เวทีรถใหม่
ตามแผนเบนท์ลีย์ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ภายใน ปี 2030 แต่ก่อนถึงรถยนต์ไฟฟ้าแบบเต็มตัวก็มีการคลอดไฮบริดออกมาเป็นระลอก เริ่มจาก Bentayga Hybrid และต่อยอด Flying Spur Hybrid ที่สำคัญ มีพละกำลังแรงกว่า มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.9 ลิตร V6 ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังรวม 536 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 4.3 วินาที ซึ่งเร็วกว่า Bentayga Hybrid ครึ่งวินาที ส่วนความเร็วสูงสุดทำได้ที่ 285 กม./ชม.
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
มอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้เป็นแบบ Magnet Synchronous ถูกติดตั้งบริเวณระหว่างชุดเกียร์กับเครื่องยนต์ รับกำลังไฟฟ้าจากชุดแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน โดยลำพังตัวมอเตอร์จะมีกำลังอยู่ที่ 134 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร
ส่วนตัวแบตเตอรี่สามารถชาร์จเต็มได้ภายใน 2 ชั่วโมงครึ่ง โหมดการขับมีให้เลือกใช้ 3 โหมด ได้แก่ EV Drive/Hybrid/Hold โดยจะใช้โหมด EV Drive เป็นโหมดการขับขี่เริ่มต้นในกรณีที่มีกำลังไฟฟ้าเพียงพอในแบตเตอรี่
ส่วนโหมดไฮบริด เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า
ส่วนโหมด Hold คือการใช้เครื่องยนต์อย่างเดียว เพื่อทำการเก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ใช้
ภายนอกและภายในห้องโดยสาร ถ้าเทียบกับ Flying Spur รุ่นเครื่องยนต์ V8 ก่อนหน้านี้ ถือว่าต่างกันไม่มาก สีตัวถังของ Flying Spur ไฮบริด มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี แต่หากต้องการความแตกต่างก็มีสีพิเศษให้เลือกเพิ่มอีกถึง 60 เฉดสี รวมถึงชุดแต่งออปชั่นที่มีให้ทั้ง Mulliber และ Blackline ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่า คุณพร้อมจะจ่ายเพิ่มมากน้อยขนาดไหน ล้อสแตนดาร์ดเป็นขนาด 20 นิ้ว แต่สามารถสั่งออปชั่นที่เป็นล้อขนาด 21 นิ้ว หรือ 22 นิ้วได้เช่นกัน ภายในห้องโดยสารแทบไม่มีอะไรแตกต่าง จะมีก็เพียงหน้าจอแสดงผลที่มีฟังก์ชั่นระบบไฮบริดเพิ่มเข้ามา สั่งงานผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว
จองวันนี้ส่งมอบเร็วสุดปลายปี ส่วนราคายังไม่เปิดเผย
