“ฉางอัน ออโตโมบิล” ท้ารบ “เอ็มจี-เกรท วอลล์” พร้อมบุกตลาดไทยเต็มสูบ

ค่ายรถจีน “ฉางอัน ออโตโมบิล” ประกาศพร้อมทำตลาดในประเทศไทยเต็มสูบ ท้ารบ “เอ็มจี-เกรท วอลล์” หลังซุ่มฟอร์มทีมพักใหญ่ คาดเปิดตัวเร็วนี้

วันที่ 10 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า “ฉางอัน” รถยนต์จากจีนอีกหนึ่งแบรนด์ได้ประกาศความเคลื่อนไหวในประเทศไทย โดยมอบหมายให้ทีมประชาสัมพันธ์จาก “Mirum Agency” เริ่มติดต่อประสานงานกับสื่อมวลชนเพื่อแสดงความพร้อมในการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจัง

พร้อมระบุชัดเจนว่า ฉางอัน ออโตโมบิล (Changan Automobile) กำลังทำการศึกษาตลาดประเทศไทยและต้องการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ ฉางอัน ออโตโมบิล แก่ผู้บริโภคชาวไทย

โดยฉางอัน ออโตโมบิล ถือเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ต้น ๆ ของประเทศจีน ประสบการณ์นานกว่า 37 ปี มีฐานการผลิตอยู่ในต่างประเทศกว่า 14 แห่ง และศูนย์ R&D ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะครอบคลุมไป 6 ประเทศใน 9 ภูมิภาค โดยก่อนหน้านี้ได้เข้ามาศึกษาความต้องการของตลาดในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเร็วนี้อย่างแน่นอน ถือเป็นการประกาศท้ารบยักษ์จากจีนที่เข้ามาทำตลาดบ้านเราอย่าง “เอ็มจี” และ “เกรท วอลล์ มอเตอร์”

ฉางอัน ออโตโมบิลก่อนหน้านี้ “ประชาชาติธุรกิจ” ได้รายงานความเคลื่อนไหวว่า ฉางอันได้เข้ามาเจรจารายละเอียด และการหารือร่วมกับนิคมอุตสาหกรรมย่านปราจีนบุรี รวมทั้งได้จัดเดินสายทาบทามบรรดานักธุรกิจ ผู้ประกอบการดีลเลอร์ชาวไทยเข้าร่วมฟังแผนธุรกิจ รวมทั้งประกาศรับสมัครพนักงานในประเทศไทยอย่างไม่เป็นทางการไปบ้างแล้ว แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิดมีผลทำให้แผนงานต่าง ๆ ล่าช้าออกไป

ล่าสุด ฉางอัน ออโตโมบิล เปิดตัวรถยนต์สองรุ่นอย่างเป็นทางการ ได้แก่ AVATAR E11 รถ SUV ขนาดกลางที่ใช้ระบบไฟฟ้าในการขับเคลื่อนทั้งหมด โดยเป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่างฉางอัน ออโตโมบิล หัวเว่ย และ CATL และ Changan C385 ซึ่งเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าเช่นเดียวกัน และถูกพัฒนาขึ้นจากแพลตฟอร์มเครื่องยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ที่งาน Changan Auto Tech Ecosystem Conference 2021

ทั้งนี้ ฉางอัน ออโตโมบิล มีแผนจะเพิ่มการลงทุนอีก 25 พันล้านเหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 825 พันล้านบาท) ในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่อุตสาหกรรมภายใน 5 ปีจากนี้ ภายใต้กลยุทธ์ “ยานยนต์ใหม่+ระบบนิเวศใหม่ (New Auto+New Ecosystem)” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างระบบนิเวศทางเทคโนโลยีและเร่งการพัฒนาซอฟต์แวร์ ตลอดจนเพิ่มขีดจำกัดระดับความสามารถของเทคโนโลยีอัจฉริยะในด้านต่าง ๆ ภายในปี 2568 และจะส่งผลให้สัดส่วนของนักพัฒนาซอฟต์แวร์อัจฉริยะจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 50% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด และภายในปี 2568 นี้ คาดว่ายอดขายของฉางอัน ออโตโมบิล จะไปแตะระดับ 3 ล้านคันต่อปี โดยมีสัดส่วนของ xEV อยู่ที่ 35% จากนั้นภายในปี 2573 จะขึ้นแท่นแบรนด์รถยนต์ชั้นนำด้วยยอดขายมากกว่า 4.5 ล้านคัน ด้วย xEV โดยจะรวมถึงสัดส่วนยอดขายจากตลาดต่างประเทศจะอยู่ที่ 60% และ 30% ตามลำดับ

ปัจจุบันฉางอัน ออโตโมบิล ได้ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ที่มีระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะมากกว่า 1.45 ล้านคัน ถือเป็นผู้ผลิตแถวหน้าในอุตสาหกรรมยานยนต์จีน โดยนับตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนกรกฎาคมปีนี้ ยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ของฉางอัน ออโตโมบิล โตถึง 495% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ฉางอัน ออโตโมบิล หนึ่งในสี่ผู้นำกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศจีน ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ มีประสบการณ์ในการผลิตรถยนต์มากกว่า 37 ปี มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองฉงชิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน

และปัจจุบัน ฉางอัน ออโตโมบิล มีฐานการผลิตกว่า 14 แห่งทั่วโลก รวมถึงเครือข่ายการขายและการบริการมากกว่า 8,700 สาขา ช่างเทคนิคด้านวิศวกรรมผู้ชำนาญการมากกว่า 10,000 คนใน 27 ประเทศ และบุคลากรมืออาชีพด้านบริการอีกกว่า 120,000 คนทั่วโลก และมีศูนย์อาร์แอนด์ดีครอบคลุม 6 ประเทศใน 9 ภูมิภาค ได้แก่ จีน, สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, เยอรมนี, ญี่ปุ่นและอิตาลี