มิตซูบิชิ เอ็กซ์ แพนเดอร์ ส่วนผสมบนความลงตัว

คอลัมน์ เทสต์ คาร์ โดย วุฒิณี ทับทอง

หลังจากเลื่อนแผนเปิดตัวในตลาดบ้านเรา 2 ระลอกใหญ่ ๆ จากเหตุผลซัพพลายจากอินโดนีเซียไม่เพียงพอชนิดที่เรียกว่า “ออร์เดอร์ทะลัก” เพราะแค่เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน ถึงวันนี้ฟาดยอดจองไปแล้วกว่า “ครึ่งแสน”

ลูกค้าคนไทยซึ่งไม่ใช่ตลาดหลัก ก็เลยต้องรอไปก่อน จนกระทั่งสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย โอกาสจึงมาถึง17 สิงหาคมนี้ คือวันดีเดย์สำหรับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยทีนี้มาดูว่าอะไรที่ทำให้ยอดขาย

“เอ็กซ์แพนเดอร์” ขายดิบขายดีในอินโดนีเซียและอะไรที่ทำให้มิตซูบิชิ ประเทศไทย กล้าวางตำแหน่งให้รถอเนกประสงค์คันนี้ พร้อมท้าชนกับรถยนต์หลากหลายเซ็กเมนต์ ทั้ง ๆ ในถิ่นบ้านเกิดนั้น วางตำแหน่งรถคันนี้ให้อยู่ในเซ็กเมนต์ “เอ็มพีวี”และอะไรคือความมั่นใจของทีมงานมิตซูบิชิ ประเทศไทย กับการให้นิยามใหม่ของรถคันนี้เป็นครอสโอเวอร์

“ประชาชาติธุรกิจ” ตกปากรับคำร่วมทริปทดสอบ ในเส้นทางเชียงราย-แพร่-พิษณุโลก-สุโขทัยเส้นทางแรก เพื่อค้นหาคำตอบสำหรับทริปทดสอบนี้จะตระเวนไปกว่า 2,000 กิโลเมตรทั่วประเทศ โดยจะไปสิ้นสุดที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ส่วนมิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ที่นำมาขายในบ้านเรามีให้เลือก 2 รุ่น คือ รุ่นเริ่มต้น GLS-LTDและรุ่นท็อป GT มี 4 สีให้เลือก ดำ, เทา, เงิน และขาวมุกรุ่นที่เราทดสอบครั้งนี้เป็นรุ่นท็อป แรกสัมผัส ที่ได้เห็นตัวเป็น ๆ ของมิตซูบิชิ “เอ็กซ์แพนเดอร์” คันนี้แล้ว ต้องบอกว่า เซอร์ไพรส์…

โดยเฉพาะรูปลักษณ์ การออกแบบ ที่ทีมออกแบบมิตซูบิชิได้รังสรรค์มาโดยเฉพาะ เส้นสายรอบคันคมชัดและโฉบเฉี่ยว สะดุดตาด้วยไฟหน้าแบบคริสตัล แอลอีดี ไฟท้ายแบบ LED-illumination tube พร้อมไฟเบรกแบบแยกส่วน สปอยเลอร์หลังมาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 กันชนหน้า มาพร้อมกับไฟตัดหมอก ขณะที่กันชนหลังมีแผ่นสะท้อนแสงติดตั้งมาด้วย

เสริมความเท่ด้วยล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว คนมิตซูบิชิย้ำนักย้ำหนาว่ารถคันนี้คือ ครอสโอเวอร์ แต่ได้รับการพัฒนามาจากรถอเนกประสงค์

จุดเด่นอยู่ที่ความสูงของตัวรถจากพื้นที่ให้มามากกว่ารถรุ่นเดียวกัน คือ 205 มม. และนี่เอง คือจุดที่มิตซูบิชิมองว่า รถคันนี้ คือ รถอเนกประสงค์ที่พร้อมในการเดินทางบนเส้นทางที่หลากหลาย

เมื่อกระโดดเข้ามานั่งในตำแหน่งผู้โดยสารเบาะนั่งแถวที่ 2 เซอร์ไพรส์แรก คือ ความกว้างขวางใหญ่โต เซอร์ไพรส์ที่สอง คือ งานนี้ได้รับเกียรติจาก “เอกอธิ รัตนอารี” กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายในประเทศ และบริการหลังการขาย มิตซูบิชิร่วมโดยสารไปด้วยกัน

