รีวิวรถยนต์

ซูซูกิ เออร์ติก้า คุ้มค่า น่าคบ (คลิป)

คอลัมน์ เทสต์ คาร์ โดย วุฒิณี ทับทอง

 

ตลาดรถยนต์ มินิ เอ็มพี บ้านเราแม้จะเป็นตลาดที่ไม่ได้ใหญ่โตมากมาย แต่ต้องบอกว่าเป็นตลาดที่มีกลุ่มลูกค้าและแฟนรออยู่เป็นจำนวนไม่น้อย และค่ายรถยนต์เองก็ไม่สามารถปฏิเสธความต้องการของตลาดกลุ่มนี้ไปได้

นอกจากกลุ่มเป้าหมายหลักจะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กำลังสร้างครอบครัว หรือกลุ่มผู้ต้องการใช้รถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นแล้ว ต้องการใช้อรรถประโยชน์ของรถมากขึ้น ทั้งบรรทุกคนและบรรทุกของ รถกลุ่มนี้ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

ล่าสุด ค่ายซูซูกิ ส่ง เออร์ติก้า ใหม่ ออกสู่ตลาดบ้านเรา และกรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ยอมรับว่า หลังจากเปิดตัวได้รับการตอบรับเกินความคาดหมาย เพราะยอดจองที่วิ่งเข้ามายังดีลเลอร์นั้นจองรถวันนี้อาจจะต้องใช้เวลารอนานเดือนครึ่งถึง 2 เดือนเข้าไปแล้ว

สำหรับเออร์ติก้า ถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 ที่แนะนำออกสู่ตลาดบ้านเรา รถประเภทนี้เป็นที่ทราบกันดีว่า เป็นการนำเข้ามาจำหน่ายจากอินโดนีเซีย ประเทศที่ถือว่ารถมินิเอ็มพีวี ขนาด 7 ที่นั่งได้รับความนิยมสูงมาก

ความเปลี่ยนแปลงสำหรับเออร์ติก้า เจน 2 นั้น หลักใหญ่ที่ หัวใจสำหรับเพิ่มขนาดของเครื่องยนต์ จากเดิมเป็นเครื่อง 1.4 ลิตร เพิ่มเป็น 1.5 ลิตร 105 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดช่วยเพิ่มพละกำลังในการขับเคลื่อน เมื่อเทียบกับขนาดของตัวรถ ถือว่าช่วยเพิ่มความคล่องตัวได้เยอะ

ถัดมาซูซูกิ ได้ใช้เทคโนโลยีทางวิศวกรรมด้วยการออกแบบแพลตฟอร์มใหม่ ใช้โครงสร้างตัวถัง HEARTTECH ที่ทำจากเหล็กกล้า เน้นความยืดหยุ่น แข็งแรง ทนทาน และน้ำหนักเบา

และยังได้ยืดตัวถังขึ้นไปในทุกมิติ ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น โดยความกว้างเป็น 1,735 มม., ยาวเป็น 4,395 มม. และความสูงเป็น 1,690 มม. ส่วนระยะความสูงจากพื้นถึงตัวรถนั้นถูกกดให้ต่ำลง 5 มม. ขณะที่น้ำหนักของตัวรถโดยรวมกลับเบาลง 50 กิโลกรัม

ซูซูกิเลือกใช้เส้นทางทดสอบครั้งนี้โดยขึ้นไปเหนือสุดแดนสยาม จ.เชียงราย เพื่อให้บรรดาสื่อมวลชน รวมทั้ง “ประชาชาติธุรกิจ” ได้สัมผัสกับความเปลี่ยนแปลงของรถคันนี้ ในสภาพเส้นทางที่มีทั้งทางราบ ทางลาดชัน ขึ้น-ลง เขา ให้สัมผัสกับมินิเอ็มพีวีคันนี้ รวมระยะทางกว่า 160 กิโลเมตร

สำหรับซูซูกิ เออร์ติก้า คันที่เราได้รับนั้นถือเป็นรุ่นท็อป GX/AT เรียกว่า มาครบอุปกรณ์ ออปชั่น จัดว่าเต็มขั้น

ก้าวขึ้นห้องโดยสารถือว่าค่อนข้างสะดวก เพราะรถคันนี้มีระยะต่ำสุดจากพื้นเพียง 180 มม. บานประตูทั้งบานหน้าและบานหลังสามารถเปิดออกได้กว้าง

ในช่วงแรกของการทดสอบ “ประชาชาติธุรกิจ” กระโดดขึ้นไปนั่งในตำแหน่งผู้โดยสาร ลองทั้งนั่งด้านข้างคนขับ และด้านหลังในแถวที่สอง ซูซูกิใส่ใจรายละเอียด เพราะเบาะนั่งแถว 2 พื้นที่กว้างขวาง ตัวเบาะเลื่อนหน้าถอยหลังได้ 240 มม.

