นิสสัน เทอร์ร่า ผิดหูผิดตา ไม่น่าใช่…ไมเนอร์เชนจ์

เทสต์คาร์
อมร พวงงาม

ใครที่เคยสัมผัส “เทอร์ร่า” รถปิกอัพดัดแปลงตัวแรกของ ค่ายนิสสัน

แล้วไม่ชื่นชอบ มีติโน่นตินี่ ถ้ามาเจอคันล่าสุดนี้ ลืมเรื่องเก่า ๆ ไปได้เลย เพราะการปรับโฉมครั้งนี้ ต้องบอกว่า ครบทุกรสจริง ๆ ตอนที่ทีมงานพรีเซนต์ว่าเป็น “ไมเนอร์เชนจ์” ก็ไม่รู้สึกอินอะไรมาก แต่หลังจากได้ลองสัมผัส ผิดหูผิดตาไปเลยครับ ไม่อยากเชื่อว่าแค่ไมเนอร์เชนจ์ ถ้าเป็นแถวบ้านผม ปรับใหญ่แบบนี้น่าจะเรียกโมเดลเชนจ์ไปเลยมากกว่า

เริ่มจากดีไซน์ภายนอก เปลี่ยนเยอะมากตั้งแต่ด้านหน้ายันด้านหลัง มีเพียงประตู 4 บานที่เป็นของเดิม ขนาดหลังคายังเปลี่ยน โดยใส่เสาอากาศแบบครีบฉลาม และราวหลังคาสีเงิน กระจังหน้าตัวนี้ดูมีความหรูหรามากกว่าเดิม ไฟหน้าเป็น Quad LED 4 ดวง แบ่งเป็นไฟต่ำด้านล่าง 2 ดวง และไฟสูงด้านบน 2 ดวง ดีดไฟสูงมาพร้อมกัน 4 ดวงสว่างจ้า ทำงานร่วมกับระบบปรับไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อม Daytime Running Light ดูหรูหราล้ำสมัย

ด้านหลังออกแบบใหม่หมด ตั้งแต่สปอยเลอร์บนหลังคา ทุกรุ่นเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน กันชนใหม่ทันสมัยขึ้นเยอะ ประตูหลังมีเซ็นเซอร์ใต้กันชนหลัง เปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า ห้องโดยสารเนี้ยบมาก แปลกตาไปเลยทีเดียว ต้ังแต่คอนโซลหน้า คอนโซลกลาง รวมไปถึงเบรกมือซึ่งเปลี่ยนมาเป็นไฟฟ้า มีที่ชาร์จมือถือแบบไร้สาย

แผงหน้าปัดดีไซน์ใหม่ รวมมาถึงพวงมาลัยเป็นแบบ D-shape สปอร์ตเต็มขั้นสำหรับปิกอัพดัดแปลง แรก ๆ อาจจะไม่ชิน ขับสักพักน่าจะชอบ มาตรวัดแบบใหม่ มาพร้อมจอแสดงผลขนาดใหญ่ 7 นิ้ว บอกสถานะการทำงานทุกอย่าง ระบบขับเคลื่อน ทิศทางเลี้ยวล้อหน้า เข็มทิศ ระบบความปลอดภัยต่าง ๆ แรงดันลมยาง อัตราสิ้นเปลือง และอื่น ๆ จิปาถะ

ระบบปรับอากาศด้านหน้าอัตโนมัติ แยกซ้ายขวาพร้อมช่องแอร์บนหลังคาครอบคลุมผู้โดยสารทั้ง 7 ที่นั่ง ดีไซน์เบาะนั่งใหม่ ให้มีลวดลายแบบ Diamond Cut แถวที่ 2 มีปุ่มพับเบาะแบบ 1-Touch อันนี้ชอบ ๆ สะดวกสบายมาก แต่ตอนกดปุ่มดูให้ดีนะครับว่าไม่มีสัมภาระอยู่บนเบาะ ไม่งั้นหกระเนระนาด ส่วนแถว 3 ยังมีที่ติเล็ก ๆ คงนั่งได้แค่เด็ก ๆ ผู้ใหญ่เมื่อยแน่นอน

สำหรับจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว เชื่อมต่อได้ครบทั้ง Apple CarPlay และแอนดรอยด์ ต่อแบบไร้สายได้ด้วยเครื่องเสียงเป็น Bose Premium Audio System ลำโพง 8 ตำแหน่ง บวกกับแอมพลิฟายเออร์ฝังไว้ใต้เบาะคนขับ

และเพื่อความเป็นอเนกประสงค์ ผู้โดยสารตอนหลังเทอร์ร่า ใหม่ มีจอมอนิเตอร์ขนาด 11 นิ้ว สามารถสตรีมมิ่งผ่านแอปพลิเคชั่น Netflix หรือ YouTube นิสสันเตรียม MI TV Stick ไว้ให้ เพียงแค่เสียบ HDMI และแชร์ Hotspot WiFi จากมือถือก็ใช้งานได้ทันที และไม่ลืมช่อง USB มีไว้รองรับทั้ง 3 แถว ครบจริง ๆ

เห็นคันใหญ่ ๆ แต่ไม่ต้องกังวล ขับขี่ง่ายมาก มีระบบช่วยรอบคัน เรียกว่า Intelligent Around View Monitor-IAVM ติดกล้องความละเอียดสูงไว้ที่กระจกบานหลัง มาพร้อมเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน Moving Object Detection (MOD) และระบบ Parking Sonar ช่วยให้จอดรถได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น

เทอร์ร่า ใหม่ ขุมพลังยังคงใช้เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ รหัส YS23DDTT ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที ผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 7 สปีด พร้อมโหมดแมนวล น้ำมันดีเซลเติมได้ทุกชนิดทั้ง B7, B10 และ B20 ใช้ตัวนี้ประหยัดค่าเซอร์วิส น้ำมันเครื่องเปลี่ยนถ่ายทุก 2 หมื่นกิโลเมตร

ส่วนเรื่องฟีลลิ่งการขับ ผมว่าปรู๊ดปร๊าดขึ้นกว่าเดิม ด้วยเทอร์โบ 2 ลูกที่ให้มา ตัวเก่ามีอืดเล็ก ๆ รวมไปถึงเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด แมตช์กันดีมาก

ระบบกันสะเทือนปรับปรุงใหม่ ด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง หลังแบบ 5 Link พร้อมคอยล์สปริง น่าจะมีการเซตค่ากันใหม่ นุ่มนวลขึ้น ล้อแม็กลายใหม่ 18 นิ้ว ยาง 255/60 R18 ลงตัวทีเดียว

ส่วนระบบขับเคลื่อน เลือกได้จะขับ 2 หรือขับ 4 ล้อ ขับ 4 ยังมีให้เลือกทั้ง 4H และ 4L พร้อมฟังก์ชั่น shift-on-the-fly เปลี่ยนได้ขณะขับขี่ จาก 2H เป็น 4H ความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม.

มาดูเรื่องความปลอดภัยถือว่าครบ อาทิ ระบบป้องกันการลื่นไถล ระบบเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนอัจฉริยะ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ และระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง

เทอร์ร่า ใหม่ มีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่น โดยในรุ่น E 2WD ราคา 1,199,000 บาท, รุ่น VL 2WD ราคา 1,449,000 บาท และรุ่น VL 4WD 7AT ราคา 1,499,000 บาท


เอาได้ทุกรุ่นครับ