“ฮอนด้า” ยืนเป้าเดิมแสนคัน เคลียร์วิกฤตชิปส่งรถใหม่กวาดยอดครึ่งปีหลัง

“ฮอนด้า” ยันไม่ปรับเป้าขาย เชื่อทั้งปีทะลุแสนคัน เผยครึ่งปีหลังมีรถใหม่ทำตลาดต่อเนื่อง ปลื้ม “เดอะ ซิตี้ ซีรีส์” ช่วยดันยอดแม้ต้องเผชิญวิกฤตโควิดและปัญหาซัพพลายชิ้นส่วนขาด หยุดไลน์ผลิตไป 2 ช่วง

แหล่งข่าวจากบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ฮอนด้ายังไม่มีนโยบายปรับเป้าหมายการขาย แม้ช่วงครึ่งปีแรกจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด ปัญหาซัพพลายทั้งชิปและชิ้นส่วนบางรายการขาด โดยยังเชื่อมั่นว่าเป้าขายทั้งปีจะทำได้มากกว่า 100,000 คันตามที่ประกาศไว้ตั้งแต่ต้นปี

โดยในช่วงครึ่งปีหลังฮอนด้ามีแผนคลอดรถยนต์รุ่นใหม่เพื่อทำตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยจะได้การตอบรับที่ดีและหวังว่าจะเข้ามาช่วยกระตุ้นตลาดได้อีกแรง ล่าสุดบริษัทได้ส่งรถยนต์นั่ง ฮอนด้า ซิตี้ แฮตช์แบ็ก ไฮบริด น้องใหม่ล่าสุดในตระกูลเดอะ ซิตี้ ซีรีส์ ออกสู่ตลาด พร้อมตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 3,000 คันในปีนี้ ซึ่งใกล้เคียงกับซิตี้ ซีดาน ไฮบริดเช่นเดียวกัน

“6 เดือนแรกปีนี้ถือว่ากระแสการตอบรับของรถยนต์ในตระกูลเดอะ ซิตี้ ซีรีส์ค่อนข้างดี มียอดขายทั้งสิ้น 22,598 คัน แบ่งเป็นฮอนด้า ซิตี้ 10,275 คัน, ฮอนด้า ซิตี้ ไฮบริด 1,349 คัน และฮอนด้า แฮตช์แบ็ก 10,974 คัน ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ฮอนด้าในช่วง 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ที่ผ่านมามียอดขายไปแล้ว 42,715 คัน ฮอนด้ามีความมั่นใจกับกระแสความร้อนแรงของรถในตระกูลเดอะ ซิตี้ ซีรีส์ รวมทั้งรถรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวออกสุู่ตลาด”

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ฮอนด้าจัดเป็นค่ายรถยนต์ที่ประสบปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ (ชิป) ในการผลิตมาตั้งแต่ต้นปี ทำให้ในงานมอเตอร์โชว์ช่วงปลายเดือนมีนาคมต่อเนื่องเดือนเมษายนทำยอดจองในงานได้ไม่เต็มที่ และหลังจากนั้นยังประสบปัญหาคลองสุเอซ และตามมาด้วยวิกฤตโควิดระลอก 3 ส่งผลให้โรงงานผลิตรถยนต์นั่งในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.ปราจีนบุรี ต้องประกาศหยุดไลน์ผลิตรถยนต์นั่งเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 8-20 มกราคม 2564 และเมื่อวันที่ 4-31 พฤษภาคมที่ผ่านมาบริษัทฮอนด้าได้หยุดไลน์ผลิตรถยนต์ฮอนด้าที่โรงงานอยุธยาซึ่งผลิตรถยนต์ในกลุ่มเอสยูวี แต่ขณะนี้ทั้งสองโรงงานได้กลับมาผลิตเต็มรูปแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในประเทศ รวมทั้งตลาดส่งออก