มาสด้าจูงมือชิ้นส่วนลุยไฮบริด ลั่นปี”61 ขอโต 15% บูม “อู่สี” เสริมรายได้

“มาสด้า” ลั่นปีหน้าจูงมือซัพพลายเออร์ลงทุนอีกหลายพันล้าน เอาแน่ไฮบริดรับเทรนด์โลกเปลี่ยน ปลื้มเทคโนโลยีสกายแอคทีฟดันยอดขายฉลุย ปี 2561 ขอโตเพิ่ม 15% ฟันตัวเลข 58,000 คัน จี้ดีลเลอร์เร่งขยายบอดี้แอนด์เพนต์เสริมรายได้

นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงแผนการลงทุนในปี 2561 ว่า มาสด้าจะร่วมมือกับซัพพลายเออร์ลงทุนเกี่ยวกับชิ้นส่วนอะไหล่ที่ใช้กับรถยนต์ในกลุ่มไฮบริด อาทิ มอเตอร์ไฟฟ้า, เจเนอเรเตอร์ ฯลฯ เนื่องจากมาสด้าขานรับนโยบายรัฐบาลที่สนับสนุนรถยนต์ทั้ง 3 ประเภท ไฮบริด, ปลั๊ก-อิน ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า โดยจะประกาศแผนการลงทุนอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้ ซึ่งคาดว่าจะใช้เม็ดเงินลงทุนหลายพันล้านบาท

“เรากำลังดูท่าทีของรัฐบาลอยู่ว่า ในส่วนของกลุ่มรถยนต์ไฮบริด ซึ่งกำหนดระยะเวลาการยื่นขอรับการส่งเสริมภายในปี 2560 จะยืดเวลาให้หรือไม่ ถ้าไม่ยืดมาสด้าก็จำเป็นต้องทำให้ทันภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นให้การสนับสนุนการบุกตลาดไฮบริดอย่างเต็มที่ เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์ของโลกยานยนต์”

นายชาญชัยกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเทคโนโลยีสกายแอคทีฟของมาสด้าลูกค้าให้การตอบรับดีมาก ปี 2560 ถือเป็นปีที่ดีที่สุด ยอดขายสามารถทำได้เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนด ซึ่งเร็ว ๆ นี้

บริษัทจะเรียกประชุมดีลเลอร์เพื่อรับทราบถึงทิศทางการรุกตลาด โดยในปี 2561 มาสด้าคาดหวังว่าจะทำยอดขายได้โตเพิ่ม 15% หรือมียอดขายทั้งสิ้น 58,000 คัน ซึ่งกลยุทธ์การรุกตลาดจะพยายามผลักดันให้ดีลเลอร์แต่ละรายมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการขยายธุรกิจบอดี้แอนด์เพนต์ ซึ่งกำหนดว่าสิ้นปี 2561 น่าจะมีได้มากกว่า 20 แห่ง

“อุตสาหกรรมรถยนต์แข่งกันหนักมาก เราเชื่อว่าอนาคตมาร์จิ้นบางลงแน่ ๆ ดังนั้นจำเป็นต้องหารายได้เสริมให้กับเขา เราเชื่อว่าอู่สีนอกจากจะสร้างความเชื่อถือให้กับลูกค้ามาสด้าแล้ว ยังเพิ่มพูนรายได้จากการที่เรามีประกันภัยในเครือ และยังสามารถรับจ้างทั่ว ๆไปได้อีก”

ประธานบริหารมาสด้ากล่าวถึงความร่วมมือระหว่างพันธมิตรใหม่ค่ายอีซูซุว่า มาสด้าพร้อมจะย้ายไลน์ผลิตรถยนต์ปิกอัพ รุ่นบีที-50 จากโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ไปผลิตที่โรงงานอีซูซุ เกตเวย์ ฉะเชิงเทรา ซึ่งจะทำให้ปี 2563 มาสด้าจะมีปิกอัพ บีที-50 โมเดลใหม่ให้ลูกค้าได้ยลโฉม

ก่อนหน้านี้นายฮิโรชิ อิโนอุเอะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น กล่าวถึงความร่วมมือว่า มาสด้าจะดูแลรับผิดชอบด้านพัฒนาแพลตฟอร์มเครื่องยนต์และดูแลการดีไซน์ ขณะที่อีซูซุจะรับผิดชอบด้านการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ความร่วมมือดังกล่าวคล้ายกับกรณีความร่วมมือระหว่างมาสด้าเเละฟอร์ดอย่างที่เคยดำเนินการมาก่อนหน้านี้ โดยจะมีกำลังผลิตปีละ 40,000 คัน