จันทร์นภา สายสมร “ลามิน่าเติบโตอย่างแข็งแรง”

สัมภาษณ์

ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีที่มีความเปลี่ยนแปลงเยอะมาก และพวกเราได้เรียนรู้ที่จะอยู่กับ “โควิด-19” กับ “โรคอุบัติใหม่” ให้ได้

“ลามิน่า” เองได้มีการปรับตัวเยอะมาก เพราะเป็นสถานการณ์ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตลอดระยะเวลา 26 ปีในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะเหตุการณ์เมื่อช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2563 นั้น ยอดของลามิน่าหล่นลงไปถึง 55%

ดังนั้น การปรับตัว ปรับองค์กร ให้สามารถตั้งรับกับวิกฤตได้อย่างทันท่วงทีเป็นเรื่องจำเป็น

ภายใต้การนำทัพของ “จันทร์นภา สายสมร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด จะพาองค์กรก้าวข้ามวิกฤตมาได้แบบไหน และยังสามารถคงความเป็นผู้นำเบอร์หนึ่งในตลาดฟิล์มกรองแสงอยู่ได้นั้น ไปติดตามกัน

ทุกคนปรับตัวเยอะมาก

สิ่งสำคัญในปีที่ผ่านมาของลามิน่า คือ “สุขภาพ” ของพนักงาน เราทำ 2 สิ่ง คือ 1.ประกาศเป็นนโยบายบริษัทว่า ทุกคนจะต้องปลอดภัยจากโควิด-19 ด้วยการบริหารจัดการด้านสุขอนามัย พร้อมดำเนินการทุกอย่างตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

โดยเฉพาะในส่วนของพนักงานนั้น ลามิน่าได้มีการจัดทำแบบสอบถามตามมาตรฐานของสาธารณสุข เพื่อสกรีนพนักงานที่มีความเสี่ยง และยังได้มีการทดลองระบบไอทีเวิร์กฟรอมโฮม แต่สุดท้ายเราไม่ได้ใช้ต่อเนื่อง ลามิน่าเป็นอาคารสำนักงานเดียวทำให้ควบคุมได้ง่าย

บริษัทเราเป็นอาคารเดี่ยว ทำให้ควบคุมและตรวจสอบได้ง่าย ที่สำคัญ พนักงานเกือบทั้งหมดเดินทางด้วยรถยนต์ รถจักรยานยนต์ส่วนตัว โอกาสติดเชื้อจากภายนอกมีได้ยาก

2.การจัดทำแผนการดำเนินธุรกิจใหม่ทั้งหมด เพื่อตั้งรับกับ “โรคอุบัติใหม่” ด้วยการปรับแผนงานอย่างต่อเนื่องทั้งด้านการตลาดและการขาย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ทั้งกลุ่มลูกค้าผู้ใช้งาน และลูกค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายของลามิน่าให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้

สร้างความมั่นใจให้พนักงาน

แม้ว่าปีที่ผ่านมา ลามิน่าต้องปรับแผนงานค่อนข้างเยอะ และมีการตัดกิจกรรมต่าง ๆ ลงไป คงไว้เพียงแต่กิจกรรมซีเอสอาร์ “ลามิน่าสานฝันให้เด็กไทยได้เล่าเรียน” และการมอบทุนการศึกษาให้กับมูลนิธิชัยพัฒนา และมูลนิธิเจ้าฟ้ามหิดลที่เราคงเอาไว้

นอกจากนี้ เราได้คุยกับพนักงานเพื่อทำความเข้าใจ และให้ความมั่นใจอย่างเต็มที่ว่า บริษัทจะไม่มีแผนในการลดคน หรือลดเงินเดือน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพนักงาน รวมทั้งหารือกับทีมขายเพื่อเดินหน้าบุกตลาดอย่างเต็มที่ มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อติดอาวุธให้กับพนักงานออกไปสู้ และเราเพิ่งมีการออกโปรดักต์ใหม่ฟิล์มกรองแสง “ซีเอ็มซีรีส์” ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยพยุงและทำให้ลามิน่ามียอดขายเติบโตสูงกว่าตลาด

