รีวิวรถยนต์

ซูซูกิ เซียส อัดแน่นความสบาย มั่นใจทุกเส้นทาง

คอลัมน์ เทสต์ คาร์ โดย วุฒิณี ทับทอง

ความคึกคักของตลาด “อีโคคาร์” ในบ้านเรา ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ถือว่ามีส่วนสำคัญในการช่วยพยุงให้ยอดขายรถยนต์ทั่วตลาดไม่ดำดิ่งลงไปมากกว่าที่ควรจะเป็น

โดยเฉพาะผู้เล่นในตลาดต่างเพิ่มความสดใหม่ ทั้งโมเดลเชนจ์ อย่างนิสสัน อัลเมร่า ที่เลือกใช้เครื่องยนต์ 1 ลิตรเทอร์โบ ยังมีฮอนด้า ลดไซซ์รถบี-คาร์รุ่นขายดี ฮอนด้า ซิตี้ ขยับลงมาลุยตลาดอีโคคาร์เฟส 2

ส่วนค่ายอื่น ๆ แม้ว่าจะไม่ได้มีการปรับใหม่ แต่ก็มีการปรับเพิ่มเสริมออปชั่น เพื่อให้อีโคคาร์ ซีดานของตัวเอง ไม่เพลี่ยงพล้ำไปมากกว่าในภาวะเช่นนี้

ล่าสุด ซูซูกิ ตัดสินใจนำรถยนต์นั่ง ซูซูกิ เซียส ซึ่งยังอยู่ภายใต้โครงการอีโคคาร์เฟส 1 มาปรับเพิ่มออปชั่น แถมยังดึงนางเอกสาว “เบลล่า-ราณี แคมเปญ” มาร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพิ่มความกระชุ่มกระชวยให้กับโปรดักต์ให้กับรถยนต์นั่งอีโคคาร์เฟส 1 ที่เหลืออยู่รุ่นเดียวในไลน์อัพ พร้อมเพิ่มความสดใหม่ให้กับรถคันนี้ โดยชูความคุ้มค่าคุ้มราคาและยังช่วยอำนวยความสะดวก

ด้านสินเชื่อให้กับกลุ่มลูกค้า ผ่าน “เอ็กซ์คลูซีฟ ลีสซิ่ง” 4 ราย ได้แก่ เกียรตินาคิน, ทิสโก้, กสิกรไทย และธนชาตพร้อมทั้งปรับไลน์อัพโปรดักต์ มาเริ่มต้นที่รุ่น GL เกียร์ธรรมดา 523,000 บาท และขยับไปที่ตัวเกียร์ออโต้ เริ่มต้นที่รุ่น GL 559,000 บาท GLX 625,000 บาท รุ่นตกแต่งพร้อมออกจากโรงงานอย่างรุ่น RS รุ่นท็อป ราคา 675,000 บาท ที่ซูซูกิเพิ่งเปิดตัวไป

ซูซูกิจัดทริปทดสอบถึง จ.เชียงใหม่ เลือกใช้เส้นทางขึ้นเขาลงเขา เพื่อพิสูจน์กันให้เห็นไปเลยว่า รถอีโคคาร์ซีดานคันนี้จะผ่านเส้นทางเมืองเชียงใหม่-อ.เชียงดาวไปได้แบบสบาย ๆ ?

มาดูกันที่ความเปลี่ยนแปลงภายนอกกันก่อน หลังจากก่อนหน้านี้ ซูซูกิปรับกลยุทธ์ เพิ่มความคุ้มค่า ด้วยจัดแพ็กเกจ

ชุดแต่งให้กับเซียสมาแล้ว โดยขยับราคาขึ้นมาเล็กน้อย แต่ลูกค้าได้ความสบายใจมาตรฐานคุณภาพและการรับประกันของชุดแต่งที่รุ่นท็อป RS ที่ให้มาทั้งความโดดเด่นด้วยชุดแต่งสเกิร์ตหน้า-ข้าง-หลังเพิ่มความโดดเด่นด้วยโครเมียม พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 กระจังหน้าออกแบบใหม่ ดูโดดเด่นด้วยตะแกรงหน้าสีดำตัดกับเส้นสายของโครเมียม โดยเฉพาะโลโก้สัญลักษณ์ตัว S ชุดโคมไฟ LED ที่ควบคุมลำแสงด้วยโปรเจ็กเตอร์เลนส์ ไฟหรี่แบบ LED

