“ฟอร์ด-เอ็มจี” โตสวนกระแส ตลาดปิกอัพยังไม่ฟื้นสตาร์ตเดือนแรกร่วง 15%

ค่ายรถจ๋อย ตลาดปิกอัพไม่ยอมฟื้นตัวออกสตาร์ตเดือนแรกทรุดเกือบทุกแบรนด์ มีเพียง “ฟอร์ด-เอ็มจี” 2 ยี่ห้อโตสวนกระแส เชื่อเดือนกุมภาพันธ์ทรุดอีกจากวิกฤตโควิด ตั้งหน้ารออีเวนต์ใหญ่มอเตอร์โชว์

ผู้สื่อข่าวรายงานยอดขายรถยนต์ปิกอัพในเดือนมกราคม 2564 พบว่า มียอดรวมทั้งสิ้น 25,813 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 14.2% ซึ่งทำได้ 30,071 คัน โดยมีเพียง 2 ยี่ห้อ คือ ฟอร์ดและจีเอ็มเท่านั้น ที่มียอดขายโตขึ้น ขณะที่บิ๊กแบรนด์ต่างมียอดขายลดลง แม้ว่าบางค่ายจะแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาด ทั้งนิสสัน นาวารา และมาสด้า บีที-50 แต่ตลาดกลับไม่คึกคัก

โดย อีซูซุ ดีแมคซ์ ยังคงทำยอดขายสูงสุด 12,764 คัน ลดลง 1.1% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อนทำได้ 12,911 คัน ตามมาด้วย โตโยต้า 8,519 คัน ลดลง 19.7% จากยอดขายปีก่อน 10,610 คัน, มิตซูบิชิ 1,432 คัน ลดลง 41.5% จากยอดขายปีก่อน 2,448 คัน

นิสสัน ร่วงหนักสุด 66.7% ขายได้เพียง 502 คัน จากยอดขายเดือนมกราคมปีก่อน 1,506 คัน เช่นเดียวกับ มาสด้า ทำได้ 242 คัน ลดลง 18.5% จากยอดขายเดือนมกราคมปีก่อน 297 คัน ขณะที่ ฟอร์ดโตขึ้น 15.1% ทำได้ 1,962 คัน จากยอดขายเดือนมกราคมปีก่อน 1,705 คัน และ เอ็มจี น้องใหม่สุดในตลาดรถปิกอัพขนาด 1 ตัน ถือว่าออกสตาร์ตได้ค่อนข้างดี ในช่วงเดือนแรกของปี โตขึ้น 218.8% มียอดขาย 387 คัน จากเดือนมกราคมปีก่อนที่ขายได้ 121 คัน

แหล่งข่าวฝ่ายบริหารค่ายรถยนต์รายหนึ่งเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์ของตลาดรถปิกอัพในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มของผู้เล่นเทียร์ 2 ส่วนใหญ่จะใช้โปรโมชั่นและแคมเปญส่งเสริมการขาย มาเป็นตัวกระตุ้นตลาดเพื่อดึงลูกค้าเข้าโชว์รูม แต่ในช่วงที่ผ่านมา กลยุทธ์ดังกล่าวอาจไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ด้วยศักยภาพของลูกค้าและความเข้มงวดของสถาบันการเงิน ทำให้มีลูกค้าจำนวนมากไม่สามารถผ่านเกณฑ์ของสถาบันการเงินได้ ส่งผลให้ยอดขายแต่ละยี่ห้อลดลงไปค่อนข้างมาก และเชื่อว่าเดือนกุมภาพันธ์นี้ก็น่าจะหดตัวอีก จากผลกระทบโควิด-19 จะไปดีขึ้นช่วงเดือนมีนาคมโดยมีอีเวนต์ใหญ่มอเตอร์โชว์ช่วยกระตุ้น

ก่อนหน้านี้ นายธีร์ เพิ่มพงษ์พันธ์ รองประธานบริหารฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตั้งแต่มาสด้าเปิดตัวปิกอัพใหม่ บีที-50 เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา มียอดจองไปแล้วมากกว่า 2,000 คัน แต่ก็ยังไม่ถือว่าเป็นที่น่าพอใจมากนัก อย่างไรก็ตามมาสด้าจะพยายามสื่อสารและนำจุดแข็งเพื่อสร้างความแตกต่างของการผลิตรถ นำเสนอไปยังผู้บริโภค และที่สำคัญ มาสด้า บีที-50 ถือเป็นรถปิกอัพที่มีค่าบำรุงรักษาหลังการขายที่ถูกที่สุดในตลาดตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร ลูกค้าจะจ่ายเงินเพียง 20,110 บาทเท่านั้น

เช่นเดียวกับ นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่กล่าวยอมรับว่า แม้ว่าเอ็มจีจะเป็นค่ายรถยนต์น้องใหม่ล่าสุดที่กระโดดเข้ามาเล่นในตลาดรถปิกอัพ แต่ยังมียอดขายต่อปีไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับผู้เล่นในตลาดรายเดิมที่มีอยู่ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเดินหน้าเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งและยอดขายให้กับรถปิกอัพ เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อไปสู่เป้าหมายยอดขายที่เดือนละ 600-700 คันให้ได้ก่อน

“ต้องยอมรับว่ายอดขายของเรายังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่อย่างหนึ่งที่เห็นคือหลังจากช่วงโควิด ยอดขายเรากระเตื้องขึ้นอย่างชัดเจน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะลูกค้าให้การยอมรับในเรื่องของแบรนด์ จำนวนโชว์รูมศูนย์บริการที่มีเพิ่มขึ้น รวมทั้งการส่งเสริมการขายที่ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงรถเอ็กซ์เทนเดอร์ได้ง่ายขึ้นด้วย” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว

เช่นเดียวกับ นายวิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจากการเปิดตัวฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ในเมื่อพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าฟอร์ดมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มสูงขึ้นถึง 24% ขายเกือบ 4,000 คัน และยังคงมีโมเมนตัมต่อเนื่องมาจนถึงเดือนมกราคม ที่รถฟอร์ด เรนเจอร์ ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการมอบการรับประกันระบบส่งกำลัง 10 ปี หรือ 150,000 กม. สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร รวมถึงความคุ้มค่า คุ้มราคา ของรถกระบะเพื่อการใช้งาน โดยเฉพาะรุ่น XLT


และทั้งปี ฟอร์ดประเมินว่า ยอดขายรถยนต์จะมีการเติบโตไปในทิศทางเดียวกับจีดีพี โดยน่าจะโตเฉลี่ย 3-5% คิดเป็นประมาณ 820,000-850,000 คัน ตามภาวะเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว และคาดว่าความต้องการรถเพื่อการพาณิชย์จะขยายตัวดี โดยได้รับอานิสงส์จากการขยายตัวของภาคก่อสร้าง ธุรกิจค้าปลีก ออนไลน์ และธุรกิจโลจิสติกส์ โดยมีสัดส่วน 45-46% คิดเป็น 376,000 คัน ซึ่งฟอร์ดมีความคาดหวังที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ทั้งจากภาพรวมของตลาด และจากความมั่นใจที่ผู้บริโภคมีต่อรถฟอร์ด