“เกรท วอลล์” ขยายตลาดอเมริกาใต้ ซื้อโรงงานเดมเลอร์ เอจี

เกรท วอลล์ มอเตอร์ และเดมเลอร์ เอจี ร่วมลงนามในข้อตกลงซื้อขายโรงงานอิเรซมาโพลิสในประเทศบราซิลอย่างเป็นทางการ

โดยมีกำหนดส่งมอบโรงงานให้แล้วเสร็จภายในช่วงปลายปี พ.ศ. 2564 นับเป็นอีกหนึ่งการตอกย้ำความพร้อมในการขยายธุรกิจของเกรท วอลล์ มอเตอร์เข้าสู่ตลาดรถยนต์ในภูมิภาคอเมริกาใต้

นายเสียง จวิน เมิ่ง ประธานบริหารของเกรท วอลล์ มอเตอร์ กล่าวว่า อเมริกาใต้เป็นอีกภูมิภาคหนึ่งที่มีศักยภาพและความพร้อมด้านตลาดรถยนต์สูงไม่แพ้ภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก บราซิลนับเป็นอีกหนึ่งประเทศสำคัญในภูมิภาคนี้ที่มีความแข็งแกร่งทั้งทางด้านเศรษฐกิจ ลักษณะภูมิประเทศ และจำนวนประชากร และยังเป็น 1 ใน 7 ตลาดรถยนต์ใหญ่ที่สุดในโลก

ดังนั้นการเตรียมจัดตั้งโรงงานของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ในประเทศบราซิล จึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์และแผนการดำเนินธุรกิจที่บริษัทหมายมั่นและเชื่อว่าบราซิลจะเป็นอีกประเทศยุทธศาสตร์สำคัญในการขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคอเมริกาใต้ โดยทั้งสองบริษัทมีกำหนดส่งมอบโรงงานให้แล้วเสร็จภายในปลายปีนี้

โดยเกรท วอลล์ฯ มีแผนปรับปรุงและพัฒนาโรงงานอิเรซมาโพลิสในประเทศบราซิลให้เป็นอีกหนึ่งโรงงานอัจฉริยะของบริษัท ที่เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยี ระบบการควบคุม รวมไปถึงระบบจัดการข้อมูลอันล้ำสมัย ควบคู่กับนวัตกรรมการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โรงงานแห่งนี้จะมีกำลังการผลิตแบบเต็มรูปแบบอยู่ที่ 100,000 คันต่อปี และคาดว่าจะช่วยเพิ่มอัตราการจ้างงานมากกว่า 2,000 ตำแหน่งให้กับคนในท้องที่ นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังมีแผนที่จะส่งเสริมการพัฒนาและบูรณาการด้านต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ท้องถิ่น ให้มีความก้าวหน้าและสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศบราซิลด้วยเช่นกัน

เกรท วอลล์ฯ เริ่มส่งออกรถยนต์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 นำโดยรถยนต์เอสยูวีอย่างแบรนด์ HAVAL และรถยนต์จากแบรนด์ย่อยอื่น ๆ ของบริษัท ไม่ว่าจะเป็น ORA แบรนด์รถไฟฟ้า GWM PICK UP แบรนด์รถกระบะ WEY แบรนด์รถยนต์เอสยูวีพรีเมี่ยม รวมไปถึงแบรนด์ย่อยน้องใหม่ล่าสุดอย่าง TANK


ทั้งนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ดำเนินธุรกิจผ่าน 500 เครือข่ายในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก ทั้งรัสเซีย แอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย อเมริกากลาง อเมริกาใต้ เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั่วโลก แต่เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังคงมียอดขายรถยนต์จากทั่วโลกรวมสูงกว่า 700,000 คันในปีนี้