เอ็มจีรื้อแผน ผุดสถานี “ซูเปอร์ชาร์จ” 500 แห่ง แย้มปีนี้อาจไม่ถึงเป้าหลังมีรัฐ-เอกชนลงมาเล่นกันพรึบพรับ ปรับโฟกัสใหม่เน้นเฉพาะโชว์รูมเอ็มจี 170 สาขาทั่วประเทศก่อน ตามด้วยพื้นที่ กทม.-หัวเมืองใหญ่ ประกาศเดินหน้าลุยตลาดอีคอมเมิร์ซ ขยายโปรดักต์-บริการหลังขาย ต่อเนื่องคาดทั้งปีขายไม่น้อยกว่า 4 หมื่นคัน
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงแผนขยายสถานีชาร์จของเอ็มจี หรือ “ซูเปอร์ชาร์จ” ที่ประกาศไว้จะมี 500 แห่งในปีนี้ ว่าอาจไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้เพราะสถานการณ์ปัจจุบันเปลี่ยนไป โดยเฉพาะมีผู้เล่นเข้ามาในตลาดมากขึ้น ทั้งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, ปตท., การไฟฟ้าฝ่ายผลิต ฯลฯ เพิ่มมากขึ้น ทำให้บริษัทต้องปรับแผนการลงทุนและโฟกัสพื้นที่ขยายใหม่ โดยพุ่งเป้าไปที่โชว์รูมเอ็มจีซึ่งมี 170 แห่งทั่วประเทศก่อน
“เราคุยกับพันธมิตรไว้หลายเจ้า แต่ช่วงนี้มีแต่คนกระโดดเข้ามาเล่นตลาดนี้มากขึ้น เราคงต้องมองไปที่จุดเหมาะสมความคุ้มค่าคาดว่าในช่วงปลายเดือนนี้ หรือราวเดือนกรกฎาคมน่าจะมีความชัดเจนที่เป็นรูปธรรมออกมาอีกครั้งหนึ่ง”
ปัจจุบันเอ็มจีได้ขยายสถานีซูเปอร์ชาร์จไปแล้ว 100 แห่งที่โชว์รถยนต์เอ็มจีทั่วประเทศ ตามแผนเดิมนั้นปีนี้เอ็มจีจะขยายเพิ่มเป็น 500 สาขาทั่วประเทศ ดังนั้นถึงสิ้นปีน่าจะได้ 170 สาขา
นายพงษ์ศักดิ์ยังกล่าวถึงแผนบุกตลาดของเอ็มจีผ่านเครือข่ายการจัดจำหน่าย ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีอีคอมเมิร์ซมาใช้โดยได้เปิดบริการจำหน่ายรถยนต์เอ็มจีผ่านช่องทางออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ https://www.mgcars.com ไปเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับความสนใจและการตอบรับจากลูกค้าพอสมควร โดยมียอดจองผ่านช่องทางดังกล่าวถึง 40 คัน แม้ว่าจะเป็นตัวเลขที่ยังไม่น่าพอใจมากนัก แต่ก็ถือเป็นการเปิดโอกาสทางการขาย และการขยายช่องทางการขายได้เป็นอย่างดี
“จริง ๆ เราตั้งเป้ายอดขายผ่านเว็บไซต์นี้ไว้ 80 คัน แต่อาจจะด้วยสถานการณ์ภาพโดยรวมทั้งเศรษฐกิจและมู้ดการซื้อขายไม่ค่อยดี ความมั่นใจของผู้บริโภคลดลง อีกทั้งรถที่ขายผ่านช่องทางนี้มีเพียง 1 รุ่นเท่านั้น ซึ่งอาจจะยังไม่มีความหลากหลายมากพอ และเรายังพบว่ามีลูกค้าบางท่านที่จองผ่านออนไลน์ แต่ยังคงมาให้ตัวแทนการขายทำการจองให้ที่โชว์รูม วันนี้เทคโนโลยีเราพร้อม แต่อาจจะต้องรอลูกค้าปรับตัวอีกระยะ เอ็มจีเราอยากเป็นค่ายรถยนต์รายแรก ๆ ที่นำเสนอตรงนี้”
สำหรับรถยนต์ที่จำหน่ายผ่านออนไลน์นั้นมีเพียง 1 รุ่น คือ เอ็มจี เอชเอส รุ่นดีเท่านั้น ซึ่งจากสถิติยอดขายหลักของรถเอชเอสจะไปอยู่ที่รุ่นเอสเป็นหลัก อนาคตเอ็มจีเตรียมที่จะขยายเพิ่มบริการที่หลากหลายผ่านช่องทางออนไลน์กับการเปิดให้จองรถยนต์เอ็มจีรุ่นพิเศษ ลิมิเต็ดเอดิชั่น, รถยนต์รุ่นใหม่ในอนาคต รวมทั้งสินค้า และแอ็กเซสซอรี่ต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งเซอร์วิสแพ็กเกจมานำเสนอด้วย
สำหรับยอดขายของเอ็มจีปีนี้ ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 40,000-42,000 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 5% นั้น ขณะที่ยอดขายรถยนต์โดยรวมคาดว่าน่าจะอยู่ที่ 900,000 คัน ขณะนี้บริษัทยังยืนยันเป้าหมายเดิม หากสถานการณ์โดยรวมกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ในเร็ววัน ทั้งวิกฤตโควิด ปัญหาการขาดแคลนชิปและความมั่นใจของผู้บริโภค
โดย 5 เดือนแรก เอ็มจีมียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 13,899 คัน หรือเท่ากับ 3.8% ยังเป็นลำดับที่ 8 ในแบรนด์รถยนต์ทั้งหมด โดยยอดรวม 5 เดือน อยู่ที่ 365,448 คัน และเอ็มจีมียอดจดทะเบียนติดท็อป 5 ของพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา, ลพบุรี, ชลบุรี, สุพรรณบุรี, พะเยา, สุโขทัย และยะลา