ยังเลื่อนขยับได้ง่ายดายเพื่อให้ผู้โดยสารในแถวที่ 3 ขึ้นไปนั่งได้ไม่ลำบากนัก และยังสามารถปรับพื้นที่การใช้งานด้วยการพับเบาะที่นั่งแถวสองแบบ 60 : 40 หรือปรับที่นั่งแถวสามเป็นแบบ 50 : 50 รองรับการใช้งานที่หลากหลาย

ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง มีพื้นที่ให้ทุกที่นั่งมีความสบาย พร้อมด้วยอุปกรณ์ อำนวยความสะดวกและความบันเทิงครบครัน

คอนโซลหน้าสีดำตัดกับลายไม้ ช่วยเพิ่มความเรียบหรู จอเครื่องเสียงขนาดใหญ่ แต่ไม่ได้แสดงภาพแต่อย่างใด สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนและยูเอสบี ปุ่มควบคุมมัลติฟังก์ชั่นที่พวงมาลัยทรง D-shape

เย็นสบายในทุกที่นั่งด้วยช่องปรับอากาศในตอนหน้า และแถวหลัง มีช่องชาร์จไฟให้ถึง 2 จุด ขนาด 12 โวลต์ ที่บริเวณคอนโซลหน้าด้านล่าง และคอนโซลกลาง ช่องวางแก้ว/ขวดน้ำถึง 8 จุด และใน 2 จุด บริเวณคอนโซลหน้ายังมีช่องลมเย็นช่วยให้เครื่องดื่มเย็นฉ่ำได้ตลอดการเดินทาง จากจุดพักแรก ไร่ชา บนดอยแม่สลอง

“ประชาชาติธุรกิจ” ไปนั่งที่ด้านหลังพวงมาลัย ปรับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้เหมาะสม

ออกเดินทางต่อไปยังเป้าหมายต่อไป เส้นทางช่วงนี้เป็นทางลงเขา ลงสู่ที่ราบ วิ่งมุ่งหน้าไปยัง อ.เชียงแสน เออร์ติก้า คันนี้มาได้เรื่อย ๆ บางจังหวะของเส้นทางที่มีเพื่อนร่วมทางจอแจ ความคล่องตัวของรถคันนี้ทำให้เราผ่านมาได้แบบไม่ยากนัก บางจังหวะ ต้องกดคันเร่งเพื่อเรียกกำลังของของเครื่องยนต์ ก็สามารถตอบสนองได้ดีพอสมควร บางจังหวะที่ต้องกระชากความเร็วก็ปรับเกียร์เข้าไปอยู่ในโหมดสปอร์ต คือกดปุ่มโอเวอร์ไดรฟ์ ก็ช่วยได้เยอะ

ส่วนช่วงล่างนั้น ไว้ใจได้ แม้บางจังหวะที่ต้องเข้าโค้งแรง ๆ ช่วงล่างคันนี้เอาอยู่ แต่นั่นหมายถึงความเร็วต้องไม่เกิน 120-130 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้น

ถือว่าเออร์ติก้าตอบโจทย์ อาจจะไม่ได้นิ่มนวล แต่ไม่ถึงกับกระโดดกระเด้งกับความเป็นรถครอบครัวโดยสารกันไปทั้งคัน เรื่อย ๆ ไม่เร่งรีบไปถึงที่หมายอย่างปลอดภัย พร้อมความสะดวกสบายเต็มคัน

ถึงตรงนี้ใครกำลังมองหารถสไตล์นี้ ถือว่า ซูซูกิ เออร์ติก้า เป็นอีกคันที่ไม่ควรพลาด “Unlock Your Life…ปลดล็อกอีกด้านของชีวิต”

ลองเข้าไปทดลองขับก่อนตัดสินใจได้ที่โชว์รูมซูซูกิทั่วประเทศ และพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจ ซูซูกิยังจัดแคมเปญสุดพิเศษ ขับฟรี 90 วัน มีให้เลือก 2 รุ่นกับราคา 6.55-6.95 แสนบาท

ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 4,444 บาท หรือส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่าสูงสุด 10,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งด้วย