“เบนซ์” ลั่นปี”61 ขอโตเพิ่ม 8% ปั้น “ปลั๊ก-อินไฮบริด” ยึดผู้นำรถหรูยั่งยืน

“เบนซ์” เรียกประชุมดีลเลอร์ทั่วประเทศ กำหนดทิศทางบุกตลาดปี 2561 เล็งทุบตลาดปลั๊ก-อิน ไฮบริดเต็มสูบ ลั่นปีหน้าโตเพิ่ม 8% ตั้งเป้าขาย 15,400 คัน

แหล่งข่าวจากบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บริษัทเพิ่งจัดประชุมดีลเลอร์ทั่วประเทศเพื่อกำหนดทิศทางและแผนรุกตลาดปี 2561 โดยยังคงให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ “เดอะ เบสท์” เพื่อสะท้อนความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอ “สิ่งที่ดีที่สุด” และเร่งยกระดับความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า

โดยในปี 2561 บริษัทจะมีการลงทุนเพิ่มเติมผ่านพันธมิตรทางธุรกิจ อาทิ บริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์ พร้อมทั้งนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เป็นผู้นำตลาดรถยนต์พรีเมี่ยมอย่างยั่งยืน โดยกำหนดเป้ายอดขายไว้ 15,400 คัน โตเพิ่มขึ้น 8% จากเป้ายอดขายปี 2560 ที่นายไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหารบริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งเป้าว่าจะทำยอดขายได้ 14,168 คัน

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า สำหรับแผนงานด้านโปรดักต์ปีนี้ กำหนดให้รถยนต์ในกลุ่มปลั๊ก-อิน ไฮบริดเป็นหัวหอกในการนำตลาดโดยล่าสุดบริษัทได้ยื่นเรื่องขอรับการสนับสนุน การลงทุนกับทางคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)ซึ่งจะมีการลงทุนทั้งระบบและชิ้นส่วนยานยนต์มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าน่าจะได้รับการอนุมัติในเร็ว ๆ นี้

“เบนซ์ต้องการตอบสนองความต้องการลูกค้ารถยนต์กลุ่มปลั๊ก-อิน ไฮบริด ซึ่งระยะหลังมีความต้องการเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นเป้าหมายของเราที่ขยายโรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์เพื่อผลักดันให้ รถยนต์กลุ่มปลั๊ก-อิน ไฮบริดมากกว่าครึ่งเป็นซีเคดี และทำยอดขายได้มากกว่า 1 ใน 3 ของยอดขายทั้งปี พร้อมทั้งมีการรองรับโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะจุดชาร์จไฟไว้อย่างครบถ้วน”

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นชัดเจนว่า แบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ นำเสนอโปรดักต์ได้ตรงกับความต้องการลูกค้า ทำให้ยอดขายทะลุขึ้นมาอยู่ในระดับท็อปไฟฟ์รถขายดีมีตัวเลขจองมากถึง 2,701 คัน

“ต้องยอมรับว่าวาไรตี้โปรดักต์ของเบนซ์ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าได้ ครบถ้วน นอกจากนี้โปรโมชั่นก็มีทั้งของบริษัทแม่เอง ดีลเลอร์หลายรายยังร่วมกันทำแคมเปญ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่น่าติดตามมาก”