มั่นใจไปกับ “กู๊ดเยียร์” เอฟฟิเชี่ยนกริป เพอร์ฟอร์แมนซ์

คอลัมน์ เทสต์ คาร์ โดย วุฒิณี ทับทอง

ถือ เป็นฤดูกาลขาย สำหรับตลาดยางรถยนต์ เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางปี หรือโดยเฉพาะยิ่งเข้าสู่ช่วงฤดูฝน จะเห็นว่า ค่ายยางรถยนต์หลาย ๆ ค่ายต่างทยอย แนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ๆ ในหลากหลายเซ็กเมนต์ออกสู่ตลาดเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า ผู้ที่กำลังมองหาความปลอดภัย และมั่นใจตลอดการขับขี่ในทุกเส้นทาง

เมื่อ เร็ว ๆ นี้ “ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสได้ร่วม เปิดตัวยางสำหรับรถยนต์เอสยูวี รุ่นใหม่จากค่ายกู๊ดเยียร์ บริษัทผู้พัฒนายางรถยนต์ จักรยานยนต์ เครื่องบิน ฯลฯ ที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงนี้มาจนอายุปาเข้าไป มากกว่าศตวรรษ ส่วนบ้านเรานั้น “กู๊ดเยียร์” อยู่เมืองไทยมาเกือบครึ่งศตวรรษ หรือจะครบรอบ 50 ปี ในปีหน้า

สำหรับทริปทดสอบครั้งนี้ กู๊ดเยียร์ ตัดสินใจ เลือกใช้ไทย เป็นประเทศในการเปิดตัวยางสำหรับรถยนต์เอสยูวี

“กู๊ดเยียร์ เอฟฟิเชี่ยนกริป เพอร์ฟอร์แมนซ์ เอสยูวี” เป็นครั้งแรกในเอเชีย ซึ่งกู๊ดเยียร์ได้นำเอาเทคโนโลยีล่าสุดมาใส่ไว้ในยางรุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นไควเอ็ทเทรด ที่ออกแบบดอกยางให้ดูดซับเสียงรบกวน ร่องยางแบบปิดเพื่อเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ที่เงียบนุ่ม, เฟล็กซ์คอนแทค ออกแบบยางคอมปาวนด์ และมีการพัฒนาโพลีเมอร์สูตรพิเศษ เพื่อใช้ในคอมปาวนด์ของดอกยาง เพิ่มสมรรถนะในการยืดเกาะถนน ทั้งบนถนนแห้ง และเปียก ซึ่งกู๊ดเยียร์ตั้งใจให้ยางรุ่นนี้ ออกมาตอบโจทย์และตรงใจกับกลุ่มผู้ใช้รถยนต์เอสยูวีมากที่สุด

นอกจากงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่กู๊ดเยียร์เลือกใช้ประเทศไทยเป็นเวทีสำคัญของ ภูมิภาคแล้ว ในเรื่องของการทดสอบ สมรรถนะ คุณภาพ ประสิทธิภาพของยางรุ่นนี้ กู๊ดเยียร์ยังตั้งใจเลือกใช้ สนามช้างอินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ สนามแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ และรถจักรยานยนต์ที่ได้มาตรฐานสากล มาเป็นแทร็กทดสอบ

สำหรับรูปแบบของการทดสอบ ทีมงานได้จำลองสถานการณ์ต่าง ๆ แบ่งออกเป็น 5 สถานีหลัก เพื่อให้ผู้ทดสอบได้รับรู้ถึงประสิทธิภาพ สมรรถนะที่แตกต่างกัน ซึ่งทางกู๊ดเยียร์เคลมไว้ว่า…ยางเอฟฟิเชี่ยนกริป เพอร์ฟอร์แมนซ์นี้ให้ความเงียบขึ้นกว่ารุ่นก่อน ถึง 10% ความนุ่มดีขึ้นกว่าเดิม 5% และที่สำคัญ เรื่องของประสิทธิภาพในการเบรกบนพื้นที่เปียกทำได้ดีขึ้น 10%