ต้องบอกว่า ที่นั่งตอนที่สองนี่ ยืดแข้งเหยียดขาได้สบายมาก ๆ ทีมวิศวกรของมิตซูบิชิ พยายามยืด ขยายตัวถังให้ยาวขึ้นเพื่อเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสาร ทำให้นึกถึงเอ็มพีวีรุ่นพี่อย่าง “สเปซ วากอน” ที่มิตซูบิชินำเข้ามาทำตลาดในบ้านเราเมื่อหลายปีก่อน

เอ็กซ์แพนเดอร์ มีความโอ่อ่าเหลือเฟือ ด้วยการตกแต่งในห้องโดยสารด้วยโทนสีดำ เพิ่มความรู้สึกที่กว้างกว่า แต่แฝงความหรูหรา ด้วยวัสดุอุปกรณ์

ภายในที่ดูไม่ขี้เหร่เหมือนรถอินโดนีเซียทั่วไป นอกจากนี้ภายในห้องโดยสารยังสามารถปรับพับเบาะนั่ง 2 แถวหลังให้เป็นพื้นเรียบเพื่อบรรทุกสัมภาระได้ รวมทั้งมีช่องวางแก้วน้ำ ช่องเล็กน้อยเพื่อรองรับอรรถประโยชน์ที่หลากหลาย

ส่วนอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงพร้อมระบบเชื่อมต่อถูกบรรจุอัดแน่นมีให้ครบ สั่งการทุกอย่างผ่านหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ดูขัดหูขัดตาไปนิดก็ตรงที่ชุด

เครื่องเสียง ใช้งานค่อนข้างยากเมื่อเทียบกับหลาย ๆ ค่าย และเมื่อมีโอกาส มานั่งในตำแหน่งหลังพวงมาลัย ก็ได้พบกับเซอร์ไพรส์ที่ 3 คือ การทำงานของเครื่องยนต์เบนซิน DOHC MIVEC ขนาด 1.5 ลิตร 105 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที

ทำงานประสานกับช่วงล่างที่ได้รับการออกแบบระบบกันสะเทือนมาเป็นพิเศษ พร้อมสตรัตหน้ารูปทรงทาวเวอร์บาร์พร้อมสปริงขนาดใหญ่ ช่วยลดการบิดตัวขอตัวถังเวลาเข้าโค้ง แถมยังช่วยป้องกันการยุบตัวของโช้กอัพ ในเส้นทางขรุขระ

ตอบคำถามที่อยู่ในขณะนั่งโดยสารตลอดเส้นทาง เรื่องการยึดเกาะถนน แรงเหวี่ยง อาการยวบยาบ ว่าจะมีมากน้อยแค่ไหนจะได้เป็นอย่างดี เพราะตลอดระยะทางหลายร้อย กม. ไม่มีอาการดังกล่าวให้เห็น ทั้งความเร็วสูงและบนเส้นทางคดเคี้ยว

มาถึงกำลังเครื่องยนต์ ต้องบอกต่างจากที่คิดไว้เยอะ ตีนต้นอาจไม่ปรู๊ดปร๊าด แต่เมื่อเครื่องวิ่งขึ้นไปติดลมบนแล้ว เรี่ยวแรง พละกำลัง มีให้เหลือเฟือ จังหวะวิ่งด้วยความเร็วสูง มั่นใจได้กับช่วงล่าง

พวงมาลัยมีความแม่นยำ สั่งการได้ดังใจ… แต่จังหวะกดแป้นเบรกนั้น เบรกให้ความรู้สึกได้ถึงอาการดื้อเท้าเล็กน้อย…แต่เอาอยู่

ถึงตรงนี้บอกได้อย่างเดียว ไม่แปลกใจว่าทำไมทีมงานมิตซูบิชิถึงมั่นอกมั่นใจ ว่ารถคันนี้จะสามารถโกยยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำ ท้ายที่สุดคงต้องรอดูดาบสุดท้าย มิตซูบิชิจะเคาะราคารถรุ่นนี้ออกมาที่เท่าไร


วันที่ 17 ส.ค.นี้รู้กัน…กับการเปิดราคาอย่างเป็นทางการในงานบิ๊กมอเตอร์เซล