น้องใหม่ “เกรทวอลล์” ชู 5G สู้ศึก ตั้งโรงงานแบตเตอรี่ดันไทย “ฮับอีวี”

“เกรท วอลล์” เดินหน้าลุยตลาดรถยนต์ในไทยเต็มสูบ ลั่นชนทุกเซ็กเมนต์ ชูจุดขายพรีเมี่ยมแต่ราคาเข้าถึงได้เพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันจัดเต็มด้วยเทคโนโลยี 5G เพิ่มกำไรลดภาระดีลเลอร์ ประเดิมโมเดลแรกสุดปังคาดส่งรถยนต์ไฟฟ้า 100% ซุ่มเจรจา “บีโอไอ” เปิดแพ็กเกจอีวีรอบ 2 หวังใช้ไทยเป็นฮับอาเซียน

นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮาวาล เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงแผนธุรกิจของเกรท วอลล์ฯในประเทศไทย ว่า ขณะนี้ได้จัดตั้งบริษัท ฮาวาล เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อทำตลาดเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างจัดเตรียมบุคลากรและเฟ้นหาดีลเลอร์ที่จะเข้ามาช่วยกันทำงาน ขณะที่โรงงานก็ได้รับการปรับปรุงและพร้อมที่จะขึ้นไลน์ผลิต ทุกอย่างเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่วางไว้ทั้งหมด โดยน่าจะมีรถยนต์รุ่นแรกออกวางจำหน่ายในบ้านเราราวต้นปี 2564

ประเดิมตลาดรถไฟฟ้า 100%

นายณรงค์ กล่าวว่า เกรท วอลล์ฯ ถือเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ในประเทศจีน มีโปรดักต์หลากหลาย ทั้งรถยนต์นั่ง, รถอเนกประสงค์เอสยูวี และรถปิกอัพ ขนาด 1 ตัน ซึ่งการทำตลาดในบ้านเราก็จะมีให้ครบทุกรุ่น แต่สำหรับรุ่นแรกที่จะเปิดตัวอาจจะต้องโดดเด่นเป็นพิเศษ ซึ่งที่เตรียมไว้คาดว่าอาจจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100%

“เบื้องต้นจะเป็นการนำเข้ามาทำตลาดก่อน เพื่อแนะนำให้ลูกค้าชาวไทยได้รู้จักและรอความพร้อมทุกอย่าง ทั้งตัวโรงงาน พันธมิตรทางธุรกิจประเมินกันไว้ว่า งานมอเตอร์โชว์ 2021 น่าจะมีให้ลูกค้าได้สัมผัสแน่นอน”

บุกตลาดด้วยเทคโนโลยี 5G

ผู้บริหาร เกรท วอลล์ฯ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันโลกรถยนต์มีความเปลี่ยนแปลงทั้งในเชิงเทคโนโลยีและวิธีการจัดจำหน่าย ซึ่ง เกรท วอลล์ฯ ต้องการเป็นผู้นำทั้ง2 ด้าน ดังนั้น การรุกตลาดบริษัทจะนำเทคโนโลยี 5G ซึ่งบริษัทมีความพร้อมมากมาใช้ ซึ่งจะทำให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้ง่ายขึ้น โดยพยายามปรับโมเดลการดำเนินธุรกิจเพื่อทำให้ดีลเลอร์ทำงานได้ง่ายขึ้น ตั้งแต่ในส่วนของการผลิตที่โรงงานจนกระทั่งไปถึงผู้แทนจำหน่าย ตั้งแต่การจองรถ ลูกค้าสามารถรู้สถานะของรถได้เลย ลดภาระดีลเลอร์ในการสต๊อกสินค้าทำกำไรได้ง่ายขึ้น ส่วนของโรงงานก็จะเป็น “smart factory” ตามมาตรฐานการผลิตยานยนต์ระดับโลกของเกรท วอลล์ มอเตอร์ส

นอกจากนี้ ยังจะมีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบการผลิตอัตโนมัติอย่างAI (artificial intelligence) เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ถึงขีดสุด

