อภิชาต ลี้อิสสระนุกูล อุ้มแรงงาน ‘ไทยสแตนเลย์’ ฝ่าวิกฤตโควิด

สัมภาษณ์พิเศษ

ในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ หากเอ่ยชื่อของ “กลุ่มสิทธิผล” แน่นอนว่าทุกคนต้องรู้ กับสินค้าภายใต้อาณาจักรของกลุ่มนี้ ทั้งในฐานะผู้ผลิต และผู้จัดจำหน่ายอะไหล่และชิ้นส่วนยานยนต์เบอร์ต้น ๆ ของประเทศไทย วันนี้ “ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ “อภิชาต ลี้อิสสระนุกูล” หนึ่งใน 4 พี่น้องของกลุ่มสิทธิผล ผู้ดูแลรับผิดชอบธุรกิจแสงสว่างอิเล็กทรอนิกส์และพลาสติก ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) และรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชี่ยนสแตนเลย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ฉายภาพยุทธวิธีฝ่าวิกฤตโควิด-19 และสเต็ปในการก้าวต่อของ ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า

ใช้สปีดรับมือโควิด

ไทยสแตนเลย์ฯของเรานั้น โรงงานของเราตั้งอยู่บนพื้นที่ “สีแดง” จังหวัดปทุมธานี ซึ่งต้องยอมรับว่าที่ผ่านมามีจำนวนของพนักงานที่ได้รับเชื้อโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง แต่เราเลือกใช้วิธีการบริหารจัดการภายในองค์กรอย่างเป็นระบบเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

อยากบอกว่า ศบค. หรือรัฐบาลกำหนดแฟกตอรี่แซนด์บอกซ์ ไทยสแตนเลย์ฯเลยจุดนี้มานานแล้ว พนักงานของเรากว่า 80% ได้รับการฉีดวัคซีนเรียบร้อย ภายใต้การบริหารจัดการภายในนั้น เราเลือกทำวิธีบับเบิลแอนด์ซีล ด้วยการแยกพนักงานออกเป็นกลุ่ม ไม่ให้ปะปนกันเลย เพราะหากเกิดอะไรขึ้นก็จะเกิดเฉพาะในกลุ่มที่เป็นปัญหา ทำให้เราสามารถแยกและบริหารจัดการได้ทันที

นอกจากนี้ ยังให้มีการสุ่มตรวจเชื้ออย่างต่อเนื่อง ทีมงานเอชอาร์เราทำงานเร็วมาก ซึ่งตรงนี้ทำให้เราได้เปรียบสามารถรันงานได้ต่อเนื่อง เราทำมาล่วงหน้าก่อนประกาศขอความร่วมมือจากรัฐบาลมาพักใหญ่

ปรับทุกอย่างให้เข้ากับโควิด

จริง ๆ แล้วการแพร่ระบาดของโควิดครั้งนี้มันเป็นความผิดพลาดแต่แรก ตั้งแต่เมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ปล่อยให้มีการเดินทาง แต่ส่วนหนึ่งก็ต้องเข้าใจ เพราะขณะนั้นสภาพเศรษฐกิจโดยรวมก็หนักมาก จนเกิดการแพร่ระบาดต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน แต่วันนี้หากดูจากจำนวนผู้ติดเชื้อต่อจำนวนผู้ที่ได้รับการรักษาหายถือเป็นแนวโน้มที่ดี

การผลักดันให้มีโรงพยาบาลสนาม ฮอสพิเทลมากขึ้น การบริหารจัดการของรัฐบาลทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น หากรัฐบาลสามารถควบคุมไปแบบนี้ และให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนได้มากขึ้น คาดว่าภายในเดือนตุลาคม สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย และตัวเลขเริ่มดีวันดีคืน จากนี้ไปจะให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อกลายเป็น “ศูนย์” คงยาก แต่ทำอย่างไรที่เราสามารถอยู่และใช้ชีวิตไปกับโควิดให้ได้

