนละ 600-700 คันได้อย่างแน่นอน

ล่าสุดบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ได้ฉลองความสำเร็จการผลิตรถยนต์เอ็มจีสะสมครบ 100,000 คัน ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ หลังจากบริษัทได้เข้ามาลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์เอ็มจีพวงมาลัยขวา ที่ประเทศไทย เมื่อช่วง 6 ปีที่ผ่าน นับตั้งแต่เมื่อปี 2557 ด้วยการผลิตรถยนต์เอ็มจีรุ่นต่าง ๆ ไปแล้ว 8 รุ่น ครอบคลุมทั้งรถยนต์นั่ง ได้แก่ เอ็มจี 6, เอ็มจี 5, เอ็มจี จีเอส, เอ็มจี 3, เอ็มจี แซดเอส, เอ็มจี เฮชเอส และรถกระบะเอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์

โดยล่าสุดหลังจากบริษัทได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท โดยขณะนีได้เริ่มผลิตรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริดรุ่นแรกสำหรับประเทศไทยอย่างเอ็มจี เอชเอส ปลั๊ก-อินไฮบริดแล้ว และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 ต.ค.นี้

สำหรับยอดผลิต 100,000 คันนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเริ่มผลิตรถ เอ็มจี เอชเอส ปลั๊ก-อิน ไฮบริดด้วย ซึ่งบริษัทพร้อมตอกย้ำภาพการเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ที่เป็นศูนย์กลางการผลิตสำหรับรถยนต์พวงมาลัยขวาของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีมาตรฐานการผลิตระดับโลก

หลังจากเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมาบริษัทได้ประกาศความสำเร็จ ยอดขาย 50,000 คัน ในปี 2562 และมีการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อขยายฐานลูกค้า รวมไปถึงการยกระดับงานด้านบริการและจัดกิจกรรมทางการตลาด พร้อมการส่งเสริมการขายในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

ปีนี้บริษัทยังมีแผนขยายและลงทุนติดตั้งจุดชาร์จในรูปแบบ DC จำนวน 100 แห่ง ในโชว์รูมและศูนย์บริการเอ็มจีทั่วประเทศ และภายในปี 2564 จะเพิ่มจำนวนสถานีชาร์จอีกเท่าตัว ก่อนที่จะเดินหน้าแผนงานในระยะที่ 2 เพื่อขยายจำนวนสถานีชาร์จไปยังเส้นทางหลักตามทางหลวง และจะเพิ่มสถานีชาร์จที่ศูนย์การค้าออฟฟิศ หมู่บ้าน ที่พักอาศัย และยังมีแผนส่งรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่และรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริดออกสู่ตลาดประเทศไทย

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าว่าจะมีส่วนแบ่งในตลาดเอสยูวีไม่น้อยกว่า 25% เพิ่มขึ้นจาก 21% ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากตลาดรถยนต์ประเภทนี้มีการเติบโตค่อนข้างมาก เอ็มจีมีสินค้าถึง 2 รุ่น คือเอ็มจี แซดเอส และเอ็มจี เอชเอส ส่วนยอดขายทั้งปี เดิมเอ็มจีตั้งเป้าไว้ที่ 30,000 คันในปีนี้ แต่หลังจากต้องเชิญกับภาวะโควิด ทำให้บริษัทปรับเป้ายอดขายไว้ที่เท่ากับปีก่อน เหลือเพียง26,566 คันเท่านั้น

“ยอดผลิตสะสมครบหนึ่งแสน คันนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับในแบรนด์รถยนต์เอ็มจีจากลูกค้าคนไทยได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้เอ็มจีจะเดินหน้าแนะนำผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และบริการหลังการขายเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้ลูกค้า รวมทั้งยกระดับภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยและส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าและคนไทยที่ไว้วางใจในแบรนด์รถยนต์เอ็มจีของเรา”


อนึ่งโรงงานผลิตรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทยตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ดแห่งที่ 2 ในจังหวัดชลบุรี บนเนื้อที่กว่า 473.5 ไร่ ที่ใช้งบประมาณในการลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท โดยมีการติดตั้งเทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิตและประกอบรถยนต์ที่ล้ำสมัย ทั้งการใช้ระบบอัตโนมัติ (automations) และหุ่นยนต์อัจฉริยะ (intelligent robotics) ที่เป็นเทคโนโลยีการผลิตระดับสูง รวมทั้งระบบการตรวจสอบคุณภาพที่สามารถควบคุมกระบวนการการผลิตให้ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัยตามมาตรฐานระดับโลก