กระตุ้นแรงขับ “มาเซราติ” ด้วยศักยภาพ “เอ็มจีซี-เอเชีย”

เอ็มจีซี-เอเชีย กรุ๊ป คว้าแบรนด์ “มาเซราติ” จาก “เฟอร์มา มอเตอร์”มาสานต่อ ใช้เวลาไม่ถึงปี สร้างความแข็งแกร่งและการรับรู้แบรนด์จนคู่แข่งเแปลกใจ

วันนี้ มาเซราติส่งมอบรถให้ลูกค้าไปได้แล้วกว่า 20 คัน อะไรที่ทำให้โตแบบก้าวกระโดด ลองไปติดตามมุมมองของ “ปิยะเทพ ศิวากาศ” ผู้จัดการทั่วไปมาเซราติ ประเทศไทย ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จยนตรกรรมจากอิตาลีแบรนด์นี้

Q : การตอบรับหลังจากเข้ามาทำตลาด

หลังจากที่เราเปิดตัวว่า เอ็มจีซี-เอเชีย เป็นผู้ได้รับสิทธิการดูแลแบรนด์มาเซราติ อย่างเป็นทางการเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ถือว่าเราได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าในประเทศไทยค่อนข้างมาก จากตัวเลขที่เราจับจะเห็นว่ามีกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มเข้ามาถึง 80% ขณะที่กลุ่มลูกค้าเก่าของมาเซราติเดิมอีก 20% ถือว่าได้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการรับรู้แบรนด์ของลูกค้าและปริมาณลูกค้าที่จองรถและเยี่ยมชมโชว์รูมที่เพิ่มมากขึ้น

Q : กลยุทธ์ในการช่วงชิงลูกค้า

กลุ่มเอ็มจีซี-เอเชียของเรานั้นดำเนินธุรกิจค้าปลีกรถยนต์ที่มีความหลากหลาย เข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกระดับ ตั้งแต่ระดับท็อปสูงสุดในกลุ่ม อัลตราลักเซอรี่, พรีเมี่ยมลักเซอรี่ จนมาถึงรถยนต์ทั่วไป เรามีความหลากหลายและค่อนข้างได้เปรียบตรงนี้อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะรถยนต์ในกลุ่มของพรีเมี่ยมลักเซอรี่อย่างมาเซราติเองนั้นถือว่าได้เปรียบค่อนข้างมาก จากการที่มีฐานลูกค้าอยู่ในมือทั้งจากกลุ่มอัลตราลักเซอรี่ที่มองหารถยนต์ไว้ใช้งานทั่วไป และกลุ่มพรีเมี่ยมที่ต้องการขยับขึ้นมาสู่รถยนต์ในกลุ่มพรีเมี่ยมลักเซอรี่ ให้ความสนใจเข้ามาเป็นจำนวนมาก และกลุ่มเอ็มจีซี-เอเชียเราก็มีรถยนต์หลากหลายระดับ เพื่อรองรับและตอบสนองลูกค้าในกลุ่มนี้ ซึ่งมาเซราติจะใช้จุดแข็งจากฐานลูกค้าที่มีในมือ 50,000-60,000 รายให้ได้มากที่สุด

Q : มั่นใจกับการเติบโตของตลาดแค่ไหน

ตลาดรถยนต์พรีเมี่ยม และพรีเมี่ยมลักเซอรี่ มีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 800-1,5000 คันต่อปี อย่างในกลุ่มของเราเอง จะเห็นได้ชัดเจนว่า ลูกค้าระดับอัลตราลักเซอรี่ที่มีโรลส์-รอยซ์อยู่แล้ว ก็หันมาซื้อรถยนต์แอสตัน มาร์ติน และมาเซราติ เป็นรถยนต์ไว้ใช้งานทั่วไปเพิ่มเติม หรือกลุ่มที่ใช้รถยนต์ระดับพรีเมี่ยมก็ขยับขึ้นมาหารถในกลุ่มพรีเมี่ยมลักเซอรี่เพิ่มมากขึ้น การที่มาเซราติเข้ามาทำตลาดอย่างจริงจังอีกครั้งหนึ่ง ก็ถือเป็นการช่วยกระตุ้นตลาดระหว่างรถทั้ง 2 กลุ่มได้เป็นอย่างดี ปีหน้าเชื่อว่าตลาดกลุ่มนี้จะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากคู่แข่ง รวมทั้งเราเองก็จะมีสินค้าใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด

Q : เป้าหมายปีหน้าจะขยับเป็นเท่าไหร่

ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าช่วงที่ผ่านมา เราเข้ามาทำตลาดได้รับผลกระทบจากปัจจัยด้านการเปลี่ยนแปลงของภาษีสรรพสามิตโดยตรง รวมทั้งกรณีดีเอสไอจับรถนำเข้าสำแดงราคาต่ำ ทำให้ช่วงที่ผ่านมาตลาดชะลอตัวไปส่งผลกระทบกับทุกแบรนด์ไม่ใช่แค่มาเซราติเท่านั้น แต่วันนี้เมื่อทุกอย่างชัดเจน การดำเนินธุรกิจก็กลับมาเป็นปกติ เราเชื่อว่าปีนี้ยอดจองคงเป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทแม่กำหนด คือไม่น้อยกว่า 40 คัน หรืออาจจะมีเพิ่มขึ้น ขณะที่ปี 2561 เราตั้งเป้าจะมียอดจองเพิ่มขึ้น 100% ได้อย่างแน่นอน

Q : ต้องปรับตัวรับการตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง

ปัญหาหลักของเราวันนี้คือเรื่องระยะเวลาในการส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าที่สั่งจอง ซึ่งเราต้องใช้ระยะเวลาถึง 5 เดือนในการส่งมอบ ขณะนี้บริษัทได้ปรับแผนเพื่อเตรียมรองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น โดยได้เตรียมเพิ่มจำนวนรถยนต์ในสต๊อก โดยดูจากความต้องการของตลาดทั้งสีและรุ่นที่ได้รับความนิยมของลูกค้า และบริษัทได้เตรียมสต๊อกรถให้มากขึ้น

Q : มีแผนกระตุ้นตลาดด้วยรถมือสองหรือไม่

แน่นอน ราว ๆ กลางปีหน้าเราเตรียมขยายธุรกิจรถยนต์มือสองเข้ามารองรับ ภายใต้ชื่อ Certified Pre-Owned เนื่องจากเราเชื่อว่า การมีธุรกิจรองรับที่ครบวงจรทั้งส่วนของรถใหม่ และรถมือสองจะมีส่วนขับเคลื่อนให้ธุรกิจของเราเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง

Q : ปีนี้จะได้เห็นการลงทุนเพิ่มเติมมากน้อยแค่ไหน

ขณะนี้บริษัทได้ลงทุนก่อสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานเพื่อรองรับลูกค้ามาเซราติ ย่านใจกลางธุรกิจที่เอ-สแควร์ บริเวณซอยสุขุมวิท 26โดยใช้งบประมาณ 150 ล้านบาท โดยสามารถรองรับรถยนต์เข้ามาใช้บริการได้ 30 คันต่อเดือน จากจำนวน 5 ช่องซ่อมและยังสามารถขยายเพื่อรองรับรถได้สูงสุด 50 คันต่อเดือน ซึ่งภายในระยะเวลา 3-5 ปี โชว์รูมและศูนย์บริการดังกล่าวยังคงเพียงพอที่จะรองรับความต้องการของลูกค้า จากจำนวนประชากรของมาเซราติที่ยังมีการเคลื่อนไหวอยู่ 130 คันในประเทศไทย

Q : แผนสร้างความแข็งแกร่งแบรนด์

การสร้างความมั่นใจสูงสุดให้กับลูกค้าถือเป็นพันธกิจ ภารกิจที่เราต้องทำให้ดีที่สุด โดยเราได้พยายามตอกย้ำ 9 พันธกิจที่มาเซราติ ไทยแลนด์ ให้คำมั่นต่อลูกค้ามาเซราติ 1.สร้างความเชื่อมั่นด้วยระยะเวลารับประกัน 3 ปี และฟรี ค่าบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร

2.โชว์รูมตามมาตรฐานมาเซราติ เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และรสนิยมของลูกค้าอย่างแท้จริง 3.ศูนย์บริการตามมาตรฐานมาเซราติ ที่ทันสมัยอีกแห่งหนึ่งในภูมิภาค 4.อุปกรณ์ศูนย์บริการ และเครื่องมือพิเศษที่ทันสมัยสำหรับรองรับรถมาเซราติทุกรุ่น

5.ทีมงานบุคลากรมืออาชีพทั้งในส่วนฝ่ายขายและฝ่ายบริการหลังการขาย 6.อบรมบุคลากรด้านการขายและบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง 7.บริการด้วยอะไหล่แท้อย่างครบครันจากมาเซราติ ประเทศอิตาลี

8.บริการให้คำแนะนำและการบริการซ่อมที่เป็นไปตามมาตรฐานมาเซราติ และ 9.เสริมสร้างความมั่นใจและความพึงพอใจอย่างสูงสุดแก่ลูกค้ามาเซราติ