1 ธ.ค.ลุ้นราคา “MG EP” รถยนต์สเตชั่นแวกอนไฟฟ้า

เอ็มจี เปิดตัว รถยนต์ เผยโฉม เอ็มจี อีพี ใหม่ รถสไตล์สเตชั่นแวกอน ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกในประเทศไทย ก่อนเปิดราคาอย่างเป็นทางการใน งาน มอเตอร์เอ็กซ์โป 1 ธ.ค. นี้ 

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากความมุ่งมั่นของบริษัทเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำยานยนต์แห่งอนาคต บริษัท ได้เปิดตัว เอ็มจี อีพี (MG EP) รถยนต์ไฟฟ้า100% รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดโดยวางตำแหน่งให้ เอ็มจี อีพี เป็น “เกณฑ์มาตรฐาน” สู่บรรทัดฐานใหม่ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย ที่ผสาน 4 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่

มิติตัวถังและพื้นที่การใช้งาน (Dimension) ด้วยจุดเด่นของการเป็นรถสเตชั่นแวกอนที่มีมิติตัวถังขนาดใหญ่ทำให้มีพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย และพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ เมื่อพับเบาะหลัง พื้นที่ความจุสัมภาระสูงสุดถึง 1,456 ลิตร รองรับการบรรทุกทั้งคนและสิ่งของได้เป็นอย่างดี

ความสะดวกสบายและระบบความปลอดภัย (Convenience & Safety) ที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อกับ Apple CarPlay  มั่นใจด้วยระบบความปลอดภัย โดยมีการทำงานผสานกันทั้งระบบ Active และ Passive Safety

สมรรถนะที่เปี่ยมประสิทธิภาพ (Performance) จากแบตเตอรี่ที่มีความจุขนาด 50.3 kWh ทำให้วิ่งได้ไกลถึง 380 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (ทดสอบตามมาตรฐานความประหยัดพลังงาน New European Driving Cycle – NEDC) และมีมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงที่ 163 แรงม้า มีกำลังเพียงพอต่อการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน

ต้นทุนในการเป็นเจ้าของที่ต่ำ (Low cost of ownership) ทั้งค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและค่าบำรุงรักษาที่ต่ำ สามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว

เอ็มจี อีพี ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า พร้อมแรงบิด 260 นิวตัน–เมตร  เกียร์ไฟฟ้า สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 ได้ภายใน 8.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 185 กิโลเมตร/ชั่วโมง

รถคันนี้มาพร้อมรูปแบบการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Normal โหมด Eco และ โหมด Sport  และอัดแน่น ด้วยเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยที่ครบครันตามมาตรฐาน ประกอบด้วย ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-Lock Braking System),ระบบกระจายแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBD (Electronic Brake Force Distribution),ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist),ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)

ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold) ,ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System),ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control),ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System),ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System),ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)  และระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)

และยังมีการติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light) จุดยึดเบาะ ISOFIX เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับถุงลมนิรภัยคู่หน้า กล้องมองหลังพร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง และระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer

MGเอ็มจี อีพี  ชาร์จไฟฟ้าได้ 2 แบบ คือ

  • Quick Charge แบบ DC ผ่านหัวชาร์จประเภท CCS Combo 2 โดยชาร์จพลังงานตั้งแต่ 0-80% ในระยะเวลาประมาณ 40 นาที
  • Normal Charge แบบ AC ชาร์จพลังงานตั้งแต่ 0–100% ผ่าน MG Home Charger ที่เป็นหัวชาร์จ TYPE II ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง 15 นาที ซึ่งระยะเวลาในการชาร์จนั้น จะขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่

และยังสามารถสามารถชาร์จพลังงานในระหว่างการขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ (Regenerative) ด้วย KERS Mode (Kinetic Energy Recovery System) โดยเลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับได้ถึง 3 ระดับ เอ็มจี อีพี มาพร้อมระบบกันสะเทือนของช่วงล่างแบบ Euro Tuning Suspension เสริมด้วยระบบช่วงล่างหน้าแบบ MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และช่วงล่างหลังแบบทอร์ชั่นบีม

เอ็มจี อีพี มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่

  • สีขาว (Arctic White)
  • สีเงิน (Metallic Grey)
  • สีดำ (Black Knight)

โดยเอ็มจีจะเปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่งาน Motor Expo 2020 ในวันที่ 1 ธันวาคม 2563 พร้อมรับจองภายในงาน และโชว์รูมเอ็มจีทุกสาขาทั่วประเทศ

NEW MG EP