“ฟอร์ด” เรนเจอร์ใหม่ ผ่านบททดสอบสุดหฤโหด

ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ เข้มทดสอบความแกร่ง พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่เหนือชั้นให้ลูกค้ากว่า 180 ประเทศทั่วโลก

วันที่ 25 ตุลาคม 2564 นายจอห์น วิลเลมส์ หัวหน้าวิศวกรโปรแกรม ฟอร์ด เรนเจอร์ เปิดเผยว่า ในการทดสอบความแกร่งและความทนทานของฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ ทีมวิศวกรผู้พัฒนารถฟอร์ดทั่วโลกไม่เคยยั้งมือกับการตั้งโจทย์สุดโหดทุกรูปแบบ เพื่อให้มั่นใจว่านี่จะเป็นรถกระบะระดับโลกที่พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่ท้าทายในกว่า 180 ประเทศทั่วโลก

ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ ได้รับการออกแบบและพัฒนาเพื่อเป็นรถกระบะที่แกร่งที่สุด ชาญฉลาดที่สุด ตอบสนองการใช้งานของลูกค้าได้มากที่สุดเมื่อเทียบกับฟอร์ด เรนเจอร์ ทุกรุ่นที่เคยมีมา กระบะพันธุ์แกร่งคันนี้จึงต้องผ่านการทดสอบทั้งบนถนนจริงและในโปรแกรมเสมือนจริงมากกว่าทุกครั้ง เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ จะตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าในกว่า 180 ประเทศทั่วโลกได้อย่างเต็มที่

“เพราะคำว่าเกิดมาแกร่ง ของเราไม่ได้มากันง่าย ๆ เราจึงจริงจังกับทุกขั้นตอน และทุกองค์ประกอบของฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ ได้รับการทดสอบด้วยมาตรฐานเดียวกับที่เราใช้กับรถฟอร์ดทุกรุ่น” นายวิลเลมส์กล่าว

ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ จึงต้องเผชิญทุกสภาพแวดล้อมการขับขี่สุดทรหดที่อาจพบได้ในทุกมุมโลก นอกจากเพื่อให้มั่นใจว่ารถคันนี้พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งานของลูกค้าแล้ว กระบะคันนี้ยังต้องผ่านมาตรฐานระดับโลกที่เข้มข้นของฟอร์ด ทั้งในแง่คุณภาพ ความทนทาน และความไว้วางใจได้

“สิ่งสำคัญคือลูกค้าของเราต้องวางใจได้ว่า ฟอร์ด เรนเจอร์ จะเป็นรถคู่ใจที่พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่เหนือชั้นได้ตลอดการใช้งาน เราจึงต้องทดสอบรถด้วยรูปแบบสุดหฤโหดต่าง ๆ ที่เหนือไปกว่าการใช้งานจริง เพื่อให้มั่นใจว่ารถคันนี้พร้อมเผชิญกับทุกสถานการณ์อันท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นการบุกป่า ฝ่าโคลน รับมือกับสภาพอากาศร้อนชื้น การลากจูงของหนักผ่านยอดเขาสูง หรือความทนทานต่ออุณหภูมิสูงกว่า 50 องศาเซลเซียส ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ ผ่านมาหมดแล้ว” นายวิลเลมส์กล่าว

จนถึงตอนนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ ได้ผ่านการทดสอบขับฝ่าทะเลทรายไปแล้วกว่า 10,000 กิโลเมตร การขับแบบใช้งานในชีวิตประจำวันราว 1,250,000 กิโลเมตร และการขับขี่แบบออฟโรด พร้อมน้ำหนักในการบรรทุกสูงสุดอีก 625,000 กิโลเมตร และเรายังคงทดสอบรถอยู่จนถึงตอนนี้ ภายใต้ทุกสภาพเส้นทางที่แตกต่างกันทั่วโลก และก่อนที่รถจะออกมาวิ่งทดสอบบนถนนจริง ทีมวิศวกรของฟอร์ดใช้เวลาหลายพันชั่วโมงในการทดสอบรถต้นแบบในระบบจำลองสถานการณ์เสมือนจริง รวมถึงการทดสอบรถต้นแบบคันจริงในห้องแล็บอีกหลายพันชั่วโมง เพื่อตรวจสอบทุกองค์ประกอบตั้งแต่อากาศพลศาสตร์ ไปจนถึงความทนทานของชิ้นส่วนและโครงสร้างทั้งหมด

โปรแกรมจำลองสถานการณ์เสมือนจริงช่วยร่นระยะเวลาในการพัฒนารถรุ่นใหม่ ในขณะที่การทดสอบในห้องแล็บช่วยให้เราปรับแต่งและทดสอบแต่ละชิ้นส่วนได้อย่างเฉพาะเจาะจง แต่ก็ยังไม่มีอะไรทดแทนการทดสอบรถบนถนนจริงได้ ลูกค้าฟอร์ด เรนเจอร์ มีความคาดหวังว่ารถกระบะคู่ใจจะต้องพร้อมบุกตะลุยไปทุกที่ การทดสอบของเราจึงจำลองสถานการณ์ที่ครอบคลุมทุกสภาพแวดล้อมที่ลูกค้าพบเจอได้ในการใช้งานจริง โดยการทดสอบเหล่านี้เกิดขึ้นในพื้นที่ทำงานของฟอร์ดทั่วโลก เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ จะตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าในกว่า 180 ประเทศทั่วโลกได้อย่างเต็มที่

สำหรับการทดสอบบางอย่างที่ทรหดเกินกว่ามนุษย์จะทนได้ จึงมีการใช้โปรแกรมจำลองสถานการณ์เสมือนจริงและหุ่นยนต์เข้ามาเป็นตัวช่วย เช่น การทดสอบช่วงล่างของรถด้วยระบบสั่นสะเทือน ทำให้รถทั้งคันต้องเจอแรงกระแทกสุดทรหดต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงและนี่คือสิ่งที่สำคัญสูงสุดสำหรับเรนเจอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ เพราะเป็นรถที่พัฒนาขึ้นเพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้นให้กับลูกค้าทั่วโลก