มาสด้าดิ้นเพิ่มรายได้ดีลเลอร์ บุก “มือสอง” เร่งขยาย “อู่สี-ตัวถัง” ทั่วประเทศ

มาสด้าดิ้นเพิ่มรายได้ดีลเลอร์ บุกรถมือสอง-อู่ซ่อมสีตัวถัง เร่งปูพรมครอบคลุมทั่วประเทศ ยันไม่ปรับเป้าปีนี้ 5 หมื่นคัน

นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงแผนสร้างความเข้มแข็งให้กับแบรนด์มาสด้าในประเทศไทยได้ ว่าขณะนี้บริษัทได้เริ่มโครงการนำร่องธุรกิจรถยนต์ใช้แล้ว หรือรถมาสด้ามือสองในประเทศไทย ตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

ภายใต้ชื่อ MAZDA CERTIFIED PRE OWNED (MAZDA CPO) เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าและรองรับบริการลูกค้าได้อย่างกว้างขวาง เบื้องต้นโครงการดังกล่าวยังถือเป็นโครงการนำร่อง ภายใต้แนวคิด CPO PILOT ก่อนเพื่อศึกษาความพร้อมของดีลเลอร์และความต้องการของตลาดเพื่อนำมาขยายผลต่อไปในอนาคต

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” เพิ่มเติมว่า หากธุรกิจมือสอง “MAZDA CERTIFIED PRE OWNED” ได้รับการตอบรับที่ดี ก็จะขยายเพิ่มโดยจะต้องดูจากโชว์รูมและศูนย์บริการที่มีศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถัง มาเป็นตัวเลือกอันดับต้น

“นอกจากโชว์รูมรถใหม่แล้ว ดีลเลอร์ที่สนใจทำธุรกิจมือสอง เขาจะต้องมีศูนย์ซ่อมสีและตัวถังก่อน เราจึงจะมาพิจารณาให้ทำมือสอง เพราะมาสด้าต้องการให้บริการลูกค้าแบบครอบคลุมและครบวงจร”

สำหรับปีนี้บริษัทมีแผนจะขยายเพิ่มอู่ซ่อมสีและตัวถังเพิ่มเติมจากปัจจุบันมีอยู่ 48 แห่งทั่วประเทศ โดยจะขยายให้ครบทั้ง 130 แห่งทั่วประเทศ ส่วน MAZDA CERTIFIED PRE OWNED ปัจจุบันได้ทดลองเปิดให้บริการไปแล้ว 6 สาขา ได้แก่ ชลบุรี, ถ.ประดิษฐมนูธรรม, ถ.วัชระพล, ถ.กาญจนาภิเษก, ปทุมธานี (บางใหญ่)

สำหรับรถยนต์ Mazda CPO จะต้องผ่านการตรวจสอบรับรองมาตรฐานด้านคุณภาพของรถยนต์ใช้แล้ว MAZDA CERTIFIED PRE OWNED ตรวจสอบสภาพรถ 119 จุด และต้องเป็นรถที่มีอายุไม่เกิน 5 ปี หรือเลขไมล์ไม่เกิน 120,000 กม., มีประวัติดี ไม่ชนหนัก จมน้ำ หรือไฟไหม้, เข้าเช็กระยะอย่างต่อเนื่องที่ศูนย์บริการมาตรฐานและตรวจสอบได้, เลขไมล์บนหน้าปัดสัมพันธ์กับการบันทึกการเข้ารับบริการและรถไม่เคยถูกใช้เป็นยานพาหนะเชิงพาณิชย์

เมื่อถามถึงแผนการปรับเป้าหมายยอดขายรถยนต์มาสด้าในปีผู้บริหารทั้งสองต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า สถานการณ์ในปัจจุบันมาสด้ายังต้องติดตามและปรับแผนงานไปอย่างใกล้ชิด โดยวันนี้มาสด้ายังคงยืนยันเป้าหมายเดิมที่ประกาศไว้ก่อนคือ 50,000 คัน หรือมีส่วนแบ่งทางการที่ 6%

“มาสด้าเชื่อว่าเดือนตุลาคมตลาดน่าจะกลับมาดีกว่าเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมที่ผ่านมา เมื่อมีการปลดมาตรการล็อกดาวน์และฉีดวัคซีนจำนวนมากขึ้น” นายธีร์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตลอดช่วง 8 เดือนของปีนี้ยอดขายรถยนต์เกือบทุกยี่ห้อหดตัวลงเยอะมากจากวิกฤตโควิดซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อโดยตรง ประกอบกับช่วงที่ผ่านมามีเสียงเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากบรรดาดีลเลอร์ เนื่องจากรายได้ของดีลเลอร์นอกจากมาร์จิ้นการขายแล้ว ก็มีเพียงรายได้จากเซอร์วิส ดังนั้น การเพิ่มช่องทางขายธุรกิจรถมือสองและการขยายเซอร์วิสไปยังอู่ซ่อมสีตัวถังจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับดีลเลอร์อีกทางหนึ่ง