อีโคคาร์ “ซูซูกิ” พุ่งไม่หยุด เข้มจับจังหวะลูกค้าแม่นยำ

วัลลภ ตรีฤกษ์งาม
สัมภาษณ์

ถือเป็นค่ายรถยนต์ที่มีแนวทางการทำตลาดในแบบฉบับของตัวเองอย่างชัดเจน

โดยเฉพาะการทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดทั้งการนำเสนอโปรดักต์ที่ลูกค้าสามารถจับต้องได้จริงและเข้าถึงได้ง่ายโดยเฉพาะกับความมุ่งมั่นในการนำเสนออีโคคาร์ ออกสู่ตลาดบ้านเราจนสามารถสร้างชื่อให้กับค่ายซูซูกิ ในฐานะของผู้นำระดับหัวแถวของอีโคคาร์

จากกลยุทธ์สร้างความแข็งแกร่ง ทำงานร่วมกับผู้แทนจำหน่ายและพันธมิตรทางธุรกิจรอบด้าน รวมทั้งนำเสนอสินค้าที่ตรงกับความต้องการใช้งานของลูกค้าได้อย่างตรงจุด

วันนี้ “ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสได้ร่วมพูดคุยกับ “วัลลภ ตรีฤกษ์งาม” รองประธานกรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่ออัพเดตสถานการณ์ รวมทั้งแผนขับเคลื่อนตลาดของซูซูกิในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ ไปติดตามกัน

อีโคคาร์ยอดยังพุ่ง

สำหรับภาพรวมของตลาดรถยนต์ในช่วงที่ผ่านมา ซูซูกิยังเชื่อว่าไม่ได้เลวร้ายอย่างที่หลาย ๆ คนกังวล เพียงแต่ปัจจัยที่อาจจะส่งผลกระทบหลัก ๆ น่าจะมาจากปัจจัยเรื่องของดอกเบี้ยที่มีการปรับขึ้น อาจจะส่งผลให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจไปบ้าง

ส่วนราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ก็ไม่ได้น่ากังวลมากนัก เพราะเชื่อว่าลูกค้าชาวไทยเองสามารถปรับตัวให้เข้ากับภาวะการเปลี่ยนแปลงตรงนี้ได้ ลูกค้าชาวไทยไม่ได้แพนิกกับราคาน้ำมันแต่อย่างใด

สิ่งที่น่ากังวลมากที่สุดคือเรื่องของอัตราหนี้สินครัวเรือนที่สูงในปัจจุบันความเข้มงวดของสถาบันการเงิน

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าตลาดรถยนต์ปีนี้น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ตัวเลขระดับ 850,000 คันได้เห็นอย่างแน่นอน ส่วนซูซูกิในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมามียอดขายทั้งสิ้น 11,267 คัน โต 5.84% ขณะที่ตลาดรวมโต 14.51% ถึงสิ้นปีนี้เชื่อว่ายังมีกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อรถยนต์ไว้เพื่อใช้งานและในกลุ่มอีโคคาร์ยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่อง

ซัพพลายตัวแปรใหญ่

ส่วนจะขึ้นไประดับ 880,000 คัน ได้หรือไม่นั้น ปัจจัยหลักต้องขึ้นอยู่กับ “ซัพพลาย” โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเรื่องของเซมิคอนดักเตอร์ของแต่ละค่ายเป็นสำคัญ ว่าจะมีการบริหารจัดการอย่างไร หลาย ๆ ค่ายพยายามเร่งผลิตและเริ่มส่งมอบรถยนต์ได้บ้างแล้ว วันนี้แม้ว่าหลายคนจะมองว่าตลาดรถยนต์ยังมีตัวเลือกอื่น ๆ ที่น่าสนใจนำเสนอออกมา แต่ตลาดอีโคคาร์นั้นถือว่าเป็นรถยนต์ที่ใช้ได้จริง สามารถจับต้องได้ง่าย

โดยผู้ใช้อีโคคาร์ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ซื้อไปเพื่อใช้งานจริง บวกกับสถานการณ์ของโควิดที่กลับมาระบาดอีกครั้ง ทำให้หลายคนยังไม่กล้าที่จะไปใช้ระบบขนส่งมวลชน อีโคคาร์ยังเป็นทางเลือกที่เข้าถึงได้ง่าย โดยสถานการณ์ของตลาดรถยนต์ในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ เชื่อว่าจะมีทิศทางที่ดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก แม้ว่ายังต้องเผชิญกับสถานการณ์เซมิคอนดักเตอร์อยู่ แต่ทุกคนจะปรับตัวและผ่านพ้นไปได้

แน่นอนว่าซูซูกิเองมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมว่า ยอดขายจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เพราะตลาดช่วงที่ผ่านมา ซูซูกิพยายามประคองตัว บวกกับการทำการบ้านเพื่อศึกษา ประเมินลูกค้าที่ต้องการใช้งานจริง โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มองรถยนต์เป็นฟังก์ชั่นคาร์ คนที่จำเป็นต้องใช้ก็ยังต้องใช้ กลุ่มคนจบใหม่ รวมทั้งกลุ่มคนใช้งาน อีโคคาร์ถือเป็นรถอีกคันเพื่อใช้งาน

เข้ม “สปอร์ตอีโคคาร์”

ส่วนแผนการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ของซูซูกิ ในช่วง 6 เดือนจากนี้ ซูซูกิยังไม่มีโปรดักต์ใหม่ แต่จะเห็นการปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มออปชั่นให้กับรถรุ่นปัจจุบัน เพิ่มความคุ้มค่าให้กับลูกค้า อย่างซูซูกิ สวิฟท์ จีแอล พลัส และซูซูกิ เอ็กซ์แอล 7 ที่มีการปรับเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกเข้ามามากขึ้น


สุดท้าย “วัลลภ” ยังเชื่อว่า “ลูกค้าใหม่ ๆ อย่างไรก็มีเกิดขึ้นใหม่เสมอ ที่สำคัญ ซูซูกิ เชื่อว่ารถยนต์แต่ละโปรดักต์มีแคแร็กเตอร์ไม่เหมือนกัน เพียงแค่ต้องจับจังหวะของลูกค้าให้ถูกเท่านั้น”