อีตั้นกรุ๊ปขยายไลน์ขายรถจีน แยกลงทุนเสริมรถนำเข้าหลังอ่วมโควิด

“อีตั้น” แตกไลน์ธุรกิจหลังกระแสรถจีนมาแรง ปรับภาพผู้นำเข้าตั้งบริษัทใหม่เป็น “ดีลเลอร์” DFSK ชี้เห็นโอกาสเติบโต ส่วนธุรกิจรถนำเข้าชี้ปีนี้ลูกค้าซื้อรถได้ราคาพิเศษ หลังโควิดสะเทือนตลาดหนัก ลุ้นยอดทะลุ 500 คันในปีนี้

นางอัจฉรีย์ ตันติยันกุล ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท อีตั้น อิมปอร์ท คาร์ จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทว่า ขณะนี้อีตั้น กรุ๊ปได้ตัดสินใจแตกไลน์ธุรกิจจากผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ชั้นนำจากต่างประเทศ มาเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์สัญชาติจีน (ดีลเลอร์) แบรนด์ DFSK ภายใต้การดำเนินธุรกิจของบริษัท ศรีนครินทร์ ออโต้ จำกัด

หลังจากบริษัทมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ โดยเฉพาะการเติบโตและศักยภาพของแบรนด์รถยนต์จากจีน และรถเอสยูวี รถอีวีที่กำลังเข้ามาทำตลาดและเติบโตในประเทศไทย รวมทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ประกอบกับทิศทางและการดำเนินธุรกิจของบริษัท อีวี ฮาลิโคนิก จำกัด ภายใต้การบริหารงานโดยนายพิทยา ธนาดำรงศักดิ์ มีความชัดเจนในการเข้ามาทำตลาดครั้งนี้

“เป็นครั้งแรกของอีตั้นเหมือนกันที่เข้ามาเป็นดีลเลอร์จำหน่ายรถยนต์ ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่ท้าทายจากการที่เราได้คุยกับทางคุณพิทยา แน่นอนว่าเรามองเห็นทิศทางและโอกาส เนื่องจากรถยนต์แบรนด์จีนกำลังมาแรง อีกทั้งนโยบายการนำเข้า เพื่อจัดจำหน่าย การทำตลาดของอีวี ฮาลิโคนิกนั้นถือว่าน่าสนใจดีทีเดียว และรถ DFSK ก็ถือเป็นรถคนละกลุ่มกับที่อีตั้นทำตลาดอยู่ในขณะนี้อย่างชัดเจน”

สำหรับแผนรุกตลาดปีแรกบริษัทยังไม่ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้อย่างชัดเจน แต่ต้องการทำตลาดเพื่อแนะนำสินค้าให้กับลูกค้าได้รู้จักก่อน โดยขณะนี้มีการลงทุนโชว์รูมและศูนย์บริการก่อน

ซึ่งเบื้องต้นใช้พื้นที่เดียวกับโชว์รูมอีตั้น สำนักงานใหญ่ บนถนนศรีนครินทร์ ซึ่งมีการแยกพื้นที่โชว์รูม แบ่งโซนออกจากกันอย่างชัดเจน ส่วนอนาคตบริษัทมีแผนจะก่อสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการ DFSK อย่างเป็นทางการตามมาตรฐานของบริษัทแม่

ด้านตลาดรถยนต์นำเข้านั้น นางอัจฉรีย์กล่าวว่า แม้จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในไตรมาส 3 ที่ลูกค้ามีความกังวลอย่างเห็นได้ชัดเจน แต่บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจตามปกติ และเพิ่มมาตรการการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดอย่างเข้มข้น

โดยมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านทางออนไลน์และโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าช่วงที่ผ่านมาเป็นช่วงคืนกำไรให้กับลูกค้า เป็นช่วงที่ลูกค้าได้ดีลพิเศษหรือบิ๊กดีล เนื่องจากผู้ประกอบการต่างต้องประคองธุรกิจเพื่อให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้บนสถานการณ์ที่ยากลำบาก

“ตลาดของเรายอดขายอาจจะไม่ได้หายไปเยอะมากนัก เพราะในช่วง 2 ไตรมาสแรกเราสามารถประคองตัวมาได้พอไตรมาส 3 ที่ผ่านมาถือว่าค่อนข้างหนักแต่ทุกอย่างก็ยังต้องดำเนินต่อไป และช่วงนี้ลูกค้าที่ต้องการซื้อรถจะได้รับเบสต์ดีลที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน”


ส่วนเป้าโต 10% หรือ 564 คันนั้น นางอัจฉรีย์กล่าวว่า บริษัทยังคงยืนยันเป้าหมายเดิม และประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ บริษัทก็มีแผนที่จะนำเข้ารถยนต์รุ่นใหม่ ๆ มาจำหน่ายอย่างน้อยอีก 1-2 รุ่นในปีนี้