มั่นใจเป้าผลิต 1.6 ล้านคัน

สำหรับเรามีการปรับตัวตามสถานการณ์มาโดยตลอด มีการผลิตสินค้าล่วงหน้า แม้ว่าช่วงนี้ออร์เดอร์จากลูกค้าจะหายหมด แต่เชื่อว่าหลังจากนี้ยังมีเวลาอีกพอสมควรกว่าจะจบปีนี้ ซึ่งเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ทุกคนจะต้องกลับมาเร่งผลิตเพื่อต้องการรีคัฟเวอร์กับยอดที่หายไปในช่วงโควิดให้ได้อย่างแน่นอน และเราก็เตรียมพร้อมเพื่อรับมือตรงนี้ไว้แล้ว และเราไม่ได้ปรับเป้าหมายสำหรับปีนี้ลงแต่อย่างใด เรานับปีงบประมาณแบบญี่ปุ่นก็เพิ่งผ่านไตรมาสแรกมาหมาด ๆ

ล่าสุดผลดำเนินงานไตรมาสแรกปี 2565 มีกำไรสุทธิอยู่ 383 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เริ่มมีการฟื้นตัว และแม้ว่าช่วงที่ผ่านมา การผลิตรถยนต์และจักรยานยนต์จะสะดุดไปบ้างเนื่องจากโควิด และปัญหาเซมิคอนดักเตอร์ (ชิป) ขาดแคลน

แต่บริษัทก็ยังมั่นใจว่ายอดผลิตรถยนต์ที่กลุ่มยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมฯได้ประกาศปรับเพิ่มเป้าหมายยอดผลิตรถยนต์เป็น 1.55-1.6 ล้านคัน นั้นจะมีความเป็นไปได้

ส่วนบริษัทเองก็เชื่อมั่นว่าปีนี้จะมีการเติบโตต่อเนื่องเช่นกัน เราเชื่อว่าจะสามารถประคองสถานการณ์ไปได้ ที่สำคัญ เราจะต้องมีผลการดำเนินงานที่เติบโตได้อย่างแน่นอน

เชื่อในวิกฤตมีโอกาส

แน่นอนว่าวิกฤต คือ โอกาส ทุกอย่างที่เราทำวันนี้ก็เพื่ออนาคต สถานการณ์ของประเทศไทยทุกอย่างดีมาโดยตลอด ถ้าเราผ่านช่วงนี้กันไปได้เชื่อว่าจะดีแน่นอน

สิ่งหนึ่งต้องยอมรับว่าวิกฤตครั้งนี้ไม่มีใครเคยเจอมาก่อน ระลอกแรกเราผ่านมาได้ ระลอกนี้ก็เช่นกัน ผมอยากสะท้อนว่า เราจะไปโทษนายกรัฐมนตรีอย่างเดียวไม่ได้

เช่นเดียวกับประเภทของวัคซีนที่มีการพูดถึงกันอย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้เป็นเชื้อโรคสายพันธุ์ที่วัคซีนซิโนแวคสามารถควบคุมได้ แต่เมื่อโควิดกลายพันธุ์ เราก็ต้องพยายามปรับเปลี่ยนเพื่อรับมือกันให้ได้ ไทยสเเตนเลย์ฯยังอยู่ได้ท่ามกลางวิกฤต วันนี้ผมอยู่ได้ การที่เราทำแผนบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต (BCP) ทำให้เรายังคงดำเนินธุรกิจไปได้ และ key สำคัญของกลุ่มสิทธิผล รวมทั้งไทยสแตนเลย์ฯคือ เรากำเงินสดไว้ในมือให้ได้มากที่สุด ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการ

วันนี้เราดูแลพนักงานอย่างเต็มที่ อย่างที่ผ่านมามีการอนุมัติวงเงิน 100 ล้านบาท ในช่วงสถานการณ์โควิด เพื่อให้พนักงานกู้ไปใช้จ่ายช่วงโควิด อัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นสวัสดิการ เพราะเราเข้าใจว่าในวิกฤตแบบนี้ ทุกคนต้องประทังชีวิตและพาครอบครัวไปให้รอด


หลายคนอาจจะมองว่าเราทำธุรกิจแบบคนโง่ที่เก็บเงินสดไว้กับตัวเองนะ แต่วันนี้คนโง่ได้เปลี่ยนสถานะ เรายังมีความพร้อมในการลงทุนค่อนข้างมาก