ค่ายเอเอเอสฯจัดงานเปิดตัวพร้อมอวดโฉม ปอร์เช่ คาเยนน์ อี-ไฮบริดอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันก่อน
หลังจากมีการแนะนำและเปิดรับจองไปเมื่อช่วงงานมหกรรมยานยนต์ หรือมอเตอร์เอ็กซ์โป เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ปรากฏว่ารถคันนี้ได้รับความสนใจ และกวาดยอดจองถล่มทลายไปจากลูกค้าชาวไทย
ทั้งที่ยังไม่ทราบ “ราคา” อย่างเป็นทางการ
“อริย์ธัช เฉลิมพงศ์” ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส บอกว่า จากวันนั้นจนถึงวันนี้ประเทศไทยกดยอดจองรถรุ่นนี้ไปกว่า 200 คัน และเชื่อว่าหลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันนี้ ลูกค้าชาวไทยจะให้การต้อนรับรถคันนี้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ปอร์เช่ คาเยนน์ อี-ไฮบริด รุ่นใหม่ (The new Porsche Cayenne E-Hybrid) ถือเป็นรถเอสยูวีระดับพรีเมี่ยม ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในขณะนี้
ด้วยขุมพลัง e-Performance เครื่องยนต์ V6 ขนาดความจุกระบอกสูบ 3.0 ลิตร (340 แรงม้า/250 กิโลวัตต์) เสริมพลังด้วยระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า (136 แรงม้า/100 กิโลวัตต์) ให้พละกำลังสูงสุดรวมกว่า 462 แรงม้า (340 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุดถึง 700 นิวตันเมตร ด้วยแนวคิดในการพัฒนาแบบเดียวกับปอร์เช่ 918 สไปเดอร์ (Porsche 918 Spyder)
พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกใหม่ล่าสุด ผสมผสานการบังคับควบคุมสไตล์สปอร์ตให้เป็นหนึ่งเดียวกับประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด
ระบบขับเคลื่อนไฮบริดและเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ Tiptronic S ล่าสุดระบบขับเคลื่อนและระบบส่งกำลังของคาเยนน์ อี-ไฮบริด
(Cayenne E-Hybrid) ใหม่ทั้งหมด ชุดขับเคลื่อนไฮบริดประกอบด้วย เซลล์พลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงพร้อมชุดคลัตช์อิสระ electromechanical ให้อัตราการตอบสนองที่รวดเร็วและฉับไวกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ระบบส่งกำลังประจำการด้วยเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ 8 จังหวะ tiptronic Sที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ เต็มเปี่ยมไปด้วยความนุ่มนวล แต่ยังสามารถปรับเปลี่ยนอัตราทดได้อย่างรวดเร็ว ลดอาการกระตุกที่เกิดขึ้นขณะเปลี่ยนจังหวะ
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel drive การทำงานของระบบ Porsche Traction Management (PTM) ส่งผลให้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel drive ของคาเยนน์ อี-ไฮบริด ได้รับการควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์ map-controlled multi-plate clutch เพื่อกระจายแรงบิดไปยังล้ออย่างเหมาะสม
ระบบควบคุมการทรงตัว Porsche Active Suspension Management (PASM) ได้รับการติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และสามารถเลือกสั่งติดตั้งอุปกรณ์พิเศษอีกหลากหลายรายการ
ปอร์เช่เคลมอัตราการบริโภคน้ำมันเฉลี่ย 29.4-31.2 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 78-72 กรัม
ต่อกิโลเมตร อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ 20.9-20.6 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อระยะทาง100 กิโลเมตร
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียง 5.0 วินาที ความเร็วสูงสุดถึง 253 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถทำความเร็วได้ถึง 135 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว
มาพร้อมชุดแต่งสปอร์ตโครโน (Sport Chrono Package) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ยังสามารถเลือกรูปแบบการขับขี่ได้ทั้งโหมด sport และ sport plus โดยดึงสมรรถนะตัวรถออกมาจนถึง
ขีดสุด พลังงานจากแบตเตอรี่ทั้งหมดจะได้รับการนำมาใช้เพื่อสร้างอัตราเร่งในโหมด sport การชาร์จแบตเตอรี่จะเกิดขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อการเสริมพละกำลังในส่วนของโหมด sport plus แบตเตอรี่จะได้รับการชาร์จอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ โหมดการขับขี่อื่น ๆ
นั้นเหมาะสมกับลักษณะการขับขี่ที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด
ชาร์จผ่านระบบ Porsche connect app และ Porsche charging service
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งในปอร์เช่ คาเยนน์ อี-ไฮบริด (Porsche Cayenne E-Hybrid)
ได้รับการพัฒนาและเพิ่มความจุในการเก็บสะสมพลังงาน เสริมขีดความสามารถทั้งในแง่ของพิสัยระยะการเดินทางและพละกำลังสำรองยามที่ต้องการ กระบวนการชาร์จพลังงานสามารถควบคุมและตรวจสอบสภาวะการทำงานผ่านระบบติดต่อสื่อสาร Porsche communication management (PCM)
พร้อมสั่งการระบบปรับอากาศจาก Porsche connect app ในขณะปิดสวิตช์กุญแจ เลือกเชื่อมต่อด้วย
โทรศัพท์มือถือได้ตามต้องการ ยังรองรับการค้นหาและคัดกรองสถานีชาร์จพลังงาน รวมทั้งบันทึกตำแหน่งที่ตั้งของสถานีลงในจุดหมายของระบบนำทางผ่านดาวเทียม ระบบเครือข่าย
การให้บริการ Porsche charging service
เป็นครั้งแรกของปอร์เช่สำหรับการติดตั้งหน้าจอแสดงผลแบบใหม่ head-up display ระบบดิจิทัลช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ Porsche InnoDrive
ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ adaptive cruise control เบาะนั่งคู่หน้าพร้อมระบบนวดไฟฟ้า massage seats
ระบบไล่ฝ้ากระจกบังลมหน้า heated windscreen ระบบทำความร้อนภายในห้องโดยสารแยกตำแหน่งอิสระควบคุมด้วยรีโมต และล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 22 นิ้ว
ปอร์เช่ คาเยนน์ อี-ไฮบริด รุ่นล่าสุด ราคาค่าตัวที่ 7.5 ล้านบาท