ปีที่ 2563 ที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์ตกลง 21% ส่วนฟิล์มกรองแสงลดลง 18% มีมูลค่าตลาดที่ 1,300-1,400 ล้านบาท

ส่วนฟิล์มลามิน่านั้นลดลงไปแค่ 14% มียอดขายที่ 700 ล้านบาท ซึ่งถือว่าค่อนข้างน่าพอใจอย่างยิ่งบนสถานการณ์ที่วิกฤต

ปีนี้เล็งโตเพิ่ม 10%

สำหรับปีนี้แม้สถานการณ์หลายอย่างเริ่มคลี่คลาย และเราหวังว่าทุกอย่างจะค่อย ๆ กลับมาดีขึ้น ผลมาจากความร่วมมือร่วมใจของพนักงาน รวมถึงร้านค้าตัวแทนจำหน่าย และดีลเลอร์รถยนต์ที่จะช่วยกันขับเคลื่อนความแข็งแกร่งในปีนี้

ทำให้ลามิน่าตั้งเป้าจะมียอดขายสำหรับปีนี้ไว้ที่ 770 ล้านบาท โตอย่างน้อย 10% ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์การเติบโตของตลาดฟิล์มกรองแสงที่คาดว่าจะเติบโตที่ 6% มีมูลค่า 1,300-1,400 ล้านบาท

ขณะที่ความต้องการของตลาดรถยนต์น่าจะอยู่ที่ 850,000 คัน ประกอบกับความเข้มแข็งของพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศไทยที่แข็งแกร่งในหลายด้าน โดยเฉพาะการเป็นครัวของโลก มีอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการเป็นฐานการผลิตในหลาย ๆ อุตสาหกรรมที่เชื่อว่าเมื่อทุกอย่างคลี่คลาย และอุตสาหกรรมเหล่านี้จะฟื้นตัวกลับมาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ จะช่วยสร้างเม็ดเงินได้อย่างมหาศาล

แต่ทั้งนี้ เราก็ยังต้องติดตามสถานการณ์ทางการเมืองและการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ เนื่องจากส่งผลกับความเชื่อมั่นอย่างมาก

อีกสิ่งหนึ่งคือการที่ประเทศไทยจะต้องเร่งสร้างบรรยากาศในการส่งเสริมการลงทุน โดยต้องพยายามดึงดูดการลงทุนใหม่ ๆ เข้ามาในประเทศอย่างต่อเนื่องด้วย

ต่อยอด “ซีเอ็มซีรีส์”

ลามิน่ายังจะเดินหน้าใช้ความแข็งแกร่งของตัวเอง รวมถึงการต่อยอดด้วยโปรดักต์ใหม่ “ซีเอ็มซีรีส์” กิจกรรมการตลาด และความแข็งแกร่งของผู้แทนจำหน่ายที่มีอยู่ 700 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งพันธมิตรที่เป็นดีลเลอร์รถยนต์อีกกว่า 1,500 แห่งทั่วประเทศ เพื่อสร้างความแตกต่างและความมั่นใจให้กับลูกค้าลามิน่าต่อเนื่อง

และในส่วนของสินค้า “ธูเล่” เนื่องจากเทรนด์ความนิยมจากกระแสของ “แคมปิ้ง” ทำให้ลูกค้าหันมาจับจ่ายและมองหาอุปกรณ์ต่าง ๆ เพิ่มขึ้น โดยปีที่แล้วเฉพาะธูเล่โตขึ้น 10% บริษัทก็จะยังคงเดินหน้าทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับฟิล์มกันสะเก็ดหินลูมาร์ ที่กลุ่มลูกค้าให้ความสนใจเพิ่มขึ้น