เท่ไม่เหมือนใครไปกับ “มาเซราติ ลาแวนเต้”

ค่ายมาเซราติ ภายใต้อุ้งปีก MGC เอเชีย ของ ดร.จุ๋ย สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ใช้เวลาเพียง 9 เดือนๆ สามารถขยับขึ้นมาเคียงบ่าเคียงไหล่กับรถหรูหลายยี่ห้อ

สิ่งที่ทำให้ มาเซราติ โดดเด่นอย่างรวดเร็วคงหนี้ไม่พ้น 9 พันธกิจ ที่ให้สัญญาไว้กับลูกค้าทุกราย เริ่มจากสร้างความเชื่อมั่นด้วย ระยะเวลารับประกัน 3 ปี และฟรี ค่าบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร


มีโชว์รูมตามมาตรฐานมาเซราติ เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และรสนิยมของลูกค้าอย่างแท้จริง

มีศูนย์บริการตามมาตรฐานมาเซราติ ที่ทันสมัยอีกแห่งหนึ่งในภูมิภาค
มีอุปกรณ์ศูนย์บริการ และเครื่องมือพิเศษที่ทันสมัยสำหรับรองรับรถมาเซราติทุกรุ่น
มีทีมงาน บุคลากรมืออาชีพทั้งในส่วนฝ่ายขายและฝ่ายบริการหลังการขาย
ให้การอบรมบุคลากรด้านการขายและบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง
บริการด้วยอะไหล่แท้อย่างครบครันจาก มาเซราติ ประเทศอิตาลี
บริการให้คำแนะนำและการบริการซ่อม ที่เป็นไปตามมาตรฐานมาเซราติ
และเสริมสร้างความมั่นใจและความพึงพอใจอย่างสูงสุดแก่ลูกค้ามาเซราติ

ส่วนสมรรถนะของตัวรถ จะยอดเยี่ยมแค่ไหนลองไปติดตามดูครับ วันนี้ขออนุญาตรีวิว เอสยูวี รุ่น “ลาแวนเต้”

ดีไซน์และตัวถังของลาแวนเต้ เน้นการผสมผสานระหว่างโลหะและอะลูมิเนียมเพื่อลดน้ำหนัก ผ่านการออกแบบให้โฉบเฉี่ยว หรูหรา สง่างามในมาดสปอร์ตดุดัน สะท้อนทักษะการออกแบบของชาวอิตาเลียน ที่สามารถทำให้รถอเนกประสงค์อย่างเอสยูวี ดูงดงามและโดดเด่นอย่างเหนือชั้นกับค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (cd) 0.31 ซึ่งนับว่าดีมากสำหรับรถประเภทนี้

กระจังโครเมียมแนวตั้ง สอดรับตราสัญลักษณ์อันโดดเด่นของมาเซราติอย่างลงตัว ไฟหน้าดีไซน์เฉียบคม พร้อมไฟตัดหมอก และแก้มหน้าเจาะช่องระบายอากาศสปอร์ตเต็มขั้นด้วยประตูไร้กรอบ พร้อมออกแบบประตูหลังให้กะทัดรัด ติดตั้งตราสัญญลักษ์บนเสาหลังคาท้ายรถ และเพิ่มความดุดันด้วยปลายท่อ
ไอเสียคู่พร้อมดิฟฟิวเซอร์

มาเซราติลาแวนเต้ ที่จำหน่ายในไทย ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ V6 สูบ 3.0 ลิตร 275 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 600 นิวตันเมตร ที่ 2,000-2,600 รอบ/นาที
ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ สู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ ‘Q4’ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 6.9 วินาทีความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม.

ห้องโดยสารผ่านการออกแบบให้ดูสมมาตร กว้างขวาง และสง่างามทุกมุมมอง (Seamless Cabin concept)
เพลิดเพลินกับระบบเสียงคุณภาพสูง Harman Kardon ตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบ ด้วยระบบอินโฟเทนเมนท์รุ่นล่าสุด รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ทั้ง iOS (Apple CarPlay) และแอนดรอยด์ (Android Auto) ควบคุมผ่าน Rotary controller ติดตั้งทัชสกรีน 8.4 นิ้ว พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง ผู้ขับสามารถใช้ได้สะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ ‘Q4’ พร้อมสำหรับทุกการเดินทาง ทั้งออน-โรดหรือออฟ-โรด โดยมีTorque Vectoring ช่วยกระจายแรงบิดอย่างเหมาะสม ขณะที่ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์
ปรับความสูงได้หลายระดับ ช่วยให้การขับเป็นไปอย่างนุ่มนวลและควบคุมง่าย ผสานประสิทธิภาพการเกาะถนนในทุกเส้นทาง

สำหรับอุปกรณ์มาตรฐาน ในรุ่น Levante Diesel ราคา 7,990,000 บาท อาทิ ช่วงล่างถุงลม ไฟหน้า Bi-Xenon พร้อมระบบทำความสะอาด ระบบเปิด-ปิดฝาท้ายด้วยไฟฟ้า พร้อม Kick sensor ระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย กระจกลามิเนตแบบเป็นส่วนตัวสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง (Privacy Glass) ลายไม้ Black Piano
ระบบปรับอากาศ 2 โซน เบาะหนังแท้ กล้องแสดงภาพขณะถอยหลัง ล้อแม็ก 19 นิ้ว

ขณะที่อุปกรณ์เพิ่มสำหรับรุ่น Levante Diesel GranLussoราคา 8,390,000 บาท
ระบบปรับอากาศ 4 โซน
พาโนรามิก ซันรูฟ
บุเพดานด้วยอัลคันทารา
เบาะหุ้มหนังแท้ชนิดพิเศษ
ระบบอุ่นและระบายอากาศเบาะหน้า
ล้อแม็ก 20 นิ้ว
Adaptive cruise control
Forward Collision Warning
Blind Spot Alert
Lane Departure Warning


ที่มา : มาเซราติ ประเทศไทย