ค่ายมาเซราติ ประเทศไทย จัดงานเปิดตัวรถยนต์ลักเซอรี่เอสยูวี ลาแวนเต้ โทรเฟโอ ลอนช์ เอดิชั่น ในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อยแล้วเพื่อให้ลูกค้าในไทยได้สัมผัสกับหนึ่งในเอสยูวีพันธุ์หรูที่แรงและเร็วสุดในโลก ซึ่งมีเพียง 100 คันทั่วโลก และเพียง 1 คันในประเทศไทยเท่านั้น
มาเซราติเพิ่มความสปอร์ตให้กับลาแวนเต้ โทรเฟโอ ลอนช์ เอดิชั่น ด้วยเส้นสายอันโดดเด่น และตัวถังพ่นสีน้ำเงินด้าน “Blu Emozione Matte”
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
มาพร้อมชุดแต่ง Nerissimo Package ไฟหน้าฟูลเมทริกซ์แอลอีดี กระจังหน้าทรงตั้งสีดำเปียโนแบล็ก ช่องดักลมแบบตาข่ายด้านล่าง ช่องดักอากาศด้านข้างบริเวณส่วนล่างของกระจังหน้า ปรับแต่งใหม่ให้มีรูปลักษณ์ดุดันขึ้น มีลักษณะคล้ายปีก รีดอากาศให้กดลงบนล้อคู่หน้า เพิ่มเสถียรภาพช่วงความเร็วสูง
ฝากระโปรงหน้าคาร์บอนไฟเบอร์พร้อมช่องระบายอากาศ ฝาครอบเครื่องยนต์ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมสัญลักษณ์ V8 และโลโก้ตรีศูล ส่วนฝาสูบและท่อไอดีพ่นสีแดงให้ดูสปอร์ต
ส่วนด้านหลังดูบึกบึนและกว้างขึ้น ติดตั้งโลโก้สัญลักษณ์ “Saetta Trofeo” บริเวณเสาซี ตกแต่งด้วยเพลตคาร์บอนไฟเบอร์และสปอยเลอร์กันชนหลังสีเดียวกับตัวถัง ล้อมรอบปลายท่อไอเสียแบบคู่ ยิงออก 2 ฝั่ง
ภายในห้องโดยสาร มาในสไตล์อิตาเลียนสุดหรูหราและเป็นสปอร์ต ตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ผิวด้าน ติดตั้งป้ายโลหะ “1 of 100” บริเวณคอนโซลกลาง เพิ่มกราฟิก “Trofeo” บนจอแสดงผลอเนกประสงค์
เบาะทรงสปอร์ตหุ้มหนังแท้ “Pieno Fiore” มีให้เลือกทั้งสีดำ, แดง หรือน้ำตาลอ่อน เย็บตะเข็บด้วยเส้นด้ายสีตัดกัน พร้อมปักโลโก้ “Trofeo” บริเวณหมอนรอง ติดตั้งชุดเครื่องเสียงพรีเมี่ยมเซอร์ราวนด์ Bowers & Wilkins 17 ลำโพง 1,280 วัตต์
ลาแวนเต้ โทรเฟโอ ลอนช์ เอดิชั่น คันนี้มากับขุมพลังที่เครื่องยนต์เบนซิน วี8 สูบ 3.8 ลิตร เทอร์โบคู่ ปรับแต่งอุปกรณ์ภายในฝาสูบและเสื้อสูบ พร้อมจูนกล่องอีซียูใหม่ ด้วยกำลังสูงถึง 590 แรงม้าที่ 6,250 รอบ/นาที แรงบิด 730 นิวตันเมตรที่ 2,250-5,000 รอบ/นาที
ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ Q4 อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.9 วินาที ท็อปสปีด 304 กม./ชม.
มีโหมดการขับ “Corsa” พร้อมระบบ launch control จะเพิ่มการตอบสนองของคันเร่ง, เกียร์, ลดความสูง ช่วงล่าง และปรับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Q4 ให้เหมาะกับการทำความเร็วสูงสุด เมื่อผสานกับอัตราส่วนการกระจายน้ำหนัก ที่สมดุล 50 : 50 และจุดศูนย์ถ่วงต่ำ
ซึ่งถูกติดตั้งเพิ่มเติมจาก 4 โหมดการขับเดิม คือ Normal, I.C.E., Sport และ Off-Road ช่วงล่างหน้าดับเบิลวิชโบน หลังมัลติลิงก์ ใช้ชุดเบรก จับคู่กับล้อแม็กฟอร์จ “Orione” พ่นสีด้าน ขอบ 22 นิ้ว ยางคอนติเนนทอล Sport Contact 6
ราคาค่าตัวของรถคันนี้อยู่ที่ 20.49 ล้านบาท และเพิ่มแพ็กเกจ PMP (Premium Maintenance Program) 500,000 บาทรวมเป็น 20.99 ล้านบาท