ปั้นไทยสู่ “มหานครแห่งรถอีวี” สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าจี้รัฐผลักดันทุกช่องทาง

สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยเผยไทยขึ้นชั้นมหานครแห่งยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต เทียบเท่าอเมริกา-โปแลนด์ แนะภาครัฐเดินหน้าหนุนอีวีโรดแมปต่อเนื่อง ผลักดันให้คนไทยเข้าถึงรถอีวีง่ายขึ้น

นายกฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครได้รับคัดเลือกให้เป็นเมืองต้นแบบด้านการเตรียมความพร้อมเพื่อวางรากฐานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้าที่ดี จากสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าโลก World Electric Vehicle Association (WEVA) ที่ได้คัดเลือกเมืองต่าง ๆ ที่อยู่ในกลุ่มสมาชิกเนื่องจากกรุงเทพมหานครมีการวางยุทธศาสตร์เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของยานยนต์ไฟฟ้าและพัฒนาพื้นที่สีเขียวให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับรางวัล E-Visionary Award จาก The Electric Drive Transportation Association เเละ World Electric Vehicle Association ที่จัดขึ้น ณ เมืองพอร์ตแลนด์ ในรัฐออริกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งทางกรุงเทพมหานครได้รับเลือกพร้อมกับอีก 2 เมืองใหญ่ของโลก ได้เเก่ เมืองออสติน เมืองหลวงของรัฐเทกซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา และกรุงวอร์ซอ เมืองหลวงประเทศโปแลนด์ ให้เป็นเมืองต้นแบบด้านการเตรียมความพร้อมเพื่อวางรากฐานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า

นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยยังกล่าวถึงปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กเป็นปัญหาที่ชาวกรุงเทพมหานครและในหลาย ๆ จังหวัดต้องประสบปัญหาทุก ๆ ปี แต่ด้วยปัญหาด้านมลภาวะดังกล่าวนี้ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยจึงได้วางเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และได้กำหนดข้อเสนอแนะ 8 ข้อ เพื่อผลักดันให้มีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อนำเสนอต่อภาครัฐ

รวมไปถึงการสนับสนุนให้มีการทำอีวีโรดแมปปรับปรุงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การปรับปรุงข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐานของยานยนต์ไฟฟ้าต่าง ๆ รวมถึงการสนับสนุนให้ภาครัฐออกมาตรการเพื่อสนับสนุนให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงยานยนต์ไฟฟ้าได้มากขึ้น

ปัจจุบันจากสถิติจำนวนผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ โดยกรมการขนส่งทางบก ณ วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2563 พบว่ามียอดสะสมจากการจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ จำนวน 5,021 คัน โดยเป็นยอดการจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ใหม่ คิดเป็น 2,267 คัน
ส่วนจำนวนยานยนต์ไฟฟ้าไฮบริดและปลั๊ก-อิน ไฮบริดมียอดจดทะเบียนสะสมเป็นจำนวนกว่า 175,888 คัน ในส่วนของสถานีอัดประจุไฟฟ้านั้น มีทั้งสิ้นราว 1,974 หัวจ่าย ใน 647 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตจำนวนของยานยนต์ไฟฟ้าและความนิยมของยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยนั้นจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน

ด้าน นายวิรัตน์ มนัสสนิทวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร กล่าวถึงปัญหาปัจจุบันนี้เรื่องฝุ่นละอองขนาดเล็กทางกรุงเทพมหานครเองก็ไม่นิ่งนอนใจ โดยมีแผนระยะสั้นในการแก้ไขปัญหา รวมไปถึงการจัดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์เพื่อลดฝุ่น และการสั่งห้ามรถบรรทุกวิ่งในเขตกรุงเทพมหานคร

ส่วนแผนระยะยาว ทางท่านผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมีนโยบายว่า ในอนาคตต้องการให้มีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และคาดหวังว่าการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าจะช่วยแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานอีกด้วย นอกจากนี้เราก็มีแผนที่จะสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในหน่วยงานของกรุงเทพมหานครเอง เพื่อเป็นโครงการนำร่องสำหรับการใช้ยานยนต์ที่ปลอดมลภาวะพร้อม ๆ กับการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตกรุงเทพมหานคร และหวังว่าในอนาคตประชาชนจะหันมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อลดมลพิษ ให้สมกับที่เราได้รับรางวัลเมืองแห่งอนาคตด้านยานยนต์ไฟฟ้า