มาสด้า 2 แรงระยับ เต็มแทร็กช้าง 2 นาทีนิดๆ

วันที่ 3 มกราคม 2563 - 16:28 น.

คอลัมน์ เทสต์ คาร์ โดย อมร พวงงาม

นึกไม่ออกเหมือนกัน อีโคคาร์ รถบ้าน ๆ ไม่ได้ตกแต่งอะไรเลย เอาลงไปซิ่งในแทร็กระดับโลก “ช้างเซอร์กิต” ที่บุรีรัมย์ ระยะทางต่อรอบ 4.5 กม.

คนขับก็ไม่ได้มีดีกรีนักแข่งติดตัวกันสักเท่าไหร่ อาศัยมีอินสตรักเตอร์คอยแนะนำนิดหน่อย ใช้เวลาต่อรอบกันแค่ 2 นาทีนิด ๆ เท่านั้น แทบไม่ต่างไปจากรถแข่งกลุ่มคอมแพ็กต์ที่เข้าร่วมในรายการดัง ๆ บ้านเรากันเลยทีเดียว

สัปดาห์ก่อน ผู้บริหารค่ายมาสด้าขนทัพสื่อสายรถยนต์ชุดใหญ่ ไปลองขับรถยนต์มาสด้า2 สปอร์ตพรีเมี่ยมตัวใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

เป้าหมาย ต้องการพิสูจน์สมรรถนะและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่บรรจงยัดเข้าไปกับรถรุ่นนี้ว่าเหนือชั้นกว่าอีกหลาย ๆ แบรนด์ ในตลาดกลุ่มเดียวกัน

ก่อนจะไปถึงการทดลองขับในแทร็ก ขออนุญาตปูพื้นกันนิดนึงก่อน

มาสด้า2 เข้าตลาดบ้านเราปี 2552 ใช้เม็ดเงินลงทุนกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ด้วยรูปทรงและสมรรถนะการขับขี่ที่เน้นความสนุก ทำให้ยอดสะสม มาสด้า2 วิ่งไปแตะ 1.2 แสนคัน แบบไม่ยาก

6 ปีให้หลัง มาสด้าขอรับส่งเสริมจากบีโอไอ ทุ่มเม็ดเงินอีกกว่า 2.1 หมื่นล้าน ตั้งโรงงานประกอบ, โรงงานผลิตเครื่องยนต์และผลิตเกียร์

ดันมาสด้า2 เข้าเกณฑ์อีโคคาร์ เฟส 2 มุ่งมั่นนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทั้งสกายแอคทีฟ ที่เน้นความแรง แต่ประหยัด เติมเต็มออปชั่นต่าง ๆ ตั้งแต่ไอ-สต็อป ระบบดับและสตาร์ตเครื่องยนต์อัตโนมัติ กรณีจอดหยุดนิ่งนาน ๆพร้อมทั้งไอ-อีลูป ระบบช่วยชาร์จพลังงานเก็บเข้าแบตเตอรี่ไม่ให้เป็นภาระของเครื่องยนต์ ส่งผลให้มาสด้าสามารถสร้างประวัติศาสตร์ในตลาดรถเล็ก ด้วยยอดสะสม 1.6 แสนคัน

ส่วนมาสด้า2 โฉมใหม่ ที่เรากำลังจะไปลองขับกันวันนี้ มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง ไปชมกัน

ถ้าจะให้พูดง่าย ๆ ทีมวิศวกรของมาสด้าพยายามทำมาสด้า2 ให้ใกล้เคียงกับมาสด้า3 รุ่นล่าสุดเท่าที่ทำได้

ทั้งหน้าตาและอุปกรณ์ ขณะที่ฝ่ายการตลาดก็รีเฟรชแบรนด์สไตล์ใหม่ สื่อสารถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น ไม่แปลกแค่เดือนเดียวฟาดไปกว่า 3 พันคัน จุดเด่นยังเน้นดีไซน์ บายโคโดะ แต่พัฒนาบนพื้นฐานของ SKYACTIV-Vehicle Architecture

ภายในเน้นหรูหราสปอร์ตพรีเมี่ยม ตรงไหนที่เป็นจุดอ่อน แก้ไขใหม่หมด เช่น ตำแหน่งท่านั่งขับขี่ดีที่สุด ด้วยการขยับล้อหน้าออกไปอีกนิด ทำให้แป้นคันเร่งไม่ติดโป่งล้อหน้า การวางเท้าได้เซ็นเตอร์มากขึ้น ไม่เอียงเหมือนตัวเก่า