สิ่งที่ซูซูกิเพิ่มเข้าให้กับรถคันนี้ และดูจะเป็นที่ถูกอกถูกใจคือกล้องมองหลังพร้อมระบบเซ็นเซอร์ที่แสดงการทำงานผ่านหน้าจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว บริเวณคอนโซลกลาง เรียกว่าชัดเจนแจ่มแจ๋ว เพิ่มความสะดวกสบายในจังหวะการกะระยะถอยหลัง

ส่วนเรื่องความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารนั้น ถือว่าซูซูกิ เซียส มีความได้เปรียบรถในเซ็กเมนต์เดียวกัน เพราะมีพื้นที่ในแต่ละที่นั่งค่อนข้างเหลือเฟือ โดยเฉพาะการคุมโทนสี ความรู้สึกในห้องโดยสารที่เน้นสีดำ ยิ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกกว้างขวางมั่นคง และดูหรูหราล้ำสมัยด้วยโครเมียมมาใช้เน้นในส่วนของเส้นสายภายใน

การทดสอบ ไม้แรก “ประชาชาติธุรกิจ”ในฐานะผู้โดยสาร ที่นั่งเบาะด้านหลัง เพื่อสัมผัสกับความกว้างขวาง และความสบายของรถคันนี้ แม้จะได้รับแรงเหวี่ยงแรงโยนในจังหวะเข้าโค้ง แต่ด้วยเซียส รถคันนี้ได้รับพัฒนาบนแพลตฟอร์ม “ฮาร์ตเทค”(HEARTECH) ทำให้ลดแรงดังกล่าวลงไปได้พอสมควร

สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างคือ พนักพักแขนตรงกลาง พร้อมที่วางแก้วน้ำ แถมระบบปรับอากาศ ที่เย็นฉ่ำทั่วทั้งคัน ช่วยให้ผู้โดยสาร สามารถผ่อนคลายอิริยาบถต่าง ๆได้ตลอดการเดินทาง

เมื่อขยับมานั่งหลังพวงมาลัย เพื่อดูขุมกำลังของเครื่องยนต์ ที่ยังเป็นเครื่องเดิมบล็อกเดิม K12B เบนซิน 4 สูบ ขนาด1.2 ลิตร 91 แรงม้า ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ ในจังหวะการออกตัว เป็นไปตามบุคลิกของรถที่อาจจะต้องอาศัยจังหวะ รอเรียกกำลังเล็กน้อยในการออกตัว เมื่อวิ่งด้วยความเร็วขึ้นไประดับหนึ่งการตอบสนองของเครื่องยนต์ ไม่ขี้เหร่ จังหวะเข้า-ออกโค้ง ก็ให้มาได้ค่อนข้างมั่นใจ

อ๋อ ลืมบอกไปว่า ซูซูกิเซตให้การทดสอบครั้งนี้ นั่งกันคันละ 4 คน

ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจ บางจังหวะของการกดคันเร่งอาจจะต้องดูตอบสนองช้าไปนิด ยิ่งจังหวะขึ้น-ลงเขา เมื่อเข้าสู่เส้นทางวิ่งกลับเข้าเมืองเชียงใหม่ รถหนาแน่นพอสมควรแต่ความคล่องตัวของซูซูกิ เซียสคันนี้ ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรง สามารถฝ่าสภาพการจราจรที่เริ่มจะคับคั่งมาได้

ถึงตรงนี้ต้องบอกว่า ซูซูกิ เซียส น่าจะเป็นอีโคคาร์อีกหนึ่งคันที่สามารถตอบสนองการใช้งานที่ค่อนข้างหลากหลายทั้งการขับในเมืองที่ไปได้แบบเรื่อย ๆ ไม่ต้องกระโชกโฮกฮาก ขับไปตามบุคลิกของรถเรื่อย ๆ ไม่ปรู๊ดปร๊าดแต่ยัง (พอ) มีความคล่องตัวหรือจะขับออกนอกเมือง รถคันนี้ก็สามารถชิลไปเรื่อย ๆ ตามเส้นทาง

แต่ถ้าโจทย์ของคุณคือ ความคุ้มค่าคุ้มราคา ซูซูกิ เซียส ถือเป็นหนึ่งชอยซ์ที่น่าสนใจ