“บ้านเราจะมีอาร์แอนด์ดีเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าคนไทยด้วย เรามีกว่า 10 แห่ง ใน 7 ประเทศ ส่วนโรงงานผลิต 15 แห่งทั่วโลกประเทศไทยกำลังจะเป็นฐานการผลิตยานยนต์เต็มรูปแบบลำดับที่ 11 ของเกรท วอลล์ มอเตอร์สทั่วโลก”

แห่สมัครดีลเลอร์กว่า 100 ราย

นายณรงค์ ยังเปิดเผยต่อไปว่า ขณะนี้มีดีลเลอร์จากค่ายรถยนต์ต่าง ๆ รวมทั้งผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกรถยนต์ให้ความสนใจสมัคร นำเสนอโปรไฟล์เพื่อสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายของ “ฮาวาล” เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มนักลงทุนที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ก็ยังให้ความสนใจด้วยเช่นเดียวกัน ขณะนี้มีผู้ยื่นใบสมัครเข้ามามากกว่า 100 รายแล้ว

“ผมเห็นรายชื่อของนักลงทุนที่สมัครเข้ามาค่อนข้างตกใจ เนื่องจากมีจำนวนมากและหลายคนมีความเชื่อมั่น ว่า เกรท วอลล์ฯจะเข้ามาปฏิวัติวงการค้าปลีกรถยนต์เมืองไทย ซึ่งมีจำนวนผู้สนใจมากและเราพร้อมเปิดรับ สำหรับเกณฑ์ในการเลือกดีลเลอร์นั้นบริษัทไม่ได้มุ่งเน้นที่จำนวน แต่ต้องการเน้นเรื่องของทัศนคติและมุมมองในการดำเนินธุรกิจ”

ชงบีโอไอส่งเสริมอีวีรอบ 2

สำหรับแผนงานด้านการผลิตนั้น ประธานกลุ่ม บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์สภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย เคยให้สัมภาษณ์ว่า จะมีการลงทุนกว่า 22,600 ล้านบาท จ้างงาน 3,435 คน ใช้ชิ้นส่วนในประเทศ 45% และยังพร้อมลงทุนโรงงานแบตเตอรี่ซึ่งสามารถซัพพลายให้ได้อีกหลาย ๆ ยี่ห้อ โรงงานแห่งนี้จะมีกำลังผลิตต่อปีประมาณ 80,000 คัน

นอกจากนี้ บริษัทยังได้อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ขอรับบัตรส่งเสริม เนื่องจากบริษัทแม่มีความตั้งใจจริงในการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และใช้ประเทศไทยเป็นฮับส่งออกทั่วทั้งภูมิภาคนี้ แต่แพ็กเกจส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าในบ้านเราปิดโครงการไปตั้งแต่ปี 2562

ชูสินค้าพรีเมี่ยมราคาเข้าถึงง่าย

นโยบายด้านการทำตลาด นอกจากสินค้าที่หลากหลายแล้ว “ฮาวาล” ยังจะเน้นนโยบายการนำเสนอ “ราคา” ที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่าย และมีความสมเหตุสมผล ภายใต้บริการหลังการขายระดับพรีเมี่ยม โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการมองหาพันธมิตรทางการเงินเพื่อเตรียมความพร้อมไว้รองรับบริการทางด้านสินเชื่อให้กับลูกค้าในอนาคตด้วย

สำหรับเกรท วอลล์ มอเตอร์ส หรือ GWM ผู้ผลิตรถเอสยูวีและรถกระบะระดับโลก จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อปี 2546 และตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้เมื่อปี 2554 มีบริษัทย่อยที่ถือหุ้นมากกว่า 80 บริษัท และมีพนักงานกว่า 70,000 คน ปัจจุบันมียอดขายมากกว่า 1 ล้านคันต่อปี นอกจากในประเทศจีนยังมีการทำตลาดไปกว่า60 ประเทศและภูมิภาค มีเครือข่ายในต่างประเทศกว่า 500 แห่ง