ระบบเก็บเสียงเริ่ด เสริมด้วยฉนวนกันเสียง ทั้งหลังคา ฝาท้ายด้านบนของรุ่นแฮตช์แบ็ก ปรับปรุงการซับเสียงที่เสาบีและซุ้มล้อด้านหลัง

หยิบ “จี-เวคเตอริ่ง พลัส” หรือระบบควบคุมการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง ใส่เข้าไปด้วย ตรงนี้แหละที่เป็นจุดขายของมาสด้า2

ติดตามข่าวเปิดตัวรถใหม่ และ รีวิวรถยนต์ กับ ประชาชาติธุรกิจ

ผู้บริหารมาสด้าย้ำตลอดว่า รถมาสด้า2 เน้นความคุ้มค่า มาสด้าเป็นแบรนด์เดียวที่มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบ ทั้งเบนซิน 1.3 ลิตร 4 สูบ 93 แรงม้า และดีเซล 1.5 ลิตร เทอร์โบ 105 แรงม้า

ทั้ง 2 เครื่องอัพเกรดใหม่ ประหยัดสุด ๆ เบนซินทำได้ 23.3 กม./ลิตร ดีเซลทะลุไปถึง 26.3 กม./ลิตร ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ ท็อกคอนเวอร์เตอร์แบบ 6 สปีด เจ้าเดียวขับสนุกกว่าขณะที่คู่แข่งเป็นเกียร์ซีวีที

เอกลักษณ์ของมาสด้า2 ยังเน้นเรื่องความปลอดภัย i-ACTIVSENSE เตือนทุกเวลา ตั้งแต่พบว่าเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุรอบคัน เช่น มีรถในจุดอับสายตา ทั้งขณะเปลี่ยนเลนและถอยหลัง มีระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง พร้อมระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาสาว ๆ

มีมาสด้าคอนเน็กต์ระบบเชื่อมต่อข้อมูลข่าวสารจากสมาร์ทโฟน แสดงผลที่หน้าจอขนาด 7 นิ้ว มีเซ็นเตอร์คอมมานเดอร์ ควบคุมการทำงานทุกอย่างแค่ปลายนิ้วสัมผัส

ได้เวลาลงแทร็กกันแล้ว อย่างที่บอก จุดขายของมาสด้า2 ต้องการตอบโจทย์ลูกค้าให้ครบถ้วนดีไซน์ว่ากันไปแล้ว “หรูหรา สวย เนี้ยบ เฉียบ” ที่สำคัญ ดูแพง

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก-ความปลอดภัยจัดเต็ม ก็เหลือแค่การขับขี่

จั่วหัวไว้ตอนต้นแล้วว่า 4.5 กม.ของแทร็กช้าง ใช้เวลาแค่ 2 นาทีนิด ๆ สนามช้างมี 12 โค้ง แต่ละโค้งเราต้องมีความเร็วที่เหมาะสม

ระบบควบคุมการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง (GVC pluse) ทำได้เยี่ยมมาก ขณะที่เริ่มเข้าโค้ง ระบบจะลดแรงบิดเครื่องยนต์เล็กน้อย เพื่อให้ล้อหน้ายึดเกาะถนนได้มากขึ้น เข้าโค้งได้แม่นยำยิ่งขึ้น

เคยเห็นมั้ยครับ เลี้ยวไม่เข้า ล้นทุกโค้ง ปัญหานี้ไม่เกิดกับมาสด้า2

ส่วนขณะรถอยู่ในโค้ง แรงบิดเครื่องยนต์จะกลับสู่สภาวะปกติ เพื่อรักษาสมดุลของรถให้ดียิ่งขึ้น และที่สำคัญ ขณะรถออกจากโค้ง ระบบจะเพิ่มการทำงานของเบรกเพียงเล็กน้อยในล้อหน้าด้านนอกโค้ง เพื่อช่วยให้รถกลับสู่ทางตรงอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น นี่คือข้อดีของ GVC pluse

มาสด้า2 จัดเป็น “อีโคคาร์” ที่ขับสนุก ถึงตอนนี้ไม่แปลกใจละ ทำไมคนมาสด้าถึงได้มั่นใจกับรถธงตัวนี้ ยิ่งเปรียบเทียบกับราคาค่าตัว เริ่มต้นที่ 546,000 บาท ไปจนถึงตัวท็อป 799,000 บาท

ดูคุ้มค่าคุ้มราคาจริง ๆ