“ฮอนด้า” เท 1,700 ล้านบาท ผุดสนามทดสอบรถยนต์ในประเทศไทย เพิ่มศักยภาพการวิจัยและพัฒนารถยนต์ฮอนด้าทุกรุ่นในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ยันตอบได้ทุกโจทย์ความต้องการลูกค้า รวมถึงระบบขับเคลื่อนไฮบริด
นายชินจิ อาโอยามะ ประธานเจ้าหน้าที่ส่วนปฏิบัติการภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) และประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกรถยนต์ฮอนด้าในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ดังนั้น บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นจึงให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพื่อยกระดับงานด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้ศูนย์อาร์แอนด์ดีแห่งที่ 3 ของโลกในประเทศไทย มีศักยภาพทัดเทียมกับศูนย์อาร์แอนด์ดีในญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา บริษัทจึงได้ลงทุนเพื่อสร้างสนามทดสอบรถยนต์ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับผลิตภัณฑ์ฮอนด้า และเสริมศักยภาพในการแข่งขัน พร้อมทั้งการพัฒนายานยนต์ที่มีดีไซน์ที่โดดเด่นเกินความคาดหวังของลูกค้าทั้งในประเทศไทย และในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย โดยเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
นายฮิเดโอะ โคมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี เอเชีย แปซิฟิก (HRAP) จำกัด กล่าวถึงความสำเร็จของศูนย์อาร์แอนด์ดี ในช่วงระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมาว่า ได้ผ่านการ
พัฒนารถยนต์มาหลายรุ่น ตั้งแต่ฮอนด้า บริโอ้, ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ, ฮอนด้า บริโอ้ แซทยา, ฮอนด้า โมบิลิโอ และฮอนด้า บีอาร์-วี นอกจากนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนรถยนต์และชิ้นส่วนต่าง ๆในประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซียเป้าหมายของศูนย์ HRAP ไม่ใช่เพียงแค่พัฒนารถยนต์เพื่อตอบสนองความต้องการในภูมิภาคนี้เท่านั้น ยังเพิ่มระดับการให้บริการพัฒนารถยนต์ในระดับโกลบอล แม้แต่รถยนต์ไฮบริดที่ใช้ระบบขับเคลื่อนทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันพัฒนามาจาก
ศูนย์อาร์แอนด์ดีในประเทศญี่ปุ่น อนาคตศูนย์ HRAP ก็จะมีศักยภาพในการพัฒนาได้ไม่แพ้กัน
สำหรับสนามทดสอบ ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี เอเชีย แปซิฟิค ปราจีนบุรี แห่งนี้ ใช้เงินลงทุน 1,700 ล้านบาท ประกอบด้วย สนามทดสอบที่จำลองสภาพถนนและลักษณะภูมิประเทศใน
รูปแบบต่าง ๆ 8 สนาม โดยความยาวรวมประมาณ 8 กิโลเมตร แบ่งเป็นสนามทดสอบรูปแบบต่าง ๆ 1.สนามทดสอบรูปวงรี ยาว 2.18 กิโลเมตร ใช้ทดสอบสมรรถนะของรถยนต์ในขณะขับด้วยความเร็วสูงและการควบคุมพวงมาลัย
2.สนามทดสอบทางโค้ง ยาว 1.38 กิโลเมตร ใช้ทดสอบสมรรถนะโดยทั่วไป รวมถึงการทดสอบประสิทธิภาพของระบบเบรก และการควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง สนามทดสอบทางโค้งนี้มีการจำลองถนนที่มีการขึ้น-ลง และถนนที่มีมุมอับสายตา รวมมีทางโค้งทั้งหมด 17 โค้ง
3.สนามทดสอบไดนามิกส์ เชื่อมต่อกับสนามทดสอบรูปวงรี
4.สนามทดสอบที่มีน้ำท่วมขัง ระดับความลึกของน้ำได้ตั้งแต่ 0-1,000 มิลลิเมตร เพื่อจำลองสถานการณ์น้ำท่วม
5.สนามทดสอบสภาพพื้นผิวถนนในรูปแบบต่าง ๆ มีถนนลักษณะต่าง ๆ ถึง 8 รูปแบบด้วยกัน
6.สนามทดสอบที่มีพื้นผิวพิเศษ ใช้ทดสอบความทนทานของช่วงล่างรถยนต์ โดยมีพื้นผิวถนนลักษณะต่าง ๆ อาทิ ถนนที่จำลองลูกระนาด และถนนคอนกรีตที่มีพื้นผิวขรุขระ
7.สนามทดสอบทางลาดชัน ใช้ทดสอบเครื่องยนต์และเบรก
8.สนามทดสอบทางตรง ยาว 1.2 กิโลเมตร ใช้ทดสอบอัตราการประหยัดน้ำมัน และอัตราเร่งความเร็วหลังจากออกตัว