“วอลโว่” เลิกแน่รถใช้เครื่องยนต์ ลั่นอีก 9 ปีขายแต่รถไฟฟ้า

สัมภาษณ์

แม้จะไม่ได้ออกมาตีฆ้องร้องป่าวว่าจะเดินหน้าขับเคลื่อนพัฒนายานยนต์พลังงานไฟฟ้าในบ้านเรามากมาย

แต่วอลโว่ถือเป็นค่ายรถยนต์ที่ได้ออกมาดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมและชัดเจนมากที่สุด เพราะปีที่ผ่านมาวอลโว่ได้ยกเลิกการขายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในอย่างเดียวในตลาดเมืองไทยไปแล้ว

แถมล่าสุดนายใหญ่ “คริส เวลส์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประกาศนโยบายชัดเจนว่า ภายในอีก 9 ปีจากนี้ วอลโว่ไทยแลนด์จะจำหน่ายแต่รถยนต์ไฟฟ้า 100% ในบ้านเราเท่านั้น

พร้อมวางแผนระยะกลางคือใน 4 ปีจากนี้ รถยนต์ที่ขายในพอร์ตครึ่งหนึ่งต้องเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100%

อะไรคือความมั่นใจและความเชื่อมั่นว่าวอลโว่จะเดินไปสู่เป้าหมายที่ประกาศไว้ได้นั้น ไปติดตามกัน

เดินหน้ารุกอีวีเต็มสูบ

เมื่อปีที่ผ่านมา จากความใส่ใจและเล็งเห็นปัญหา สภาพแวดล้อม ค่าฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ประกอบกับเทรนด์ของยานยนต์โลกมุ่งไปสู่พลังงานอีวี วอลโว่เอง เราก็ได้เริ่มมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ที่ไม่มีการจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน และเรามุ่งไปที่รถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด และล่าสุดปีนี้ได้มีการแนะนำรถยนต์เอสยูวีโมเดลแรกออกสู่ตลาดประเทศไทย เอ็กซ์ซี 40 อีวี (XC40 Recharge Pure Electric) โดยจะเริ่มส่งมอบได้ราวเดือนกรกฎาคมนี้ และจากนี้ไป วอลโว่จะโฟกัสไปที่ยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมการใช้ยานยนต์พลังงานสะอาดอย่างจริงจัง โดยทุก ๆ ปีจะมีรถยนต์ไฟฟ้าเปิดตัวสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง

ขยายช่องทางขายไปออนไลน์

หลังจากเปิดตัวรถเอ็กซ์ซี 40 อีวี ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ และมีการเปิดรับจองไปแล้ว โดยบริษัทยังได้เร่งกำลังการผลิตรถรุ่นที่โรงงานในประเทศมาเลเซีย เพื่อเร่งให้สามารถส่งมอบเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีเข้ามาเป็นจำนวนมาก และบริษัทยังจะเดินหน้ารุกทำตลาดและขายผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเราพบว่าหันมาใช้ช่องทางดังกล่าวเพิ่ม แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะไม่ให้ความสำคัญกับช่องทางออฟไลน์ หรือการขายที่โชว์รูมและศูนย์บริการแต่อย่างใด เพราะท้ายที่สุดแล้ว ลูกค้ายังจำเป็นต้องเข้าไปรับรถ ทดลองขับ และใช้บริการหลังการขายที่โชว์รูมและศูนย์บริการอยู่เช่นเดิม เป็นการทำตลาดแบบคู่ขนานกันไป

นอกจากนี้ วอลโว่ยังได้นำเสนอแพ็กเกจใหม่ Volvo Care เพื่อมอบประสบการณ์การใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับเวิลด์คลาสให้แก่ลูกค้า โดยสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะจากที่บ้าน ที่ทำงาน หรือเดินทางมาดูรถเองที่โชว์รูม เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริโภคหันมาใช้รถยนต์พลังไฟฟ้า และร่วมเดินทางสู่อนาคตแห่งพลังงานสะอาดไปพร้อมกับวอลโว่

โดยตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป บริษัทจะมีการแนะนำรถยนต์ประเภทนี้ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการเดินหน้าขยายเครือข่ายศูนย์จำหน่าย Volvo Selekt Approved Used Cars ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น โดยในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้จะเปิดตัวแทนจำหน่ายรถยนต์วอลโว่ใหม่อีก 2 ราย ซึ่งจะมีการประกาศรายละเอียดในเร็ว ๆ นี้

ลั่นปีนี้โต 30%

ในปี 2563 ที่ผ่านมา วอลโว่เรามียอดขายรถยนต์ทั้งสิ้น 1,824 คัน ลดลงจากปีก่อนหน้า 13% และมีส่วนแบ่งทางการตลาดในส่วนของตลาดรถหรู 9% แบ่งสัดส่วนการขายเป็นรุ่นเอ็กซ์ซี 40 คิดเป็น 30% ของยอดจำหน่ายรวม อันดับ 2 รุ่นเอ็กซ์ซี 60 คิดเป็น 26% ตามมาด้วยวี 60 คิดเป็น 16% และเอส 60 คิดเป็น 10% ส่วนรถยนต์มือสองภายใต้มาตรฐาน Volvo Selekt Used Cars ลดลง 10%

ปีนี้คาดว่าวอลโว่จะมียอดขายโต 30% โดยปัจจัยที่ทำให้ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นนั้น เป็นผลมาจากการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าเอ็กซ์ซี 40 อีวีเป็นหลัก โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าองค์กรที่คาดว่าจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 26% เป็น 30%

กางโรดแมปเดินตามบริษัทแม่

เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทแม่ วอลโว่ ประเทศไทย เราได้กำหนดเป้าหมายไว้ชัดเชนว่า ภายในปี 2025 หรือ พ.ศ. 2568 ยอดขายรถยนต์วอลโว่ในประเทศไทยจะต้องมาจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบสมบูรณ์ครึ่งหนึ่ง และในปี 2030 หรือ พ.ศ. 2573 รถยนต์ที่วอลโว่ไทยแลนด์ขาย ต้องเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบสมบูรณ์แบบเท่านั้น ซึ่งเราเชื่อว่าในช่วง 5-10 ปีนี้รถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาแน่นอน เพราะค่ายรถยนต์แต่ละค่ายมีการพัฒนาและนำเสนอโปรดักต์อย่างต่อเนื่อง ในส่วนของวอลโว่มีการพัฒนาและทำรถยนต์ไฟฟ้ามานาน และวอลโว่ได้ตั้งเป้าหมาย “lead in this area”

ประเมินตลาดรถหรู “ทรงตัว”

สำหรับภาพรวมของตลาดรถหรูนั้น คาดว่าจะอยู่ในภาวะที่เรียกว่า “ทรงตัว” หากไม่มีสถานการณ์หรือปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมมาส่งผลกระทบระลอกใหม่ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่อาจจะทำให้เกิดภาวะชะงัก

แต่ก็ต้องดูปัจจัยบวกเรื่องวัคซีน ว่าจะสามารถใช้งานได้เร็ว-ช้าเพียงใด เพราะหากมาเร็วขึ้นแค่ไหน ก็จะช่วยฟื้นธุรกิจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นท่องเที่ยว การค้าขายกับต่างประเทศ-ผลประกอบการในปีที่ผ่านมา สถานการณ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปีที่ผ่านมาประสบกับวิกฤตโควิด