เมอร์เซเดส-เบนซ์ โชว์ยอดจดทะเบียนไตรมาสแรก แชมป์รถหรู

ค่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เผย ยอดขายในไตรมาสแรก โตพรวด 20% มียอดส่งมอบกว่า 5.9 แสนคัน เผยรถ xEV ครองส่วนแบ่งตลาด 10% ทั่วโลก ส่วนประเทศไทย ขาย 3 เดือนแรก ยอดจด ทะเบียน ครองแชมป์ตลาดรถยนต์หรู

นายโรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงความสำเร็จของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในช่วงไตรมาสแรกว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์มียอดขายรถยนต์ที่จดทะเบียนที่กรมการขนส่งทางบกแล้วทั้งสิ้นถึง 3,178 คัน ครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มรถยนต์ลักชัวรี

ทั้งนี้เป็นผลมาจากความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ และบริการอันยอดเยี่ยมรวมทั้งการนำเสนอนวัตกรรมในการนำเสนอออกสู่ตลาดประเทศไทย  โดยที่ผ่านมบริษัท ได้นำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ออกมาได้อย่างหลากหลายรุ่นมากที่สุดในตลาดรถยนต์ไทย ทั้งกลุ่มรถยนต์ Mercedes-AMG รถยนต์เอสยูวี และกลุ่มรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด

เมอร์เซเดส-เบนซ์

“ยอดขายในไตรมาสแรกนี้ ยังไม่รวมยอดจองในงานมอเตอร์โชว์ 2021 ที่ผ่านมา ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์มียอดจองเป็นอันดับ 1 ของตลาดรถยนต์ลักชัวรีด้วยเช่นกัน และเช่นเดียวกับในตลาดโลก โดย โดยเรามีแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ 15 รุ่น ซึ่งรวมถึงรถยนต์รุ่นปลั๊กอินไฮบริดอีกหลายรุ่นด้วย เพื่อตอบรับกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงใจในปีนี้”

ด้านนายบริตตา ซีเกอร์ กรรมการในคณะกรรมการบริหารเดมเลอร์ เอจี และเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี  ซึ่งกำกับดูแลงานด้านการตลาดและการขาย เปิดเผยถึง ยอดขายทั่วโลก ในไตรมาสแรก เมอร์เซเดส-เบนซ์ทำได้ 590,999 คัน โต22.3% เป็นผลมาจากยอดขายในประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา รวมถึงความต้องการที่สูงขึ้นอย่างมากในกลุ่มรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV)

และรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนจากแบตเตอรี่ในยุโรปยอดขายรถยนต์ 1 ใน 4 ของแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และแบรนด์สมาร์ท เป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (xEV)

สำหรับในตลาดโลก รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า 100% มีสัดส่วน 10% ของยอดขายทั้งหมด หรือประมาณ 59,000 คัน ในจำนวนนี้ เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% จำนวน 16,000 คัน โดยรถยนต์รุ่น EQA  ที่เพิ่งเปิดตัวในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม และได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าด้วยยอดจองประมาณ 20,000 คัน

“นอกเหนือจากรถยนต์รุ่น EQS, EQB และEQE เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องในปีนี้โดยเปิดตัวรถในกลุ่มรถไฟฟ้าใหม่อีก 3 รุ่น รวมเป็น 6 รุ่น และล่าสุดเราได้นำเสนอรถยนต์ EQS ในฐานะรถยนต์รุ่นแฟลกชิพของเรา”

ทั้งนี้บริษัทจะขยายการเติบโตและสร้างความน่าสนใจให้กับกลุ่มรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าด้วยการนำเสนอรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่หลากหลายรวมแล้วราว 30 รุ่นจนถึงสิ้นปีนี้ด้วย