ส่องพฤติกรรมคนใช้รถปี 2018

คอลัมน์ ออโต เวิลด์ไวด์

ค่ายฟอร์ด หยิบรายงาน “Looking Further with Ford” ประจำปี 2018 ซึ่งชี้ให้เห็นว่ากระแสการเปลี่ยนแปลงของสังคมทั่วโลกมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมและทัศนคติต่าง ๆ ของผู้ใช้รถยนต์

พร้อมระบุว่า 2 ใน 3 ของประชากรวัยผู้ใหญ่ทั่วโลกรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นรอบตัวอย่างเห็นได้ชัด

และ 3 ใน 4 ของกลุ่มคนเหล่านี้เชื่อว่า พวกเขาสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกได้ นอกจากนี้ เกือบครึ่งหนึ่งกล่าวว่า พวกเขาคาดหวังให้แบรนด์ต่าง ๆ ก้าวขึ้นมาแก้ไขปัญหาทางสังคม

คนใช้รถต่างหันมาให้ความสำคัญกับความยากลำบากที่เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นช่องว่างทางฐานะระหว่างคนรวยและคนจนที่เพิ่มมากขึ้น ตลอดจนถึงการมีสภาพจิตใจที่ดี

แม้ผู้บริโภคหลายคนอาจมีความเคลือบแคลงใจต่อเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI

แต่ก็มีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่มีความหวังกับอนาคตของรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ

“Looking Further with Ford” ประจำปี 2018 ไม่เพียงแค่วิเคราะห์ปัญหา แต่ยังมองหาแนวทางในการรับมือปัญหาเหล่านี้ด้วย

เชอริล คอนเนลลี ผู้จัดการฝ่ายเทรนด์และอนาคตผู้บริโภคระดับโลกของฟอร์ด กล่าวว่า”การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ของโลก การเมือง และความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม ได้เปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ของผู้คน”

ข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากรายงานประจำปีครั้งที่ 6 ของฟอร์ดระบุว่า 39% ของผู้ใหญ่กล่าวว่า พวกเขายินดีที่จะให้ข้อมูลส่วนตัวของพวกเขากับบริษัทต่าง ๆ

อย่างไรก็ดี อีก 60% กล่าวว่า พวกเขารู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจเมื่อพบว่าข้อมูลส่วนตัวจำนวนมากสามารถเข้าถึงได้โดยสาธารณะ76% ของผู้ใหญ่ทั่วโลกกล่าวว่า พวกเขาคิดว่าการที่บริษัทต่าง ๆ รู้ข้อมูลส่วนตัวมากเกินไปทำให้พวกเขารู้สึกแปลก52% ของผู้ใหญ่กล่าวว่า พวกเขาเชื่อว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จะส่งผลเสียมากกว่าผลดี

แต่ 61% กล่าวว่า พวกเขารู้สึกมีความหวังกับอนาคตของรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ

68% ของผู้ใหญ่กล่าวว่า พวกเขารู้สึกว่าความทุกข์ยากในโลกนี้มีมากเกินไปในปัจจุบัน และ 51% กล่าวว่า พวกเขารู้สึกผิดที่ไม่ได้ช่วยทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น

81% ของผู้ใหญ่กล่าวว่า พวกเขารู้สึกกังวลเกี่ยวกับช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจนที่เพิ่มมากขึ้น

73% ของผู้ใหญ่กล่าวว่า พวกเขาควรจะดูแลสภาพจิตใจของตนเองให้ดีกว่านี้

ในขณะที่ 54% ของผู้ใหญ่ทั่วโลกกล่าวว่า พวกเขารู้สึกเครียดมากกว่าปีที่ผ่านมา

และในบรรดากลุ่มคนอายุระหว่าง 18 ถึง 29 ปี อัตราความเครียดนั้นเพิ่มสูงขึ้นเป็น 65%

รายงานแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคฉบับนี้ทำหน้าที่เป็นเสมือนแผนที่จะช่วยให้เราเข้าใจกระแสหลักในสังคม

ที่คาดการณ์ว่าจะมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมผู้บริโภค และการดำเนินธุรกิจของแบรนด์ต่าง ๆ ในปี 2018 และปีต่อ ๆ ไป