“อีซูซุ ดีแมคซ์” ขับสนุก เติมความสุขทุก ๆ เส้นทาง

คอลัมน์ เทสต์ คาร์ โดย วุฒิณี ทับทอง


ต้องยอมรับว่า อีซูซุ ดีแมคซ์ ถือเป็นรถปิกอัพที่มีแฟน ๆ ตั้งหน้าตั้งตารอกันอย่างเหนียวแน่น

จุดเด่นของปิกอัพอีซูซุ ไม่ใช่แค่ ประหยัด ซื้อง่าย ขายคล่อง ดีแมคซ์ ใหม่ (The All-New Isuzu D-Max) ตัวนี้ ยังใส่จุดขายเพิ่มเติม ให้ตรงกับสโลแกน “พลานุภาพ…พลิกโลก” ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นแล้วจากการตอบรับแบบถล่มทลาย

ล่าสุด ค่ายตรีเพชรอีซูซุเซลส์ ได้จัดทริปพาสื่อมวลชนร่วมสัมผัสประสบการณ์ไปกับรถยอดฮิตคันนี้ ในเส้นทางจากเมืองเชียงใหม่ ไต่ระดับความสูงขึ้นไปยัง อ.เชียงดาว เพื่อสัมผัสกับเส้นทางที่มีเสน่ห์อีกเส้นทางหนึ่ง ที่นำเราเดินทางไปกับอีซูซุ ดีแมคซ์ ใหม่

โดยคณะพวกเราถือเป็นสื่อมวลชนกลุ่มแรก ที่ได้สัมผัสกับขวัญใจมหาชน คันนี้ครั้งนี้ ทีมงานเซตให้นั่ง ดีแมคซ์ใหม่
ไฮแลนเดอร์ รุ่น 4 ประตู ขับ 2 ยกสูง  โดยให้นั่งคันละ 3 คน เนื่องจากการออกแบบของห้องโดยสารที่เน้นความสะดวกสบาย และความกว้างขวางของที่นั่งทั้ง 5 ให้ความรู้สึกไม่แตกต่างจากการนั่งในห้องโดยสารของรถซีดาน

ช่วงแรกของการเดินทาง “ประชาชาติธุรกิจ” กระโดดไปยึดพื้นที่ห้องโดยสารตอนหลัง เพื่อขอสัมผัสความสะดวกสบายกันก่อน

เรียกว่าผิดหูผิดตา กับบรรยากาศที่อีซูซุใส่มาให้กับรถคันนี้ มีทั้งความหรูหรา ล้ำสมัย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน

เอาใจผู้โดยสารตอนหลังด้วยมีช่องแอร์ที่ท้ายคอนโซลกลาง พร้อมด้วยช่องชาร์จไฟแบบ USB

นั่งสบายด้วยเบาะกึ่งหนังแท้ โอบกระชับรับกับสรีระ ให้ทั้งความหนาและนุ่ม โดยส่วนตัวชื่นชอบและประทับใจกับความสบายบนเบาะโดยสารของรถคันนี้ และจากการสอบถามยังกูรู “ยุทธ-จิรยุทธ อดิเทพนรางกูร” ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด

ได้ความกระจ่างว่า ทีมวิศวกรได้แรงบันดาลใจการออกแบบเบาะที่นั่งของรถคันนี้ มาจากชุดแข่งของนักอเมริกันฟุตบอล ที่ให้ทั้งความกระชับ มั่นใจ และปลอดภัย

ในเส้นทางช่วงแรกของเชียงใหม่ มุ่งหน้าสู่ อ.แม่ริม เพื่อรองท้องมื้อกลางวัน และไปชมไร่สตรอว์เบอรี่ อันขึ้นชื่อในเขต อ.สะเมิง เส้นทางคดโค้ง ขบวนอีซูซุ ดีแมคซ์ วิ่งกันทำเวลากันพอสมควร ในจังหวะที่คนขับเข้าโค้งโค้งแล้วโค้งเล่า อาการเหวี่ยง โยน ที่มีเข้ามาในห้องโดยสาร ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับบุคลิกของรถปิกอัพทั่วไป ให้สัมผัสได้

ระหว่างที่ชาวคณะเพลิดเพลินกับไร่สตรอว์เบอรี่ แอบสำรวจมาดูความเปลี่ยนแปลงของรถคันนี้ ถือว่าล้ำสมัยขึ้นเยอะ ด้วยความเท่ในสไตล์รถปิกอัพยกสูงแล้ว

ด้วยแนวคิดการออกแบบ “Bold but Emotional” ที่ตั้งใจให้ดีแมคซ์ คันนี้ มีมิติที่ใหญ่ บึกบึน กระจังหน้าต่อเนื่องกับช่องดักลมขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกดุดันยิ่งขึ้น และจากแนวคิดการออกแบบดังกล่าว ยังช่วยให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศต่ำที่สุด

โดยการทดสอบในอุโมงค์ลม JapanRailway Research Institute หรือ JR ซึ่งเป็นสถานที่ทดสอบรถไฟหัวกระสุนของญี่ปุ่น

สะดุดตากับไฟหน้า Isuzu Vision Bi-LED ที่เปิด-ปิดอัตโนมัติ ไฟ multifunctional daylight แบบ built-in ไฟเลี้ยว และไฟตัดหมอก LED ที่กันชนหน้าขนาดใหญ่ ไฟท้าย dual-sonic LED

เมื่อได้เวลากระโดดขึ้นไปนั่งในตำแหน่งด้านหลังพวงมาลัย ทัศนวิสัยของดีแมคซ์ถือว่าชัดเจน ด้วยความเป็นรถยกสูง ยิ่งช่วยให้มองทางข้างหน้าได้ไกล

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นจับกระชับมือ หน้าจอแสดงมาตรวัดต่าง ๆ ชัดเจน ดูง่าย จอที่คอนโซลกลาง ขนาด 9 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อระบบความบันเทิงต่าง ๆ ได้ง่าย เพียงปลายนิ้วสัมผัส พร้อมระบบนำทางเนวิเกเตอร์

ด้วยขุมพลังของเครื่องยนต์ขนาด 1.9 ลิตร ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เจเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งทีมอีซูซุตั้งใจพัฒนาขึ้นใหม่ทุกด้าน ด้วยกำลังแรงม้าถึง 150 แรงม้า ทำให้รถคันนี้มีความปรู๊ดปร๊าดพอสมควรยิ่งในจังหวะออกตัว ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

ขับด้วยความเร็วตามกฎหมายกำหนดในเขตพื้นที่ชุมชน ความคล่องตัวของรถคันนี้ถือว่าควบคุมง่าย ออกนอกเมืองเพิ่มระดับความเร็ว เครื่องยนต์ตอบสนอง สามารถวิ่งไต่ระดับความเร็วขึ้นได้ ไปถึง 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้แบบสบาย ๆ

นอกจากเรื่องขุมพลังของเครื่องยนต์ และความปลอดภัย มีมาครบหายห่วง ด้วยระบบเซ็นเซอร์กะระยะถึง 8 จุด ระบบเตือนจุดอับสายตา ส่งสัญญาณเตือนที่มุมกระจกมองข้าง

เรียกว่า ปลอดภัย หายห่วง…

สำหรับใครที่กำลังมองหาปิกอัพคู่ใจเพื่อการใช้งาน จะขับเท่ในเมือง หรือขับลุย เพื่อการใช้สำหรับบรรทุกของ อีซูซุมีรถให้เลือกตามความต้องการใช้งาน ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 510,000 บาท ไปจนถึง 1.164 ล้านบาท