ไม่รอช้า…. ไปพิสูจน์พร้อม ๆ กันกับบรรดาสื่อมวลชนทั่วภูมิภาคเอเชีย กว่า 200 ชีวิต เริ่มกันที่ การทดสอบ ประสิทธิภาพการเก็บเสียง ซึ่งทีมงานให้เราเกาะขอบสนามช้างฯเฝ้าดูการทดสอบ จากการนำรถยนต์เอสยูวีที่ใช้ยางของคู่แข่ง ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกันมาวิ่งทดสอบผ่านเครื่องวัดระดับความดังของเสียงถึง 3 ครั้ง แล้วหาค่าเฉลี่ย

จากนั้นก็เปลี่ยนยางทั้ง 4 เส้นให้เห็นกันจะจะ เป็นยางเอฟฟิเชี่ยนกริป เพอร์ฟอร์แมนซ์ เอสยูวี ขับผ่านเครื่องวัดเสียง 3 ครั้ง บนความเร็วเท่า ๆ กัน โดยพยายามควบคุมปัจจัยต่าง ๆ ให้เหมือนกัน ปรากฏว่ายางของคู่แข่งมีระดับเสียงอยู่ที่ 76.33 เดซิเบล ส่วนยางกู๊ดเยียร์ เอฟฟิเชี่ยนกริป เพอร์ฟอร์แมนซ์ เอสยูวี มีระดับเสียงอยู่ที่ 74.1 เดซิเบล ซึ่งเป็นค่าโดยเฉลี่ยมีความเหนือกว่าในเรื่องความเงียบยางเห็นได้ชัด

จากนั้นก็เข้าสู่การทดสอบ ระยะเบรก ลักษณะการทำก็เช่นเดิมเป็นการเปรียบเทียบระหว่างยางกู๊ดเยียร์และยางของคู่ แข่งด้วยวิธีการ วิ่ง 3 ครั้ง แล้วหาค่าเฉลี่ย บนความเร็วประมาณ 80 กม.ต่อ ชม. ปรากฏว่าการทำระยะเบรกของยางกู๊ดเยียร์นั้น ทำได้ “สั้น” กว่าคู่แข่งถึง 1 เมตร จากด้วยตัวเลข 24.5 และ 25.5 เมตร

เมื่อได้เวลาแบ่งสื่อมวลชนออกเป็นกลุ่ม ๆ เริ่มกันที่สถานีแรก กับการขับแบบสลาลมบนพื้นเปียก-แห้ง ด้วยรถเอสยูวี ซึ่งแม้ขนาดและรูปร่างอาจะไม่ได้คล่องตัวเท่ารถยนต์สปอร์ตซีดานทั่ว ๆ ไป แต่เราก็สามารถควบคุมรถให้ไปตามทิศทางของการขับพวงมาลัยได้อย่างง่ายดาย มั่นใจ ก่อนเข้าสู่สถานีการเปลี่ยนเลนกะทันหัน บนพื้นเปียก-แห้ง ไม่ได้เป็นอุปสรรค

แม้ต้องวิ่งและเปลี่ยนเลนด้วยความเร็วสูง เพื่อเปรียบเทียบยางของคู่แข่ง และยางกู๊ดเยียร์ เอฟฟิเชี่ยนกริป เพอร์ฟอร์แมนซ์ เอสยูวี นั้น สามารถพบกับความแตกต่างได้ชัดเจน ยางของกู๊ดเยียร์สามารถควบคุมรถได้ง่ายกว่า

เมื่อมาถึงสถานีการขับ ทางตรง เพื่อวัดแรงสั่นสะเทือนและสถานีสุดท้ายเป็นการขับบนถนนจริงของ จ.บุรีรัมย์ ระยะทางรวมไป-กลับประมาณ 70 กม. ขับบนเส้นทางหลัก และทางรอง ผ่านทุ่งนาเลียบไปกับคลองชลประทาน บางช่วงผ่านหลุมผ่านบ่อ แรงสะเทือนที่ขึ้นมาถึงห้องโดยสารนั้นถือว่า น้อยกว่าที่คิด

สุดท้ายสำหรับยางกู๊ดเยียร์ เอฟฟิเชี่ยนกริป เพอร์ฟอร์แมนซ์ เอสยูวี เวอร์ชั่นนี้ถือว่าน่าสนใจเพราะทีมงานกู๊ดเยียร์ตั้งใจ และบรรจงคัดสรร เทคโนโลยี วัตถุดิบต่าง ๆ มาอัดแน่น คนที่มองหายางคู่ใจ รถชุดใหม่ ยางถือว่าน่าสนใจไม่น้อย