“เอ็ม เอ เอ็น” คุ้มค่า เกินพิกัด

เทสต์คาร์
วุฒิณี ทับทอง

“จักรพงษ์ ศานติรัตน์” ผอ. เอ็ม เอ เอ็น ทรัค แอนด์ บัส ประเทศไทย จัดกิจกรรมทดสอบสมรรถนะรถบรรทุกหัวลาก เป็นครั้งแรกที่เปิดโอกาสให้ บรรดาสื่อมวลชนได้สัมผัสประสบการณ์กับรถบรรทุกหัวลากกันแบบเต็มอิ่ม ด้วยการปิดสนามทดสอบ “TPRO Training Center” จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อกิจกรรมครั้งนี้

รถบรรทุกหัวลากทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ MAN TGS รุ่น TGS6x4 360 แรงม้า, TGS6x4 400 แรงม้า และ TGS6x4 440 แรงม้า ถูกขนมาให้ทดสอบการขับขี่ในรูปแบบต่าง ๆ และการใช้งาน

จุดเด่นของรถบรรทุกเอ็ม เอ เอ็น ซึ่งเป็นรถที่ได้รับการผลิตและนำเข้า (ซีบียู) 100% จากเยอรมนี รถบรรทุกที่เราทดสอบครั้งนี้ใช้เฉพาะ “หัวลาก” ไม่มีส่วนพ่วง

คือรุ่น TGS มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล D2066 6 สูบ ขนาด 10,518 ซีซี ใช้ระบบหัวฉีดคอมมอนเรล อินเตอร์คูลเลอร์เทอร์โบชาร์จ ให้กำลัง สูงสุด 360 แรงม้า ที่ 1,400-1,900 รอบต่อนาที ในรุ่น TGS6x4 360 แรงม้า

ส่วนรุ่น TGS6x4 400 แรงม้า และ TGS6x4 440 แรงม้า 1,900 รอบต่อนาที ให้แรงบิด 1,800/1,900/2,000 นิวตันเมตร ที่ช่วงรอบการทานตั้งแต่ 1,000-1,400 รอบต่อนาที

ทำงานผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 12 เกียร์เดินหน้า และ 2 เกียร์ถอยหลัง ทำงานกึ่งอัตโนมัติ ด้วยระบบการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติแบบ TipMatic แบบ Smartshifting ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงระบบการตรวจจับภาวะการรับน้ำหนักของตัวรถ เพื่อทำการเลือกเกียร์ให้เหมาะสมกับการออกตัวโดยคำนึงถึงน้ำหนักตัวรถและน้ำหนักบรรทุกขณะขับขี่ด้วยการจำลองรูปแบบการขับขี่ในสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อให้เราได้ทดสอบสมรรถนะและความคล่องตัวของรถ

เริ่มกันที่สถานีแรก กับการทดสอบบนแทร็ก เพื่อขับขี่โดยใช้ระยะควบคุมความเร็ว หรือ ครุยซ์คอนโทรล และระบบการรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกระยะการขับขี่เพื่อให้ห่างจากรถคันหน้าได้ 5 ระดับ ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ขับขี่และความปลอดภัยได้อีกขั้น โดยที่เมื่อเรดาร์รถตรวจจับรถคันหน้าได้ ผู้ขับสั่งการง่าย ๆ เพียงแค่กดปุ่มสั่งการ หากรถของเราใช้ความเร็วเกินกว่าค่าที่เราตั้ง ระบบก็จะถูกตัดออกไป และผู้ขับต้องตั้งค่าใหม่อีกครั้ง

มาถึงสถานีที่ 2 เพื่อดูความคล่องตัวของรถ และความแม่นยำของพวงมาลัย ครั้งนี้เราจะใช้รถบรรทุกหัวลากขับในรูปแบบของ “สลาลอม” ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า การควบคุมพวงมาลัย และการขับขี่ของรถทำได้ค่อนข้างดี ทั้งจังหวะการเลี้ยวหักหลบสิ่งกีดขวาง

ทำได้จนลืมเรื่องขนาดของตัวรถไปเลย

 

ก่อนที่จะมาสู่สถานีถัดไป คือการทดสอบระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน หรือ MAN EasyStart ที่ติดตั้งเพิ่มช่วยให้ผู้ขับขี่ขึ้นได้เยอะ เวลาที่ต้องบรรทุกหนักแล้วขับขึ้น-ลงเนินลาดชัน แล้วปล่อยคันเร่ง ระบบจะเข้ามาช่วยหน่วงตัวรถให้หยุดอยู่ราว 3-5 วินาที มีเวลาเพียงพอที่จะให้ ผู้ขับสามารถเติมคันเร่งส่งให้รถขึ้น-ลงเนินไปได้อย่างปลอดภัย ก่อนจะ วิ่งชู้ตความเร็วขึ้นไปตามลิมิตที่กฎหมายกำหนด วิ่งเกิน 60 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ทั้งทางตรงและทางโค้ง

รถทรงตัวได้ค่อนข้างดี และยังยึดเกาะถนน เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ แม้จะยังไม่ได้ต่อพวงเพื่อบรรทุก

ส่วนระบบการเบรกนั้นทำได้อย่างมั่นใจด้วย MAN BrakeMatic เป็นระบบเบรกล้อด้วยลมล้วน ๆ ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (EBS) แบบดิสก์เบรกทั้งหน้า-หลัง มาพร้อมระบบป้องกันล้อล็อกให้เราสั่งการรถหยุดได้ทันใจแม่นยำ

รถบรรทุกเอ็ม เอ เอ็นทำได้ประทับใจ ทั้งขุมพลังในการขับขี่ ความคล่องตัว และที่สำคัญ ความสะดวกสบายของผู้ขับ และพื้นที่ในห้องโดยสารที่ออกแบบมาให้เหมาะสม มีความกว้างขวาง แถมเมื่อผู้ขับขี่ ต้องวิ่งด้วยระยะทางไกล ๆ ยังสามารถจอดรถและปรับพื้นที่ในห้องโดยสารเพื่อเป็นเตียงนอนขนาดย่อมได้สบาย ๆ

สำหรับเถ้าแก่ หรือเจ้าของกิจการที่กำลังมองหารถบรรทุกเพื่อความคุ้มค่าให้กับธุรกิจ เอ็ม เอ เอ็น TGS ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย กับรถซีบียูทั้งคันสั่งตรงจากเยอรมนี

แถมสนนราคายังน่าสนใจ ราคาเริ่มต้นที่ 4.2 ล้านบาท โดยยังได้รับประกันคุณภาพของตัวรถทั้งคัน 12 เดือนไม่จำกัดระยะทาง ประกันระบบขับเคลื่อนและบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง และรับประกันอะไหล่ 24 เดือน โดยไม่จำกัดระยะทาง

พิเศษ สำหรับลูกค้ายังจะได้รับบริการบำรุงรักษา COMFORT 3 ปี หรือ 300,000 กิโลเมตร พร้อมบริการถึงที่ สำหรับตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธ.ค.นี้เท่านั้น