ประเทศแถบยุโรปพาเหรดขีดเส้นตายเลิกขายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง โดยใช้มาตรการทางภาษีเพื่อจูงใจให้ค่ายรถยนต์ยุติการผลิตและจำหน่าย พร้อมทั้งหันมาส่งเสริมรถอีวี หรือรถยนต์ไฟฟ้า ที่ไม่ปล่อยมลพิษแทน
ประเทศเยอรมนี ประกาศภายในปี 2030 ขณะที่ “ฝรั่งเศส” และ “อังกฤษ” ตั้งเป้าราวปี 2040 ในขณะที่โซนเอเชีย “จีน” ซึ่งถือเป็นตลาดรถยนต์ใหญ่ที่สุดในโลก ตามมาด้วย “อินเดีย” คาดหวังว่าไม่เกินปี 2030 ทั้งสองประเทศนี้จะมีแต่รถยนต์ไฟฟ้า
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
การเปลี่ยนแปลงพลังงานของรถยนต์ ไม่ใช่แค่เอาไฟฟ้ามาใช้แทนน้ำมัน แต่ยังพัฒนาไปถึง “รถยนต์ไร้คนขับ” และที่ขาดไม่ได้คือ การพัฒนาการเทคโนโลยี “แบตเตอรี่” ให้ทั้ง “เบา” และ “อึด” สามารถใช้งานได้กิโลเมตรที่มากขึ้นและยาวนานขึ้น
หลังอินเดียประกาศทิศทางของอุตฯรถยนต์ในบ้านไม่นาน “ศรีลังกา” ก็เล็งให้หน่วยงานรัฐยกเลิกใช้รถยนต์เติมน้ำมันภายในปี 2025 เช่นกัน ที่สำคัญเร็วกว่าถึง 5 ปี
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศรีลังกายืนยันว่า เริ่มให้หน่วยงานรัฐหันหลังให้น้ำมันแล้วมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าแทนให้ได้ภายในปี 2025 และจะขยายไปยังรถทั่วไปของประชาชนภายในปี 2040
รัฐบาลศรีลังกาวางแผนที่จะยกเลิกการใช้รถยนต์สันดาปภายใน โดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะในอีก 8 ปีข้างหน้าส่วนรถของประชาชนจะยังสามารถใช้งานได้ถึงปี 2040 ก่อนที่จะให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงรถตุ๊กตุ๊ก และมอเตอร์ไซค์ ก็ต้องทำตามกฎเกณฑ์ครั้งนี้ด้วย โดยรัฐบาลจะยังกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์พลังงานสะอาดด้วยการประกาศมาตรการต่าง ๆ โดยเฉพาะมาตรการทางภาษี รวมถึงลดภาษีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนการคิดอัตราภาษีใหม่ที่คำนวณจากคาร์บอนจากรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงด้วย
นักวิเคราะห์หลายคนระบุตรงกันว่า ประเทศศรีลังกามีรถยนต์ประมาณ 6.8 ล้านคัน โอกาสจะทำให้ทุกอย่างเป็นจริงดูจะง่ายกว่าหลาย ๆ ประเทศ