เวทีรถใหม่
เผยโฉมออกมาแล้วสำหรับกระทิงดุตัวใหม่จากลัมโบร์กินี เอสเซนซ่า เอสซีวี12 (Essenza SCV12) ถือเป็นรถไฮเปอร์คาร์รุ่นพิเศษแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นสำหรับวิ่งในสนามแข่งโดยเฉพาะที่ได้รับการพัฒนาจากแผนกมอเตอร์สปอร์ต Lamborghini Squadra Corse และออกแบบโดย Lamborghini Centro Stile
ซึ่งรถคันนี้ได้รับการสืบทอด DNA จากรถในตำนานอย่าง Miura Jota และ Diablo GTR ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่งโปรโตไทป์
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
และการออกแบบทางด้านเทคนิคใหม่เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่แบบสูงสุด
ซึ่ง “ฟรานเชสโก้ สกาดาโอนิ” บอกว่า รถคันนี้ คือความตั้งใจของลัมโบร์กินีที่จะสร้างประสบการณ์การขับขี่สูงสุดให้กับผู้ขับขี่
โดยลัมโบร์กินีมีความภาคภูมิใจที่จะได้ส่งต่อความตั้งใจนี้ให้กับผู้ที่หลงใหลในมอเตอร์สปอร์ต
และด้วยความพิเศษ ลัมโบร์กินีผลิตรถคันนี้ให้เป็นรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นด้วยจำนวนจำกัดแค่ 40 คันทั่วโลก ตอกย้ำเอกลักษณ์ความแรงของสมรรถนะซูเปอร์สปอร์ตคาร์ลัมโบร์กินีได้อย่างแท้จริง
เอสเซนซ่า เอสซีวี12 ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในสนามแข่งโดยเฉพาะด้วยเครื่องยนต์ V12 ให้แรงม้าได้สูงสุดที่ 830 แรงม้า ทำงานคู่กับระบบเกียร์ส่งกำลังแบบใหม่ X-trac Sequential 6 สปีด
ซึ่งถูกติดตั้งให้เป็นส่วนหนึ่งของตัวแชสซีรถใกล้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ซึ่งช่วยให้ประหยัดพื้นที่
ระบบท่อไอเสียได้รับการออกแบบพิเศษโดย Capristo เพื่อเพิ่มสมรรถนะให้กับตัวรถ และยังช่วยให้เสียงเครื่องยนต์เป็นเอกลักษณ์อีกด้วย
รถคันนี้มีแรงม้าต่อน้ำหนักอยู่ที่เพียง 1.66 แรงม้าต่อกิโลกรัม ด้วยการใช้วัสดุน้ำหนักเบาอย่างคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งถูกออกแบบมาในรูปแบบของโมโนค็อกที่มอบความปลอดภัยสูงสุด ส่งผลให้รถคันนี้เป็นรถ GT รุ่นแรกที่สร้างขึ้นมาภายใต้กฎเกณฑ์ของ FIA prototype
ลัมโบร์กินียังติดตั้งระบบกันสะเทือนแบบ Push-rod อยู่เหนือชุดเกียร์ของรถ
เพื่อเพิ่มความคล่องแคล่วในการบังคับเลี้ยว ใช้ยางแบบสลิกบนล้อแมกนีเซียม ขอบ 19 นิ้วในด้านหน้า และขอบ 20 นิ้วในด้านหลัง ส่วนระบบเบรกนั้นมีการร่วมพัฒนากับ Brembo Motorsport
รถคันนี้มีแรงกด 1,200 กิโลกรัม ที่ความเร็ว 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ฝากระโปรงด้านหน้ามีช่องดักอากาศแบบ 2 ช่อง
โดยจะแบ่งลมร้อนและเย็นเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของเครื่องยนต์
ลิ้นด้านหน้าตัวรถช่วยในเรื่องของการลำเลียงอากาศหรือลมเย็นไปยังห้องเครื่องและระบบเกียร์
ตัวรถยังได้รับการออกแบบให้สปอยเลอร์ด้านท้ายสามารถปรับได้ 2 ระดับ
ดีไซน์ตัวรถนั้นมีโครงสร้างหลักเพียง 3 ชิ้น ช่วยให้ง่ายต่อการเปลี่ยนในขณะแข่งขัน
นำรูปทรง 6 เหลี่ยมเข้ามาอยู่ในการดีไซน์ไฟหน้า ช่องรับลม และช่องแอร์
รวมถึงการนำสัญลักษณ์รูปตัว “Y” มาใช้ทั้งบริเวณภายนอกและภายในของรถ
รูปทรงของพวงมาลัยนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากรถแข่ง Formula 1
เพื่อการใช้งานที่ง่ายและให้การควบคุมที่ดีเยี่ยม
ในส่วนของเบาะนั้นได้ร่วมพัฒนากับ OMP ซึ่งใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เพื่อความปลอดภัยและได้รับการรองรับจาก FIA
สำหรับผู้ที่ครอบครองรถเอสเซนซ่า เอสซีวี12
จะได้รับเอกสิทธิ์พิเศษในการเข้าร่วมโปรแกรมการขับขี่รถจากทางทีม Lamborghini Squadra Corse Drivers Lab
ที่จะนำเสนอโปรแกรมการขับขี่รถไฮเปอร์คาร์ Essenza SCV12 ในสนามแข่งขันที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
โดยรถแต่ละคันนั้นจะได้รับการดูแลพิเศษและมีโรงจอดรถส่วนตัวโดยเฉพาะ
ซึ่งเจ้าของรถสามารถดูตัวรถผ่าน application ได้ 24 ชั่วโมง
ส่วนลูกค้าในบ้านเราสนใจความหรูหราโฉบเฉี่ยวของซูเปอร์สปอร์ตคาร์รุ่นใหม่ ได้ที่ “ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ” โชว์รูมและศูนย์บริการครบวงจรขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย-แปซิฟิก