โตโยต้า คัมรี ใหม่ รถคันนี้…มีดีเกินตัว

เทสต์คาร์ โดย วุฒิณี ทับทอง

 

กลับมาอีกครั้งสำหรับโตโยต้า คัมรี ตัวนี้ที่กำลังจะได้สัมผัสถือเป็นเจนที่ 8 แล้ววิศวกรของโตโยต้าพยายามเพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์แบบ เน้นความพิถีพิถันด้านการออกแบบสะท้อนความเหนือระดับกับดีไซน์ที่ลงตัวด้วยภายใต้สถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ TNGA ที่ผสานให้ผู้ขับขี่เป็นหนึ่งเดียวกับรถยนต์

และสิ่งที่โตโยต้าต้องการเหนือสิ่งอื่นใด ที่ทำ “คัมรี ใหม่” ให้ตอบสนองความต้องการที่เหนือความคาดหวังของลูกค้า

เริ่มต้นที่ TNGA คืออะไร ?

ที่ผ่านมาเรา ๆ ท่าน ๆ มักจะได้ยินคำนี้อยู่บ่อยขึ้น  TNGA คือการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงในการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ ด้วยโครงสร้างใหม่ ที่เรียกว่า Toyota New Global Architecture สำหรับตลาดบ้านเรานั้นโตโยต้าเริ่มใช้กับรุ่นซี-เอชอาร์

และล่าสุดกับคัมรี ใหม่ที่ทีมงานบอกว่ากลับมาครั้งนี้มีความเปลี่ยนแปลงพอสมควร ตั้งแต่โครงสร้างใหม่ ช่วงล่างใหม่ เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด เครื่องยนต์ Dynamic Force รวมถึงเครื่องยนต์ไฮบริด เจเนอเรชั่นที่ 4 เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้น

จากเดิมกลุ่มเป้าหมายของรถรุ่นนี้จะเป็นกลุ่มผู้บริหารเป็นส่วนใหญ่ แต่ครั้งนี้คัมรีกระชากวัยปรับเปลี่ยนบุคลิกเติมความกระฉับกระเฉง ลดอายุไปอย่างชัดเจน เรียกว่า ดูหนุ่มดูสาวขึ้น ซึ่งตรงกับเป้าหมายที่ต้องการเจาะกลุ่มผู้บริหารคนรุ่นใหม่ ให้ใช้งาน

รถคันนี้ในชีวิตประจำวันได้ ไม่ว่าจะขับเอง หรือนั่งโดยสารที่เบาะหลัง อย่างที่บอก รถคันนี้ดูปราดเปรียว โฉบเฉี่ยว แถมดูสปอร์ตขึ้นเป็นกอง ผลมาจากการออกแบบตัวถังถูกกดให้เตี้ยลง

ผสานกับเส้นลายรอบคันที่ให้มาทั้งความคมชัด ยิ่งขับให้รถคันนี้ชวนมองและน่าค้นหา ครั้งนี้ทีมงานเซตเส้นทางทดสอบออกเป็น 2 สเตชั่น ให้บรรดาสื่อมวลชนได้สัมผัสคัมรี ใหม่

“ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสทดสอบในเแทร็กช้างฯก่อน เพื่อให้เรามีโอกาสสัมผัสคัมรีในการขับขี่หลากหลายรูปแบบในสนาม ทีมงาน วางทางให้เราขับมีทั้งการขับแบบสลาลอม และเลนเชนจ์

จุดนี้เราได้สัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงของช่วงล่างที่บอกไปข้างต้นว่า โตโยต้าออกแบบให้รถต่ำลง ช่วยได้เยอะ ทั้งจังหวะหักหลบ และการเปลี่ยนเลนกะทันหัน คัมรี ใหม่ ทำได้ดีขึ้น แต่อาการโยนนั้นยังมีอยู่ แต่เทียบกับรุ่นก่อนนั้นดีขึ้นเยอะ

ที่สำคัญ การให้น้ำหนักของพวงมาลัยนั้นถือว่าแม่นยำคมกริบสั่งได้ตามน้ำหนักมือ ยิ่งในจังหวะทำความเร็วแล้วเข้าโค้งในสนามช้างฯผ่านได้สบาย ทั้งรถเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 G และเครื่องยนต์ไฮบริด 2.5 HV Premium นั้น ความรู้สึกต่างกันพอสมควร

ส่วนตัวแล้วชอบความรู้สึกที่ได้จากรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร 209 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบต่อนาทีมากกว่า การทำงานของเครื่องยนต์ที่เรียกรอบได้ดี ให้ทั้งความสนุก ความเร็วในการออกตัว โดยเฉพาะเวลาได้ยินเสียงของเครื่องยนต์ทำงานและเสียงยางที่บดไปกับถนน

ขณะที่รุ่นไฮบริดนั้น ใช้เครื่องยนต์ ขนาด 2,487 ความเร็ว ความแรงของเครื่องยนต์พร้อมตอบสนองในทันที
เพราะมีทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยกันทำงานแบบไร้รอยต่อไหลลื่น รุ่นไฮบริดนั้นจะให้กำลังน้อยกว่าที่ 178 แรงม้า ที่ 5,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตร ที่ 3,600-5,200 รอบต่อนาที และมีพลังของมอเตอร์ไฟฟ้ามาช่วยอีก 88 แรงม้า 202 นิวตันเมตร มีเสียงลมเล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสารเล็กน้อย ขณะที่วิ่งในสนามแต่ถือว่ารับได้

มาถึงภายในห้องโดยสาร โตโยต้าตั้งใจออกแบบโดยยึดผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง คอนโซลหน้าแบบ Y ดีไซน์
หน้าจอ ขนาด 8 นิ้ว ระบบสัมผัส จอแสดงข้อมูลการขับขี่ แสดงสถานะการทำงานของระบบต่าง ๆ ควบคุมเครื่องเสียง

จอแสดงผลการขับขี่แบบสีบนหน้ากระจกรถ ช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนน ยังเพิ่มความสะดวกสบายในการชาร์จสมาร์ทโฟนด้วยแท่นชาร์จไฟแบบไร้สาย พวงมาลัย 3 ก้าน พร้อมมัลติฟังก์ชั่นและระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย

เบาะนั่งคู่หน้าลดความอับชื้นด้วยพัดลมใต้เบาะกับพนักพิงปรับได้ 8 ทิศทาง ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่รวมทั้งกระจกมองข้างและพวงมาลัย ที่นั่งในห้องโดยสารตอนหลังสามารถปรับเอนได้ และสั่งการระบบเครื่องเสียงเจบีแอลที่มาพร้อมกับลำโพง 9 ตัวผ่านแผงควบคุมดิจิทัลเพียงปลายนิ้วสัมผัส ให้ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินไปกับสุนทรีย์และความสะดวกสบายที่มากกว่า

นอกจากเด่นในทุกด้านแล้ว ราคายังน่าสนใจทีเดียว 1.639-1.799 ล้านบาท

 

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat
.
หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!